ดีไซน์

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ กู๊ดดรีม TechXcite บทความนี้ดรีมมี realme Pad แท็บเล็ตรุ่นแรกของแบรนด์ realme ที่หลายคนรอคอย ซึ่งจุดเด่นก็จะมีเรื่องของความบางเบาพกพาง่าย แบตเตอรี่อึด 7100 mAh และ ลำโพง 4 ตัวเทคโนโลยีเสียง Dolby Atmos คุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ รุ่นนี้มันจะเหมาะกับใคร เหมาะกับการใช้งานแบบไหนบ้าง บทความนี้รีวิวทุกการใช้งานเลย

ดีไซน์

ตัวเครื่องดีไซน์เมทาลิค ฝาหลังทำจากวัสดุอลูมิเนียมอัลลอย ผิวด้าน เวลาจับสัมผัสจะไม่ค่อยติดรอยนิ้วมือมากมาย ให้ฟิลลิ่งการสัมผัสจับถือดู Premium มีสองสีคือสีเทา real Grey กับสีทอง real Gold ให้กล้องหลังมา 1 ตัว ดีไซน์เน้นความเรียบง่ายดูมีความแข็งแรงทนทาน

ดีไซน์รอบตัวเครื่อง เมื่อวางตัวเครื่องในแนวนอนฝั่งซ้ายมือจะเป็นปุ่ม power เพื่อเปิดปิดตัวเครื่องและลำโพง 2 ตัว ด้านบนเป็นปุ่มวอลลุ่มเพิ่มลดเสียงและช่องถาดซิมที่สามารถใส่ได้ 2 ซิมและ 1 Micro SD 

ส่วนขอบขวามือเจอกับลำโพงอีก 2 ตัว ช่องชาร์จแบต USB Type-C  และช่องเสียบหูฟังแจ็ค 3.5 อยู่บริเวณขอบเหลี่ยมของเครื่อง ให้ฟังก์ชั่นการใช้งานมาครบครัน 

ที่นี้มาดูส่วนของหน้าจอกันบ้างให้มาขนาด 10.4 นิ้ว หน้าจอ LCD กล้องหน้าอยู่บริเวณตรงกลางด้านบนในแนวนอน ความละเอียดของจอเป็น WUXGA+ ความละเอียด 2000 x 1200 ให้ความคมชัด สีสันสดใส เหมาะสำหรับดูหนังฟังเพลงได้อย่างเต็มอิ่ม พื้นที่ขอบจอหนาประมาณ 1 เซนติเมตรเท่ากันทุกๆด้าน แอบหนาไปนิดแต่ก็ยังใช้งานหน้าจอได้กว้างเต็มตา

• โหมถนอมสายตา จะมีการปรับแสงสีของหน้าจอให้เป็นสีส้มนวลๆ เพื่อความสบายตา
• โหมดอ่านหนังสือ จะเป็นการปรับสีเป็นขาวดำ เสมือนอ่านหนังสือบนแผ่นกระดาษ
• โหมดกลางคืน ปรับหน้าจอหลักให้เป็นสีดำเวลาใช้งานในที่มืดหรือตอนกลางคืน
• Sunlight Mode ปรับความสว่างของหน้าจออัตโนมัติ

โดยรวมเรื่องของดีไซน์ออกแบบมาให้มีความบางเบาตัวเครื่องมีความบางเพียงแค่ 6.9 มม.เท่านั้น และน้ำหนักเพียงแค่ 440 กรัมเหมาะสำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่หรือว่าถือใช้งานเป็นระยะเวลานานก็ไม่รู้สึกล้าที่ข้อมือ เป็นแท็บเล็ตที่จัดว่าบางเบาที่สุดตัวหนึ่งเลยล่ะ และยังมาพร้อมดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายแต่มีความพรีเมียม ดูแพงในราคาที่เข้าถึงง่าย

