หลังจากมีข่าวลือข่าวหลุดมาหลายต่อหลายเดือน ล่าสุด Pixel 6 และ 6 Pro ของ Google ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วครับ โดยมีความแตกต่างจากฮาร์ดแวร์ระดับกลางของปีที่แล้วอย่างชัดเจน โดย Pixel 6 Series ใหม่นี้จะมีสเปคระดับบนที่เน้นที่ประสิทธิภาพ ความฉลาด และการถ่ายภาพมากขึ้น
เริ่มต้นด้วยชิป Tensor ที่ Google พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งเป็นชิปแบบสถาปัตยกรรม 5nm SoC มีโปรเซสเซอร์ octa-core ที่มีคอร์อันทรงพลัง Cortex-X1 สองคอร์ ทำให้รุ่นนี้เป็นโทรศัพท์เครื่องแรกที่มีมากกว่าหนึ่งคอร์ นอกจากนี้ยังมีคอร์ระดับกลางสองคอร์ และคอร์ที่ประหยัดพลังงานอีกสี่คอร์ ยังมีโปรเซสเซอร์ภาพที่กำหนดเอง ที่ช่วยยกระดับการถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์ Pixel 6 ไปอีกขั้น
จุดที่น่าสนใจด้านกล้องถ่ายภาพ คือมาพร้อมฟีเจอร์อย่าง Magic Eraser ที่ใช้ลบสิ่งรบกวนออกจากรูปภาพโดยอัตโนมัติ รวมไปถึง Face Unblur ที่จะเลือกใบหน้าที่คมชัดที่สุดจากรูปภาพหลายรูปแล้วนำไปใช้ และตอนนี้การถ่ายภาพในโหมดแนวตั้งดีขึ้นด้วยการแยกวัตถุที่ดีขึ้น และการเรนเดอร์โทนสีผิวที่ดีขึ้นกว่าเดิม และในโหมดกลางคืน Night Mode และโหมด Astrophotography ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าพิกเซลรุ่นก่อนๆ ด้วย
Google Pixel 6 และ 6 Pro ยังมีฟีเจอร์ Live Translate ซึ่งสามารถแปลข้อความ คำบรรยายภาพ หรือข้อความในช่องมองภาพของกล้องได้มากถึง 55 ภาษา การใช้ Tensor ทำให้ Pixel 6 และ 6 Pro ที่สามารถทำหน้าที่เป็นล่ามในภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น โปรตุเกส หรือสเปน ในแบบออฟไลน์ได้
นอกจากนี้ในส่วนระบบประมวลผลของ Tensor ยังมีชิปรักษาความปลอดภัย Titan M2 ในตัว ซึ่งจะช่วยปกป้องรูปภาพ ข้อความ และข้อมูลสำคัญของคุณจากการโจมตีจากภายนอก และเพื่อช่วยเสริมชิปที่กำหนดเอง Google ยังสัญญาว่าจะอัปเดตความปลอดภัยสูงสุด 5 ปีสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Pixel 6 อีกด้วย
และเมื่อเปรียบเทียบ Google Pixel 6 Pro รุ่นใหญ่กับ Pixel 6 รุ่นเล็ก ก็ถือว่ามีอะไรแตกต่างกันพอสมควรครับ เริ่มที่การมีหน้าจอจะใหญ่กว่าที่ 6.7 นิ้ว คมชัดกว่าที่ 1440p และรีเฟรชเร็วขึ้นที่ 120Hz ใช้หน้าจอแบบ LTPO AMOLED ที่จะเสนออัตราการรีเฟรชแบบแปรผันเพื่อรักษาแบตเตอรี่ ในขณะที่ Pixel 6 มีจอ AMOLED 1080p ขนาด 6.4 นิ้วที่มีอัตราการรีเฟรชสูงถึง 90Hz โดยโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องเคลือบด้วย Gorilla Glass Victus แต่หน้าจอของ Pixel 6 Pro นั้นโค้งกว่า ซึ่ง Google เรียกมันว่ากระจก 3 มิติ และทั้งสองมีเครื่องสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเหมือนกัน
Pixel 6 Pro ยังมีฮาร์ดแวร์กล้องที่ดีกว่าด้วยกล้องซูม 4x โดยเฉพาะ ซึ่งอยู่ด้านหน้าเซ็นเซอร์ 48MP ขนาดใหญ่ โดย Google อ้างว่าสามารถเพิ่มการซูมได้ถึง 20X ด้วยความช่วยเหลือของฟีเจอร์ 'Super Res Zoom' ในขณะที่ด้านหน้า Pixel 6 Pro มีกล้องเซลฟี่โฟกัสคงที่ 11.1MP ที่มีมุมกว้างพิเศษ ซึ่งสูงกว่ากล้องเซลฟี่ปกติของ Pixel 6 '8MP นิดหน่อย
ส่วนกล้องอีก 2 ตัวจะเหมือนกันครับ โดยใช้เป็นเซ็นเซอร์หลัก Samsung GN1 ขนาด 50MP 1/1.3 นิ้วที่รวมพิกเซลสำหรับภาพ 12.5MP และกล้องอัลตร้าไวด์ 12MP โดยในส่วนของกล้องหลัก 50MP นั้น เป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่เมื่อเทียบกับเซ็นเซอร์หลักใน Pixel 5 (ซึ่งมีขนาดเท่ากันใน Pixel 4, 3 และ 2) โดยมีความสามารถในการรวบรวมแสงเพิ่มขึ้น 150%
และเนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ใหญ่กว่า Pixel 6 Pro จึงมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ส่วนของ Pixel 6 ได้ที่ 4,600mAh โดยทั้งสองจะชาร์จได้สูงสุด 30W แบบมีสาย และ 21W/23W แบบไร้สายผ่านที่ชาร์จ Pixel Stand ใหม่ของ Google ที่ต้องซื้อเพิ่มนะครับ ไม่ได้แถมในกล่อง (และไม่แถมที่ชาร์จแบบสายในกล่องด้วยนะ)
Google Pixel 6 Pro มีกรอบอลูมิเนียมขัดเงาและมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว Cloudy, Sorta Sunny, Stormy Black และมีค่าหน่วยความจำ คือ RAM 12/128GB, 12/256GB และ 12/512GB โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $899 ในสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 29,800 บาท
ในขณะที่ Google Pixel 6 มีกรอบอะลูมิเนียมแบบมีเท็กซ์เจอร์และเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าใน 3 สี ได้แก่ Sorta Seafoam, Kinda Coral, Stormy Black และมีหน่วยความจำขนาด RAM 8/128GB และ 8/256GB เปิดราคาเริ่มต้นที่ $599 หรือประมาณ 19,900 บาท
การสั่งซื้อล่วงหน้าสำหรับโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องได้เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วในต่างประเทศครับ โดยคาดว่าจะมีการจัดส่งครั้งแรกในวันที่ 28 ตุลาคมนี้
source: gsmarena