ภาพรวม ASUS Zenbook 14X OLED UX5401

สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่านครับ! อยู่กับ @นายเป้ไงจะใครล่ะ พบกันอีกเช่นเคย วันนี้รีวิว ASUS Zenbook 14X OLED UX5401 โน้ตบุ๊กที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดเรียบหรู ขอบจอบางมากก! น้ำหนักเบา มาพร้อมจอ OLED ที่แสดงผลได้ตระการตา แถมได้อัตรารีเฟรชเรท 90Hz เรื่องประสิทธิภาพมาสุด! ตอบโจทย์ทุกการทำงาน ทำไมมันช่างดีงามไปเสียหมดขนาดนี้!? เอาเป็นว่าไม่รอช้า เราไปเริ่มการรีวิว ASUS Zenbook X14 OLED UX5401 ตัวนี้กันเลยครับ!

ก่อนอื่นขอสรุปจุดเด่นจุดสังเกตสักเล็กน้อยครับสำหรับ ASUS Zenbook 14X OLED UX5401 ตัวนี้

จุดเด่น

• หน้าจอความละเอียดสูงถึง WQXGA+ (2880 x 1800) อัตรารีเฟรชเรท 90Hz
• จอ OLED ขอบเขตสี DCI-P3 100% แสดงผลดีงามมาก!
• ดีไซน์เรียบหรู! เน้นความบางเบา 15.9 มม. และหนักเพียง 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น
• หน่วยประมวลผลสุดแรง Intel Core i7-1165G7 Gen (11th Gen)

จุดสังเกต

• จอแบบมันเงา (Glossy) อาจจะทำให้ติดรอยนิ้วมือได้ง่ายตอนใช้งานทัชสกรีน
• วัสดุรอบตัวเครื่องเก็บรอยนิ้วมือค่อนข้างเก่ง
• อะแดปเตอร์ชาร์จไฟค่อนข้างมีน้ำหนัก
• กล้องเว็บแคมคุณภาพระดับใช้งานได้ (แต่อาจจะยังไม่ดีที่สุด)

สเปค ASUS Zenbook UX5401EA-KN711TS

• มิติตัวเครื่อง : 311.2 x 221.1 x 15.9 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 1.4 กิโลเมตร 
• หน้าจอ OLED 14 นิ้ว
  • หน้าจอ Touch Screen
  • อัตรารีเฟรชเรท 90Hz
  • อัตราส่วนเครื่องต่อหน้าจอ 92%
  • อัตราส่วนหน้าจอ 16:10
  • ความละเอียด WQXGA+ 2880x1800 Pixels
  • 1,000,000:1 Contrast Ratio
  • ความสว่างสูงสุด 400 nits
  • DCI-P3 100%
  • รองรับมาตรฐานหน้าจอโดย Pantone Validated
  • 180 Degree ErgoLifted hinge พับจอได้ราบ!
• หน่วยประมวลผล : Intel® Core™ i7-1165G7 (11th Gen) 4 Cores 8 Threads 2.8 GHz (12M Cache, up to 4.7 GHz)
• กราฟิกการ์ด : Intel® Iris® Xe Graphics
• RAM : 16GB LPDDR4X on board
• Storage : 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 Performance SSD
• แบตเตอรี่ 63WHrs, 3S1P, 3-cell Li-ion 
• รองรับการชาร์จ Type-C 100W AC Adapter
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6(802.11ax)+Bluetooth 5.0 (Dual band) 2*2
• Operating System : Windows 10 Pre-Installed รองรับการอัปเกรดเป็น Windows 11
• Backlit Chiclet Keyboard
• Asus NumberPad 2.0
  
• Fingerprint Power Key (รองรับสแกนลายนิ้วมือในปุ่มพาวเวอร์)
• Built-in Speaker/Microphone (Harman/Kardon)
• Built-in 720p HD Camera 

พอร์ตเชื่อมต่อ

• HDMI
• Thunderbolt 4 USB-C x2
• USB-A 3.2 Gen 2
• 3.5mm Audio Jack
• microSD Card Reader

ดีไซน์ของ ASUS Zenbook 14X OLED

สำหรับการออกแบบของ ASUS Zenbook 14X OLED ตัวนี้ สำหรับสีที่ผมได้มารีวิวในครั้งนี้คือสี Pine Grey ที่จะมีความดำดุดำด้าน แต่ไม่ดำสนิท! จะมีความเหลือบสีเทาเข้มเล็กน้อยครับ

โดยที่จุดเด่นของ ASUS Zenbook 14X OLED ตัวนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของการออกแบบที่เรียบหรู เน้นความบาง-เบา ครับ เค้ามาพร้อมกับดีไซน์ที่บางเฉียบ! บางเพียงแค่ 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าความเพรียวบางเค้ามาเหนือระดับเลยทีเดียว!