สเปคการใช้งาน

• หน้าจอ LCD 10.4 นิ้ว WUXGA+ ความละเอียด 2000 x 1200
• น้ำหนัก 440 กรัม
• CPU MediaTek Helio G80
• RAM 4-6 GB
• ROM 64-128GB
• เพิ่ม Micro-SD สูงสุด 1TB
• รองรับ 2 ซิมการ์ด
• แบตเตอรี่  7,100mAh รองรับชาร์จไว 18W
• รองรับ Reverse Charging
• กล้องหลัก 8MP
• กล้องหน้า 8MP
• คุณภาพเสียง Dolby Atmos
• พอร์ต USB Type-C
• ระบบปฏิบัติการ realme UI for Pad Base on Android 11
• รองรับระบบสแกนใบหน้า
• มีสองสี
  • สีเทา real Grey 
  • สีทอง real Gold

CPU MediaTek Helio G80 ทำงานควบคู่กับ RAM 3-4 GB ROM 32- 64GB สามารถใส่ได้ 2 ซิมการ์ด เพิ่ม Micro SD ได้สูงสุดถึง 1 TB เลยล่ะ ระบบปฏิบัติการ realme UI เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด สามารถเปิดใช้งาน 2 แอปพร้อมกันได้ ส่วนเรื่องของความปลอดภัยมีระบบสแกนใบหน้าเพื่อเข้าถึงตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่มีระบบสแกนลายนิ้วมือ

การเล่นเกมส์และการดูหนังฟังเพลง

ความโดดเด่นในเรื่องของการดูหนังฟังเพลงคือความเป็นลำโพง 4 ตัวคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Dolby Atmos ให้มิติของเสียงที่ดีมากๆ นอกจากจะแบ่งแยกซ้ายขวาชัดเจนแล้ว ยังให้เสียงเซอร์ราวน์รอบทิศทาง ให้มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น บวกกับจอใหญ่ให้ความคมชัดสีสันจัดจ้านดีแล้วด้วย เหมาะสำหรับคนที่ชอบการดูหนังดูซีรีย์ฟังเพลงมากๆ

การเล่นเกม

MediaTek Helio G80  จะเอาอยู่แค่ไหนก็ได้ไปเทสเกมมาให้ทั้งหมด 3 เกมด้วยกัน มี ROV, Call of Duty และ PUBG ซึ่งเป็นเกมยอดฮิตในปัจจุบันทั้งนั้น ทั้ง 3 เกมจะเอาอยู่หรือไม่แล้วเล่นได้ขนาดไหนไปเทสให้แล้ว

ในเกม ROV สามารถปรับตั้งค่าได้สูงสุดแทบทุกอย่าง มีแค่การแสดงผลที่สามารถปรับได้ในระดับสูง ยังไม่สูงมาก และก็ยังไม่มีโหมดเฟรมเรตสูงในเกมนี้ จะล็อคไว้อยู่ที่ 30 fps ในเกมนี้สามารถเล่นได้ลื่นไหล ไม่ค่อยเจอจังหวะสะดุดหรือกระตุกเลย เพียงแต่ความที่มันเป็นหน้าจอใหญ่ เรื่องของการควบคุมมันจะยากกว่าการเล่นบนสมาร์ทโฟน

Call of Duty

ในเกมส์นี้สามารถปรับคุณภาพกราฟิกได้ในระดับกลาง เฟรมเรตได้ในระดับสูง ในเกมนี้ยิ่งจอใหญ่ ยิ่งได้เปรียบ เพราะเราจะเห็ยรายละเอียดที่มากขึ้น ยิ่งถ้าใครเป็นสายสไนเปอร์ชอบเล็งยิงสบายเลย การซูมไม่มีหน่วงไม่มีกระตุก พอซูมเข้าไปทีเห็นศัตรูชัดเจน ยิงได้ไม่มีพลาดเป้า เกมนี้สามารถเล่นได้ลื่นไหลดีมาก ภาพสวย เสียงเอฟเฟกต์ดุดันสะใจ

