ดีไซน์
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ กู๊ดดรีม TechXcite มาส่งรีวิวมือถือที่มาพร้อมดีไซน์เริ่ดหรูบางเฉียบ Xiaomi 11 Lite 5G NE ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ ที่มาพร้อสเปคน่าสนใจมากมายทั้งดีไซน์บางเฉียบ จอที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีให้การแสดงผลสีสันจัดเต็ม รวมไปถึงกล้องเพื่อการสร้างสรรค์ภาพถ่ายและวีดีโอระดับมืออาชีพ แล้วยังมีความน่าสนใจอีกหลายจุดที่รวบรวมมาให้ได้เป็นทางเลือกในการตัดสินใจกัน
จุดเด่น
- หน้าจอสวย
- กล้องหลักความละเอียดสูง 64MP
- ดีไซน์บางเบา
- รองรับ 5G
จุดสังเกต
- ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5
- ไม่มีโหมดเฟรมเรตสูงในบางเกม
ดีไซน์
สำหรับขนาดของตัวนี้มาด้วยขนาด 6.55 นิ้ว เป็นกล้องหน้าแบบเจาะรูวางอยู่ที่มุมซ้ายของตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์ฝาหลังสีที่ได้มาเป็นสีพิเศษชื่อ Snowflake White มันจะมีความระยิบระยับวิบวับเหมือนเกล็ดหิมะ สวยหรูดูแพง
วัสดุฝาหลังคล้ายกับกระจกเคลือบด้าน ความดีงามของมันก็คือมันไม่ติดรอยนิ้วมือหรือรอยมันใดๆ เลย ให้ฟีลลิ่งการจับสัมผัสที่ดโมดูลกล้องเป็นกล้องหลัง 3 ตัว นูนออกมาจากฝาหลังเล็กน้อยพร้อมแฟลช 1 ตัว
ส่วนปุ่มการใช้งานรอบตัวเครื่อง เริ่มต้นจากขอบขวาเป็นปุ่มพาวเวอร์ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปในตัว และปุ่มวอลลุ่มเพิ่มลดเสียงอยู่ในฝั่งเดียวกัน
พลิกมาด้านล่างเป็นถาดซิมรองรับ 2 ซิมการ์ด ถัดมาเป็นช่องชาร์จ USB-C และลำโพงแบบ Dual Speaker บนล่าง
ในเรื่องของการจับถือตัวนี้ถือว่าโดดเด่นในเรื่องความบางเบา มีความหนาตัวเครื่องเพียง 6.81 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 158 กรัม เวลาใส่กระเป๋ากางเกงมันแบนราบไม่นูนหนัก พกพาง่าย ใช้งานได้สะดวก เป็นมือถือที่คิดว่ามันบางที่สุดของปีนี้เลยล่ะ
ทีนี้มาดูกันที่หน้าจอกันบ้าง หน้าจอ 6.55 นิ้ว เป็นรูปแบบ AMOLED รองรับ Dolby Vision® ช่วงสีกว้างถึงระดับ DCI-P3 ซึ่งเป็นมาตรฐานสีในการผลิตภาพยนตร์ดิจิทัลในอเมริกา มีความกว้างของสีมากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีแสดงผล TrueColor ระดับ 10-bit ซึ่งให้การแสดงผลในเรื่องความลึกของช่วงสีได้ดี
อย่างเช่นจุดไหนที่เป็นสีขาวก็จะให้ความขาวชัดเจน จุดที่เป็นคอนทราสต์สีดำหรือสีสันก็จะมีความดำสนิท สีสันจัดจ้านสมจริง โดยเขาบอกว่ามันสามารถแสดงสีบนหน้าจอได้ถึง 1.07 พันล้านสีด้วยความแม่นยำระดับสูง ข้อดีก็คือเวลาดูหนังฟังเพลง ดูคอนเทนต์ต่างๆ จะเห็นการแสดงผลสีสันแบบสมจริง เพิ่มอรรถรสและความตระการตามากยิ่งขึ้น