มาพร้อมน้ำหนักที่เบามาก 1.4 กิโลกรัม เท่านั้น! เรียกได้ว่าสามารถพกพาออกไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างสบายใจเฉิบเลยล่ะ! จะไปนั่งทำงานที่ร้านกาแฟ พกเข้าห้องประชุม หรืองานด่วนไฟลนก้นจริงๆ ก็สามารถพกไปนั่งทำบนรถก็ทำได้นะ (แต่ไม่ทำดีกว่าครับ 5555)

สำหรับเรื่องของวัสดุ ASUS Zenbook 14X OLED มาพร้อมกับวัสดุอลูมิเนียม US MIL-STD 810H Military-Grade ให้ความหรูหราในการสัมผัสและมั่นใจในเรื่องของความแข็งแรงทนทานได้ครับ ...แต่อาจจะเก็บรอยนิ้วมือง่ายนิดนึงนะครับในจุดนี้!

Keyboard

ASUS Zenbook 14X OLED มาพร้อมกับ Chiclet Backlit Keyboard ครับสามารถปรับแสงสว่างได้ถึง 3 ระดับด้วยกัน เป็นไฟสีขาวสว่างกระจ่างใสสะอาดตามากๆ เลยล่ะ!

ส่วนความสว่างของเค้าถือว่าใช้ได้เลยครับ ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องทำงานในตอนที่ไม่มีไฟส่องสว่างตอนกลางคืน ก็สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุดเลยครับ

ส่วนสัมผัสนั้นก็ต้องบอกว่าตอบสนองได้ดีในระดับนึงครับ แต่ก็จะมีความยวบยาบเล็กน้อยตามสไตล์คีย์บอร์ดแบบ Chiclet ซึ่งอาจจะไม่ได้มีความ Clicky หรือการตอบสนองที่กระชับเหมือนพวก Mechanical Keyboard อะไรแบบนั้นเนาะ (ในจุดนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และรสนิยมของแต่ละคนเลยครับ ว่าชอบสัมผัสแบบไหน)

มี Travel Distance ไม่เยอะเท่าไหร่ ไม่ต้องใช้แรงในการกดเยอะ นั่นหมายความว่าสามารถใช้พิมพ์งานต่อเนื่องได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะเมื่อยเลยล่ะ! 

ASUS NumberPad 2.0

เอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับโน้ตบุ๊กของ ASUS ที่มาพร้อมกับ NumberPad ในตัวสามารถใช้งาน TouchPad เป็นปุ่มกดตัวเลขได้ เพียงแค่กดสัญลักษณ์ NumberPad เท่านั้น ง่ายนิดเดียว!

การใช้งานก็ถือว่าสะดวกเลยล่ะ ถึงแม้จะเป็นโน้ตบุ๊กหน้าจอขนาด 14 นิ้ว แต่มี NumberPad มาให้ในตัวแบบนี้ถือว่าแจ่มแจ๋วเลยล่ะ! ใช้งานได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสลงบน TouchPad

Fingerprint with Power Button

เรื่องความปลอดภัยไม่ต้องเป็นห่วง! Zenbook 14X OLED สามารถปกป้องเราจากสถานการณ์ผู้อื่นมาแอบใช้งานได้!? ด้วยปุ่มพาวเวอร์ที่สามารถสแกนลายนิ้วมือภายในตัว!

ซึ่งต้องบอกว่าความเร็วในการแสกนนั้นทำได้เร็วมากๆ เลยครับ! เรียกได้ว่าแตะปุ๊บมาปั๊บ

บานพับแบบ 180 องศา

Zenbook 14X OLED มาพร้อมกับ 180 Degree ErgoLifted Hinge สามารถพับได้ราบกับพื้นเรียบไปได้เลย จะพับจอให้เพื่อนร่วมงานดู หรือเผลอออกแรงพับเยอะไป ก็ไม่มีปัญหาครับ! ไม่ต้องกังวลเรื่ององศาพับจอเลยล่ะ!!

