Ford Ranger ในรุ่นใหม่จะถือได้ว่าเป็นรถกระบะที่จะถูกวางขายในระดับโลกจริงๆแล้วนะครับหลังจากที่ก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่จะขายอยู่ในบางประเทศเท่านั้นโดยมีแผนในการวางจำหน่ายแล้วมากกว่า 180 ประเทศและตัว platform ของมันเองยังไม่เป็น platform ให้กับ Volkswagen Amarok อีกซะด้วยดังนั้นพวกเขาจึงต้องใส่ใจการออกแบบในทุกซอกทุกมุมให้ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก
โดย Ford นั้นได้ทำการบ้านอย่างหนักในเรื่องของการพัฒนาตัวรถ Ford Ranger รุ่นใหม่โดยในตอนนี้ได้มีการทดสอบไปแล้วมากกว่า 10 กิโลเมตรบนทะเลทราย Blue Oval พร้อมยังทดสอบเส้นทางแบบออฟโรดไปแล้วมากกว่า 625,000 กิโลเมตรโดยตัวรถนั้นจะต้องสามารถวิ่งได้ในอุณหภูมิที่สูงกว่า 50 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นอากาศที่ค่อนข้างร้อนรุนแรงโดยในบางคันนั้นยังต้องวิ่งในแบบที่มีสัมภาระและที่บ้าไปกว่านั้นก็คือการลากจูงของไปด้วยในสภาวะที่ร้อนจัดในการทดสอบนั้นผ่านมาแล้วหลายพันชั่วโมงและถูกจำลองด้วยคอมพิวเตอร์อีกด้วยซึ่งสรุปได้ว่ามันถูกทดสอบทั้งในโลกแห่งความจริงและในโลกจำลองด้วยคอมพิวเตอร์
ซึ่งการจำลองทดสอบรถด้วยคอมพิวเตอร์นั้นจะช่วยให้วิศวกรเร่งขั้นตอนการพัฒนารถยนต์ได้รวดเร็วกว่าเดิมส่วนการนำเอารถยนต์ไปสู่สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยพร้อมกับการบรรทุกและใช้งานจริงหรือจะเรียกได้ว่าทรมานรถจนถึงขั้นสุดนั้นเป็นการค้นหาสิ่งที่บกพร่องของรถคันนี้ก่อนที่จะถูกผลิตขึ้นจริงและวางขายสู่ลูกค้าอย่างหนึ่งที่ทดสอบในห้องทดลองก็คือระบบกันสะเทือนที่ตัวรถจะต้องขึ้นไปอยู่บนแท่นที่สามารถยืดหดได้ที่จะพอดีกับล้อทั้ง 4 ล้อแล้วจะเดินเครื่องทดสอบตลอด 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง 7 วันเพื่อประเมินความแข็งแกร่งของตัวช่วงล่าง
สำหรับการเปิดตัวนั้นต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าผมได้ยินแว่วแว่วมาว่ามันจะมีกำหนดการเปิดตัวในประเทศไทยและออสเตรเลียพร้อมกันในช่วงต้นปี 2022 แต่ในโมเดลสำหรับในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นคาดว่าจะต้องรอกันจนถึงเดือนพฤษภาคมปี 2023 กันเลยทีเดียวครับ
ที่มา : motor1