ส่วนความลื่นไหลของหน้าจอให้รีเฟรชเรทหน้าจอมาอยู่ที่ 90Hz และอัตรา Touch Sampling Rate สูงถึง 240Hz สามารถใช้งานหน้าจอได้แบบลื่นๆ ไถฟีดได้รัวๆ ไม่มีสะดุดเลย
สเปคการใช้งาน
- หน้าจอ 6.55” AMOLED Dot Display (2400 x 1080 FHD+) 10-bit TrueColor DCI-P3
- Refresh Rate 90 Hz
- น้ำหนัก 158 กรัม
- CPU Qualcomm®️ Snapdragon™ 778G 6nm
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 12.5 based on Android 11
- RAM 6=8GB
- ROM 128-256GB
- แบตเตอรี่ 4,250mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 33W
- กล้องหลัง 4 ตัว
- กล้องหลัก 3 ตัว
- 64MP Main Camera
- 8MP Ultra-Wide
- 5MP Telemacro
- กล้องหน้า 20MP
- รองรับ 2 ซิมการ์ด
- ระบบเสียง Dual Speaker
- ช่องชาร์จ USB -C
- มีทั้งหมด 4 สี
- Truffle Black
- Bubblegum Blue
- Peach Pink
- Snowflake White
ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm™ Snapdragon® 778G รองรับ 5G ทั้งสองซิมการ์ด ทำงานควบคู่กับ RAM 6-8GB ROM 128-256GB ระบบความปลอดภัยรองรับการสแกนลายนิ้วมือและใบหน้า สามารถสแกนเข้าถึงตัวเครื่องได้รวดเร็วแม่นยำดีมาก แตะเบาๆ ก็เข้าถึงตัวเครื่องได้แล้ว ในเรื่องการประมวลผลทั่วไป เล่นโซเชียลต่างๆ ใช้งานได้ลื่นไหล ไม่ติดปัญหาอะไรเลย
การเล่นเกมส์และการดูหนังฟังเพลง
ROV
ในเกมนี้สามารถปรับตั้งค่าได้สูงสุดทุกอย่างตั้งแต่ภาพ HD และการแสดงผล ไม่สามารถเปิดโหมดเฟรมเรทสูงได้เฟรมเรทจะถูกล็อคไว้อยู่ที่ 30 ในเกมนี้สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล เรื่องความสวยงามของภาพกราฟิกและเอฟเฟคต่างๆ ตระการตามากๆ ภาพสวยเสียงดีสุดๆ แอบมีจังหวะเฟรม Drop เล็กๆในช่วงจังหวะการเข้าปะทะ แต่ก็ไม่ได้หน่วงถึงขั้นร้ายแรงอะไร ในเกมนี้ถือว่าสามารถเล่นได้ดีทีเดียว
Call of Duty
มาต่อกันที่เกม Call of Duty การตั้งค่าสามารถปรับเฟรมเรตสูงและการแสดงผลได้สูงเช่นเดียวกัน ในโหมด Front Line จะเป็นการโหลดฉากแค่ด่านเดียวพร้อมผู้เล่นเพียง 10 คน ในด่านนี้สามารถเล่นได้ลื่นไหลและไม่เจอจังหวะหน่วงหรือกระตุกเลยแม้แต่น้อย เล่นได้ลื่นๆ Kill แบบรัวๆ
ทีนี้ลองเปลี่ยนไปเล่นโหมด Battle Royale กับผู้เล่นจำนวนเกือบร้อยคน แล้วต้องมีการโหลดฉากตลอดเวลา ในบางช่วงจะมีจังหวะกระตุกและก็สะดุดบ้าง อย่างเช่นในจังหวะของการกระโดดร่ม หรือจังหวะโดดขึ้นยานพาหนะ แต่ ไม่เจออาการกระตุกจนถึงขั้นมีปัญหาในการเล่น ภาพรวมในเกมนี้ก็ถือว่าทำได้ดีเช่นเดียวกัน
การดูหนังฟังเพลง