720p HD Camera

Zenbook 14X OLED มาพร้อมกับกล้องเว็บแคมแบบ Built-in ที่ขอบจอด้านบนครับ ซึ่งซ่อนเอาไว้กับวัสดุแบบ Glossy (มันเงา) ทำให้แทบไม่สังเกตเห็นเลยล่ะ!

ส่วนคุณภาพถือว่าพอใช้ได้ครับ ตามสไตล์เว็บแคมบนโน้ตบุ๊กที่ออกแบบมาสำหรับความบางเบาเนาะ! แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาในการใช้งาน ใช้ประชุม ใช้เรียนออนไลน์ สามารถใช้งานได้ครับ

Sound by harman/kardon

ระบบเสียงของ Zenbook 14X OLED มาพร้อมกับลำโพงคู่ด้วยเสียงของ harman/kardon ซึ่งต้องบอกว่ามิติเสียงออกมาใช้ได้เลยนะ!

ตามสไตล์ของ Harman ครับจะเน้นในความ Crystal Clear หรือเสียงที่ใสบริสุทธิ์ดุจคริสตัล ลำโพงเค้าทรงพลังและให้มิติเสียงที่ดีมากๆ เลยล่ะ! จัดว่าเป็นโน้ตบุ๊กที่ให้ประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องเสียงท่ีดีมากตัวนึงเลยครับ!

Thunderbolt^™ 4 USB-C ที่ใช้มาถึง 2 พอร์ต

Asus Zenbook 14X OLED มาพร้อมกับพอร์ต Thunderbolt 4 ถึง 2 พอร์ตด้วยกัน! ช่วยให้ถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ด้วยอัตราการส่งข้อมูลสูงถึง 40Gb/s ถือว่าสูงมากเลยล่ะ! สามารถต่อจอแยกที่ความละเอียด 4K ได้ถึง 2 หน้าจอได้ในเวลาเดียวกันเลยทีเดียว! เรียบหรูเบาบางขนาดนี้ แต่จัดมาให้เต็ม!

หน้าจอ OLED บนโน้ตบุ๊ก!?

ASUS Zenbook 14X OLED ชื่อก็บอกอยู่โทนโท่ เน้นในความเป็นหน้าจอ OLED มาแต่ไกลเลยครับ! มาพร้อมกับหน้าจอแบบ OLED ขนาด 14 นิ้ว และเป็นโน้ตบุ๊กที่เป็นอัตรารีเฟรชเรท 90Hz ด้วยครับ เรื่องของความลื่นไหลจัดไปสามผ่านเลยครับ!

และยังเป็นจอที่มีความละเอียดสูงมากกก! WQXGA+ ที่ความละเอียด 2880x1880 Pixels (ความละเอียด 2.8K) จอคม รายละเอียดสูงมากดีมากๆ เลยล่ะ! เค้ามาเป็นจอแบบวัสดุ Glossy หรือมีความมันวาวนะครับ แจ้งเพื่อทราบ~

หน้าจอเค้าเป็นอัตราส่วน 16:10 เพิ่มพื้นที่การใช้งานสำหรับการทำงานมากขึ้น และมีอัตราส่วนเครื่องต่อหน้าจอสูงถึง 92% เลย!! เรียกได้ว่าเป็นโน้ตบุ๊กที่มีหน้าจอเกือบเต็มอัตราส่วน และจะสังเกตได้ว่าขอบจอด้านข้างของเค้า "บางมากๆ" เลยครับ

ด้วยความที่เป็นจอ OLED จุดเด่นของเค้าคือให้ภาพที่สวยและสีสันสด รองรับขอบเขตสีแบบ DCI-P3 100% เป็นมาตรฐานของวงการภาพยนตร์ในยุคปัจจุบันนี้ครับ! เรียกได้ว่าแค่เปิดจอขึ้นมาครั้งแรก ก็ถือว่าประทับใจมากๆ เลยล่ะ! และได้รับการันตี Pantone Validated สำหรับมาตรฐานหน้าจอตัวนี้ด้วยครับ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นระบบสีที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก เป็นมาตรฐานสำหรับด้านงานออกแบบ, กราฟิกดีไซน์, แฟชั่น, บรรจุภัณฑ์, สถาปัตยกรรมและอีกมากมายเลยล่ะ!