PUBG 

ในเกม PUBG สามารถปรับภาพกราฟิกได้ในระดับ HD เฟรมเรตได้ในระดับสูง เกมนี้จะเป็นการโหลดแมพกว้างและมีผู้เล่นจำนวนมาก ในเกมนี้ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่ค่อยเจอจังหวะหน่วงหรือกระตุกเลย โดยรวมเรื่องของการเล่นเกมก็ถือว่าทำได้ดีในทุกๆ เกม ภาพสวย เสียงดี ดนตรีไพเราะ เอ๊ะ! ^^

กล้อง

กล้องหลังใน realme Pad ให้มาด้วยกัน 1 ตัวความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถซูมได้ 3 ระดับ ซูมได้สูงสุด 5 เท่า แต่ความละเอียดก็จะลดหลั่นลงมา มุมมองของภาพค่อนข้างกว้าง เก็บรายละเอียดได้เยอะ ให้ความคมชัดดีทีเดียว 

กล้องหน้า

สำหรับกล้องหน้าให้ความละเอียดมาเท่ากับกล้องหลังเลย 8 ล้านพิกเซล แต่ความน่าสนใจของมันก็คือกล้องหน้านั้นเป็นเลนส์ Ultra Wide-Angle ให้มุมมองภาพกว้างมากๆ นอกจากจะใช้เพื่อการเซลฟี่แล้วมันยังเหมาะสำหรับการ Video Conference ใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตเพื่อการเรียนหรือว่าประชุมออนไลน์รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์มากๆ ในเรื่องของมุมมองภาพ

แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน

ในเรื่องของแบตเตอรี่จัดว่าเป็นจุดเด่นอีกหนึ่งจุดของตัวนี้เลย ให้แบตเตอรี่มาไซส์ยักษ์ขนาด 7100 mAh รองรับความเร็วในการชาร์จอยู่ที่ 18W การใช้งานทั่วไปอยู่ได้ยาวนานทั้งวันหรือข้ามวันเลยทีเดียว ดูหนังไป 1 ชั่วโมงแบตเตอรี่ลดไป 8 เปอร์เซ็นต์ ถือว่ามีการจัดการแบตเตอรี่ที่ทำได้ดีทีเดียว ช่องชาร์จแบต USB Type C มี Adapter และสายชาร์จแถมมาให้ในกล่อง มีเทคโนโลยี Reverse Charging ซึ่งทำหน้าที่เป็นพาวเวอร์แบงค์ไปในตัว ต้องใช้สาย OTG เพื่อการเชื่อมต่อ

สรุปการใช้งาน

สรุปการใช้งาน realme Pad จุดเด่นของรุ่นนี้อย่างแรกคือเรื่องของดีไซน์ที่ออกแบบมาบางเบา Ul tra-Slim พกพาง่ายใช้งานสะดวก ลำโพง 4 ตัวเป็นเทคโนโลยีเสียง Dolby Atmos ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res เหมาะสำหรับการดูหนังฟังเพลงดูซีรีย์ได้อย่างเต็มอิ่มจุใจ ส่วนชิปเซ็ต CPU Helio G80 สามารถเล่นเกมได้ไหลลื่น พร้อมแบตเตอรี่ขนาดยักษ์ถึง 7100 mAh เหมาะสำหรับการพกพาเพื่อดูหนังฟังเพลง การ Video Conference เรียน Online ประชุมออนไลน์ตอบโจทย์มากๆเพราะให้กล้องหน้าเลนส์ Ultra-Wide ที่ให้มุมมองภาพกว้างเก็บองค์ประกอบได้อย่างครบถ้วน และมาในราคาที่น่าสนใจมากๆทีเดียว

ราคา

• 4+64GB ราคา 8,990 บาท
• 6+128GB ราคา 10,990 บาท
• 6+128GB LTE ราคา 11,990 บาท

วางจำหน่ายที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