ด้วยพลังอภินิหารแห่งจอ Dolby Vision และเทคโนโลยีแสดงผล True Color ระดับ 10-bit มันให้ภาพที่คมชัดและลีสันสมจริง ดูหนังฟังเพลงแบบเต็มอิ่ม นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นลำโพง Dual Speaker บนล่างจึงให้เสียงที่ค่อนข้างดังกระหึ่มและให้มิติเสียงที่ค่อนข้างดีทีเดียว เป็นลำโพงสเตอริโอที่แบ่งแยกซ้ายขวาชัดเจนเพิ่มอรรถรสในการรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ให้มันเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น
ส่วนเรื่องของการจัดการแบตเตอรี่ ดูหนังผ่าน Disney+Hotstars 1 ชั่วโมงแบตลด 8% ก็ถือว่ามีการจัดการแบตเตอรี่ที่ทำได้ค่อนข้างดีเช่นเดียวกัน
กล้อง
เดินทางมาถึงอีกหนึ่งจุดเด่นของตัวนี้นั่นก็คือกล้อง กล้องหลักความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 64 ล้านพิกเซลเลยทีเดียวล่ะ
- 64MP main camera
- 8MP Ultra wide-angle camera
- 5MP telemacro camera
ความละเอียด 64 ล้านพิกเซลมันชัดถึงขนาดที่ว่าต่อให้เราซูมภาพไกลๆหรือว่าครอปภาพออกมาอีกทีภาพก็ยังคงรายละเอียดชัดเจน สามารถนำไปปรับแต่งต่อได้หลากหลายและให้คุณภาพที่ดีกว่า การเปิดใช้ความละเอียด 64 ล้านพิกเซลสามารถเรียกใช้งานได้ในเพิ่มเติม
Ultra-wide angle 8MP เป็นเลนส์มุมกว้างเพื่อการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์แบบเก็บรายละเอียดได้ครบทุกองค์ประกอบ ซึ่งนอกจากการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์แล้วยังสามารถถ่าย Portrait เพื่อสร้างมุมมองที่แปลกใหม่ได้อีกด้วย คุณภาพของเลนส์ Ultra-wide ตัวนี้ถือว่าให้มุมและขอบภาพที่ไม่มีผิดเพี้ยนหรือว่าบิดเบี้ยว ให้ภาพกว้างอย่างเป็นธรรมชาติ
เลนส์ Telemacro 5MP เพื่อการถ่ายภาพในมุมมองที่ใกล้มากๆโดยที่ยังคงความคมชัด และเก็บรายละเอียดได้ดี เลนส์เทเลจะช่วยซุมภาพให้มาโครมันเข้าใกล้ได้มากยิ่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องขยับกล้องเข้าไปใกล้วัตถุจนเกินไป และมันจะช่วยโฟกัสให้อัตโนมัติไม่ว่าเราจะอยู่ในระยะเท่าไหร่ก็ตาม ถ้าเป็นมาโครแบบปกติเราจะต้องเอากล้องเลื่อนเข้าไปในระยะที่เหมาะสมถึงจะโฟกัสและสามารถกดถ่ายภาพได้ แต่ Telemacro เราสามารถเลือกระยะที่ต้องการได้เองตามความต้องการเลย อยากให้มันใกล้มากหรือว่าไกลออกมาหน่อยก็เลือกได้ตามใจ
และถึงแม้ว่าจะไม่มี Depth เซ็นเซอร์มาให้แต่ก็มีโหมดภาพถ่ายบุคคลมาให้ใช้งานเพื่อถ่ายหน้าชัดหลังละลาย โดยที่สามารถเลือกระยะชัดและระยะเบลอได้ตั้งแต่ F1 เบลอมากไปจนถึง F16 ไม่มีความเบลออยู่เลย ความแม่นยำในการตัดฉากหลังถือว่าทำได้ค่อนข้างแม่นยำทีเดียว
กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพแบบปกติทั้งหน้าและหลังหรือจะเลือกใช้โหมดภาพถ่ายบุคคลเพื่อปรับหน้าชัดหลังละลายก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันกับกล้องหลัง อีกทั้งยังมีลูกเล่นและฟิลเตอร์ให้ได้เล่นอีกเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่ากอปปี้กันมาเลย