และด้วยความเป็นจอ OLED นี้เอง เค้าสามารถทำเรื่องของ Contrast Ratio ได้ถึง 1,000,000:1 เลยล่ะ เรียกได้ว่าส่วนที่ดำ ก็จะดำสนิทเลยครับ! การแสดงสีสันคอนทราสต์ต่างๆ มันจัดจ้านจริงๆ~ แถมยังสว่างสูงสุดถึง 400nits การทำงานในห้องที่มีแสงธรรมชาติลอดเข้ามา สามารถสู้ได้สบายๆ เลย หรือมีเหตุจำเป็นต้องนำออกไปใช้งานข้างนอกก็ไม่มีปัญหาครับ!

และทาง ASUS เค้าแคร์เราในเรื่องของสุขภาพตาครับ! จอ OLED ของ Zenbook นี้ผ่านการรับรองคุณสมบัติสำหรับการถนอมสายตาจาก TÜV Rheinland-certified ที่ช่วยลดปริมาณแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาได้มากถึง 70% เลยล่ะ! มาพร้อมการตอบสนองของภาพที่ 0.2 millisecond เท่านั้น ช่วยให้ภาพลื่นไหลไม่สะดุด ชัดทุกการเคลื่อนไหวครับ ไม่ว่าจะเป็นหนังเรื่องไหน ก็ไร้อาการเบลอจ้าา~

เออแล้วที่สำคัญ ...เค้าเป็นหน้าจอแบบ TouchScreen ด้วยนะ! ถ้ามีเหตุที่จำเป็นต้องใช้การสัมผัสที่ตัวหน้าจอ ก็สามารถทำได้เลย สะดวกมากๆ เลยครับ เรียกได้ว่าจอเค้ามาเหนือ มาดี มาสุด จริงๆ ครับ สำหรับ Asus Zenbook 14X OLED ตัวนี้!

ประสิทธิภาพของ ASUS Zenbook 14X OLED

สำหรับประสิทธิภาพของโน้ตบุ๊กเครื่องนี้ ต้องเกริ่นนิดนึงว่าเค้ามีตัวเลือกรุ่นย่อยค่อนข้างเยอะเลยนะ แต่สำหรับตัวที่ผมได้นำมาทดสอบในครั้งนี้คือรุ่น

ASUS Zenbook 14X OLED รหัส UX5401EA-KN711TS ซึ่งสเปคของเค้าจะเป็นดังต่อไปนี้ครับ

• Intel® Core™ i7-1165G7 2.8 GHz (12M Cache, up to 4.7 GHz, 4 cores)
• Intel® Iris Xe Graphics
• RAM 16GB LPDDR4X on board
• Storage 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 Performance SSD

สำหรับเรื่องประสิทธิภาพ ถ้าให้ว่ากันตรงๆ การทำงานของ Intel® Core™ i7-1165G7 นั้นเรียกได้ว่าเร็วแรงเกินการใช้งานทั่วๆ ไปมากเลยครับ!! สำหรับการใช้งานทั่วๆ ไปทำงานเอกสาร แต่งภาพ ใช้ตัดต่อวิดีโอเบาๆ งานเอ็นเตอร์เทนเมนต์ต่างๆ สามารถทำได้อย่างไร้สะดุดเลยล่ะ (ก็แหม ...แรงซะขนาดนี้)

แถมมาพร้อมกับกราฟิกการ์ด Intel® Iris Xe Graphics ที่ถือว่าประสิทธิภาพจัดจ้านอยู่เด้ออ~ อาจจะไม่ได้สุดจัดเหมือนกราฟิกการ์ดสำหรับการเล่นเกม แต่ว่าสามารถใช้งานได้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างดีเลยล่ะ!

มาดูประสิทธิภาพผ่านโปรแกรม Benchmark ต่างๆ ให้พอเป็นไกด์ไลน์กันคร่าวๆ สักนิดนึงแล้วกันครับ

CPU-Z Bench

Cinebench

FurMark

ก็จะเห็นได้ว่าขุมพลัง Intel® Core™ i7-1165G7 เรื่องประสิทธิภาพนั้นสบายหายห่วงเลยครับ! เป็น Core i7 Generation 11 ที่ทรงพลังมากๆ เลยล่ะ! ใช้ในการทำงานทั่วไปไม่ต้องห่วงเลย!

การเล่นเกมล่ะ?

สำหรับการเล่นเกม ถามว่ามันพอทำได้ไหม? ตอบว่าทำได้! ในระดับที่ใช้ได้เลยนะ! แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าเค้าอาจจะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้เล่นเกมจ๋านะครับ ถ้าต้องการเล่นเกมจริงๆ อาจจะต้องมองตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งจะตอบโจทย์กว่านะครับในจุดนี้

สำหรับการทดสอบเล่นเกม Overwatch การปรับตั้งค่าความละเอียดสูงสุด 2880 x 1800 ที่ 90fps สามารถทำได้ครับ และการตั้งค่ากราฟิกจะอยู่ที่ระดับ EPIC หรือสูงที่สุด จากการเล่น เฟรมเรตที่ทำได้จะอยู่ที่ 42-63 fps ครับ จะดรอปลงมาอยู่ที่ราวๆ 42-48 ตอนที่มีทีมไฟต์ เกิดการประทะกันเดือดๆ ส่วนตอนเดินตอนวิ่ง ก็รันได้ที่ 52-55 เฟรมขึ้นไปครับ สำหรับการปรับตั้งค่า EPIC และความละเอียดสูงสุดขนาดนี้ บน Intel® Core™ i7-1165G7 และกราฟิกการ์ด Intel® Iris Xe Graphics ถือว่าเอาเรื่องมากๆ เลยล่ะ!

สำหรับการใช้งานที่หนักขึ้นมาหน่อย CPU รัน 100% ทุกคอร์ ใช้งานต่อเนื่องประมาณ 10-20 นาที จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิของเค้าก็อาจจะไม่ได้ขึ้นมาสูงเท่าไหร่สำหรับการใช้งานหนักหน่วงขนาดนี้ ร้อนสุดจะอยู่ที่ราวๆ 75 องศาเซลเซียสเท่านั้น! สำหรับผมถือว่าค่อนข้างเย็นเลยนะ สำหรับความร้อนระดับนี้ ต้องยกความดีงามให้กับ Intel Gen 11 และระบบระบายความร้อนของเค้าเลยครับ ทำมาได้ดีมากๆ เลยล่ะ!

ส่วนการอ่านเขียนของ M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 Performance SSD ของเค้าสามารถทำความเร็วได้อยู่ในระดับที่น่าตกใจเลยครับ สมชื่อเค้าเลย Performance SSD อ่านเขียนได้เร็วมว๊ากกกกก!!

• การอ่าน Read Speed 4985.49 Mb/s
• การเขียน Write Speed 4091.43 Mb/s

ต้องบอกว่าเป็นเครื่องบางเบา เน้นดีไซน์สวยหรูขนาดนี้ แต่ประสิทธิภาพของ Zenbook 14X OLED ตัวนี้ ไม่เป็นรองใครเลยครับ โคตรเอาเรื่อง! ใครที่ยังมีความคิดที่ว่าโน้ตบุ๊กบางเบาแบบนี้มันจะใช้ทำงานได้ขนาดไหนกันเชียว ...เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ครับ! ประสิทธิภาพมาโคตรโหดเลยล่ะ! มาโหดจนน่าตกใจในความเป็นโน้ตบุ๊กที่เน้นความบางเบาแบบนี้!?

ไม่ได้แรงแค่เครื่อง แต่ระบบเชื่อมต่อก็จัดเต็ม!?