การถ่ายวีดีโอ
ในการถ่ายวีดีโอในรุ่นนี้ก็มีเครื่องมือมาให้เล่นมากมายเลยอย่างเช่นการใส่ฟิลเตอร์เพื่อให้ได้ฟิลลิ่งเสมือนอยู่ในภาพยนตร์ ซึ่งมีให้เลือกปรับแบบหลากหลายทีเดียว
ทั้งโหมด Vlog ที่จะใส่เอฟเฟคให้งานวีดีโอเราเสมือนถูกตัดต่ออย่างมืออาชีพเพื่อเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น การโคลนนิ่งแยกร่าง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเอฟเฟคเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้วีดีโอเราดูมีความเป็นมืออาชีพและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้งานแต่ละหมวดก็คือใช้งานได้ง่ายมากๆ แล้วก็เป็นฟีเจอร์ที่รู้สึกสนุกกับมันมากทีเดียว
การแก้ไขภาพ
นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปปรับแก้ไขภาพด้วย AI เพื่อทำให้ภาพถ่ายที่เราถ่ายออกมามีบรรยากาศที่แตกต่างออกไป อย่างเช่นวันไหนที่ท้องฟ้าไม่แจ่มใสเราก็สามารถเปลี่ยนท้องฟ้าให้สดใสหรือน่าค้นหามากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
แบตเตอรี่ของรุ่นนี้ให้มาอยู่ที่ 4,250mAh รองรับความเร็วในการชาร์จอยู่ที่ 33W ในกล่องมีแถมที่ชาร์จมาให้ด้วย จากการใช้งานจริงแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานทั้งวันต่อการใช้งานทั่วไป แต่ถ้ามีการถ่ายรูป เล่นเกม หรือดูหนังยาวนานต่อเนื่องก็อาจจะต้องมีชาร์จระหว่างวันบ้าง มีข้อสังเกตตรงที่การจัดการแบตเตอรี่และความร้อนเวลาเล่นเกมจะทำได้ดีกว่าการถ่ายภาพและวีดีโอ โดยทดลองชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 50 นาที ถือว่าไวทันใช้ทีเดียว
สรุปการใช้งาน
สำหรับจุดเด่นในรุ่นนี้ก็คือเรื่องจอที่ให่การแสดงผลสีสันสมจริง เหมาะสำหรับการดูหนัง ดูซีรีย์ชมคอนเท้นต่างๆ ได้อย่างเพลินเพลิน แถมเป็นลำโพง Dual Speaker ให้เสียงเซอร์ราวน์อีกด้วย จัดหนักจัดเต็มในเรื่องของการดูหนังฟังเพลงกันไปเลย ในเรื่องของการถ่ายภาพก็ให้กล้องหลังความละเอียดสูงมากถึง 64 ล้านพิกเซล ให้ภาพที่คมชัดมีลูกเล่นวีดีโอให้เล่นหลากหลายเพิ่มความโดดเด่นและความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญยังมาพร้อมดีไซน์บางเบาแบบว่าบางเฉียบสามารถพกพาได้ง่ายใช้งานได้สะดวก เป็นมือถือที่บางที่สุดของปีนี้แล้วก็ว่าได้ มาด้วยดีไซน์หรูหราน่าใช้งานสุดๆ จุดสังเกตก็จะมีตรงที่ไม่มีช่องเสียบหูฟังแจ็ค 3.5 และยังไม่มีโหมดเฟรมเรทสูงในการเล่นเกมบางเกมได้ นอกจากนั้นการใช้งานอื่นๆ ถือว่าทำได้ดีมากๆ เลย
ราคา
- 6 GB + 128 GB ราคา 10,990 THB
- 8 GB + 128 GB ราคา 11,990 THB
- 8 GB + 256 GB ราคา 13,990 THB