ASUS Zenbook 14X OLED รองรับ Wi-Fi 6 ที่ทำให้รับความเร็วได้มากกว่ารุ่นก่อนๆ ถึง 2.7 เท่า เรียกได้ว่า "แรงระดับกิ๊กกะบิท" เลยทีเดียวครับ! ไม่เพียงแต่แรงขึ้น แต่ยังช่วยป้องกันการรบกวนต่างๆ เรียกได้ว่า แรงขึ้น สเถียรขึ้นนั่นเองครับ! สามารถทำความเร็วในการเชื่อมต่อ WiFi ได้เต็มสปีดเลยล่ะ!? (แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่บริการ เงื่อนไข และสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นๆ ด้วยนะ)

My ASUS

สำหรับ MyASUS นั้นเรียกได้ว่าเป็น All-in-One Application หรือว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วสำหรับการปรับแต่ง Customized ต่างๆ ให้เหมาะกับการใช้งานของเราได้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแบตเตอรี่ หรือเรื่องประสิทธิภาพ ต้องการแบบไหนก็เลือกปรับได้เลยครับ สามารถเลือกเปิดฟีเจอร์ต่างๆ ได้มากมายเลยล่ะ!

การเชื่อมต่อ ...ที่ไร้รอยต่อ

ภายในแอปพลิเคชัน MyASUS นั้นยังมีในส่วนของ Link to MyASUS เพื่อการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อกับสมาร์ตโฟนของเราครับ เรียกได้ว่าเหมาะกับยุคของ IoT มากๆ เลยล่ะ!? สามารถใช้งานได้ง่ายๆ เพียงแค่มีสมาร์ตโฟนสักเครื่อง (มีให้โหลดทั้งใน iOS และ Android เลยนะ) เพียงแค่ทำการดาวน์โหลดติดเครื่องไว้ ก็จะสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้ครับ!

เราสามารถที่จะเช่ือมต่อกับสมาร์ตโฟนเพื่อ รับ-ส่ง ไฟล์ ได้ง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสเลยนะ! ยกตัวอย่างผมเชื่อมต่อกับ iPhone 12 และส่งรูปถ่ายเข้ามาที่ Zenbook X14 OLED ตัวนี้ มันสะดวกจริงจริ๊งง~~

แถมยังสามารถใช้เชื่อมต่อเพื่อการรับสาย-โทรออก ลิงก์กับสมาร์ตโฟนได้อีกนะ เรียกได้ว่าครอบคลุมการทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างดีเลยล่ะ! นั่งทำงานอยู่ไม่ต้องกลัวใครโทรมาแล้วไม่ได้ยิน! มันขึ้นแจ้งเตือนให้ที่จอทำงานเลย ..แจ๋วว!

รวมไปถึงยังมี Customer Support ที่เราสามารถเช็คอาการเบื้องต้นของเครื่องได้ภายในแอปนี้เลย (ครอบจักรวาลจริงๆ) ยกตัวอย่างเช่นใช้งานไปนานๆ แล้วเครื่องช้า ก็สามารถมากด Checkup อาการของเครื่องได้เลย เค้าจะทำการวิเคราะห์ในเบื้องต้นให้ ฉลาดสุดๆ !

เรียกได้ว่าครบเครื่องมากครับสำหรับ MyASUS แอปเดียวครบเครื่อง!

แบตเตอรี่

ASUS Zenbook 14X OLED มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 63WHrs ซึ่งเป็นแบตเตอรี่แบบ 3-cell Li-ion รองรับการชาร์จผ่าน USB Type-C 100W Adapter ครับ

ซึ่งเค้าแถมตัว AC Adapter 100W ตัวนี้มาให้ในกล่องเลยนะ ขนาดของอะแดปเตอร์ชาร์จถือว่าไม่ใหญ่จนเกินไป แต่ก็ไม่ได้เล็กกระทัดรัดเหมาะกับการพกพาเท่าไหร่ ถือว่ามีน้ำหนักพอสมควรเลยล่ะ!

สำหรับการใช้งานของ ASUS Zenbook 14X OLED นั้น ถ้าเป็นการทำงานจริงๆ ใช้งานจริงๆ เรื่องแบตอาจจะถือว่าไม่ได้อึดมากมายนัก ตัวเลขถือว่ารับได้ครับกับหน่วยประมวลผลที่ทรงพลังขนาดนี้ และด้วยความที่เค้าเป็นจอ OLED อัตรารีเฟรชเรท 90Hz แบบ Touch Screen การใช้งานแบบจัดเต็มได้ราว 3-4 ชั่วโมง สำหรับผมถือว่าโอเคมากๆ แล้วครับ! ถ้าใกล้หมดก็ชาร์จเอา! (สำหรับใช้ทำงานแต่งรูป, ตัดต่อ และงานเอกสารต่างๆ

ส่วนการใช้ดูหนังดูซีรีส์ผ่าน Internet Browser ได้ตัวเลขอยู่ที่ราวๆ 7 ชั่วโมงครับ ดูหนังไปเกือบๆ ชั่วโมงแบตลดไปแค่ 8% เท่านั้นถือว่าทำเรื่องการจัดการพลังงานได้ค่อนข้างดีที่เดียวล่ะ!

ส่วนการชาร์จผ่าน USB Type-C 100W Adapter นั้นถือว่าทำได้เร็วพอตัวเลยครับ! 

• การชาร์จประมาณ 30 นาที ได้แบตเตอรี่มา ประมาณ 40%
• การชาร์จประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ได้แบตเตอรี่ ประมาณ 85% 

ก็ถือว่าเรื่องการชาร์จของเค้าทำมาได้โอเคเลยล่ะ ไม่ถึง 2 ชั่วโมง จาก 0-100% เต็มแน่นอนครับ!

สรุปการใช้งาน Zenbook 14X OLED

สำหรับ ASUS Zenbook 14X OLED ต้องบอกว่าเป็นโน้ตบุ๊กที่ออกแบบมาเรียบหรู ดูดี มีสไตล์ การออกแบบของเค้าจะเน้นไปในฝั่งของผู้ใหญ่วัยทำงานที่เน้นเรื่องความดูดี มีเอกลักษณ์ มีความเพรียวบางที่มาเหนือครับ! ถือไปไหนก็ดูหล่อเท่ไปซะหมดจริงๆ :D เหมาะกับการใช้เรียนหรือทำงานเป็นหลักครับ

แต่ที่ต้องร้องว้าวจริงๆ เลย ก็คือในส่วนของความเป็นหน้าจอ OLED นี่แหละครับ! คือมันมาดีจริงๆ ต้องบอกว่าจอคม สีสด การแสดงผลเลิศมากกก! ความละเอียดสูงระดับ WQXGA+ (2880 x 1800) แถมเป็นอัตรารีเฟรชเรท 90Hz ครั้งแรกของ Zenbook Series ด้วย เรียกได้ว่าจอเค้าทำมาให้เราได้เพลิดเพลิน เต็มอรรถรสไปกับทุกการใช้งานเลยล่ะ!

ส่วนเรื่องของประสิทธิภาพไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ยิ่งรุ่นที่ผมได้นำมาทดสอบในครั้งนี้เป็นรุ่น Core i7 ที่ต้องบอกว่า "โคตรแรง" แถมยังเย็นอีกด้วย ใช้งานหนักหน่วงต่อเนื่อง อุณหภูมิก็ไม่ได้ถือว่าร้อนแรงเท่าไหร่ ราวๆ 75 องศาเซลเซียสเท่านั้น "ดีงาม" มากจริงๆ ครับ สำหรับ ASUS Zenbook 14X OLED ตัวนี้

สำหรับใครที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊กทำงานสักเครื่อง ที่เน้นในเรื่องความบางเบาแต่ประสิทธิภาพสูง และจอสวยขั้นเทพ!? พลาดไม่ได้แล้วล่ะครับ สำหรับ ASUS Zenbook 14X OLED ตัวนี้

สำหรับรุ่นและราคาของ ASUS Zenbook 14X OLED ที่เปิดตัวในประเทศไทยเป็นดังต่อไปนี้ครับ

• UX5401EA-KN511TS รุ่น i5 ราคา 38,990 บาท
• UX5401EA-KN711TS รุ่น i7 ราคา 45,990 บาท

สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ผ่านช่องทาง ASUS Official Store ได้เลยครับ!

• Lazada --> สั่งซื้อที่นี่
• JD Central --> สั่งซื้อที่นี่

สำหรับรีวิว ASUS Zenbook 14X OLED ก็เป็นอันว่าขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ครับ! อย่าลืมกดติดตามกันในช่องทาง Facebook และ Youtube ด้วยนะครับ ทางทีมงาน TechXcite จะคอยนำเสนอข่าวคราววงการไอทีให้เพื่อนๆ ได้อัปเดตกันอยู่ตลอดเวลา สำหรับวันนี้ @นายเป้ไงจะใครล่ะ ขอตัวไปปั่นรีวิวตัวอื่นก่อนแล้วจ้าา~ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ! :3