vivo ได้ทำการเปิดตัว vivo X70 Series ซึ่งในตระกูลจะประกอบไปด้วย vivo X70, vivo X70 Pro และ vivo X70 Plus โดยแต่ละตัวนั้นจะมีความแตกต่างที่ชัดเจนมากจะเป็นยังไงไปลองดูกันเลยครับ
vivo X70 จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 6.56 นิ้วใช้ panel จอแบบ amoled ความละเอียด full hd Plus มีอัตรา Refresh Rate อยู่ที่ 120 hz ชิปประมวลผลจะใช้เป็น MediaTek Dimensity 1200 SoC มีแรมมาให้เลือกระหว่าง 8 GB และ 32 GB ส่วนหน่วยความจำจะมีมาให้ที่ 256 GB
กล้องหลังจะมาพร้อมกล้องความละเอียด 41 ล้านพิกเซลโดยใช้เซนเซอร์จาก Sony รุ่น imx766V มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f 1.8 9 ทักมาจะเป็นกล้องมุมกว้างที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลพร้อมด้วยรูรับแสง f 2.2 และกล้อง Portrait ที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลมีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f1.98 ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซลมีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f 2.45 ตัวแบตเตอรี่จะมีความจุอยู่ที่ 4,500 มิลลิแอมป์รองรับ Fast Charge ที่ 44 วัตต์มิติตัวเครื่องจะอยู่ที่ 160. 1 x 75.39 x 7.55 mm มีน้ำหนักอยู่ที่ 181 กรัม
ส่วนราคาจะอยู่ที่ 19,000 บาท สำหรับในรุ่น Ram 8 GB ความจุ 128 GB ส่วนในรุ่น Ram 8 GB ความจุ 256 GB จะอยู่ที่ 20,000 บาท และรุ่น Ram 12 GB ความจุ 256 GB จะอยู่ที่ประมาณ 22,000 บาท
vivo X70 Pro จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 6.5 6 นิ้วใช้ panel จอแบบ capacitive ความละเอียด full hd Plus มีอัตรารีเฟรชอยู่ที่ 120 hz ชิปประมวลผลจะใช้เป็น Samsung exynos 1080 มีให้เลือกทั้งรุ่น Ram 8 GB และ Ram 12 GB ส่วนเจ้าตัวนี้จะมีการเพิ่มความจุสูงสุดถึง 512 GB
ทางด้านกล้องจะมาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F 1.75 ตามมาด้วยกล้องมุมกว้างที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลและกล้อง 8 ล้านพิกเซลแบบ periscope f 3.4 ที่สามารถซูมได้ถึง 5 เท่า แบตเตอรี่จะมีความจุที่ 4450 มิลลิแอมป์รองรับ Fast Charge ที่ 44 วัตต์มิติตัวเครื่องจะอยู่ที่ 158.3 x 73.21 x 7.99 มิลลิเมตรมีน้ำหนักอยู่ที่ 185 กรัม
ราคาในรุ่น Ram 8 GB ความจุ 128 GB จะอยู่ที่ประมาณ 22,000 บาทในรุ่น Ram 8 GB ความจุ 256 GB จะอยู่ที่ประมาณ 23,000 บาทส่วนในรุ่น Ram 12 GB ความจุ 256 GB จะอยู่ที่ 24,000 บาท และในรุ่น Ram 12 GB ความจุ 512 GB จะอยู่ที่ 27,000 บาท
vivo X70 Pro+ จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.7 8 นิ้วมีความละเอียดอยู่ที่ 1440 x 3200 พิกเซลมีอัตรา Refresh Rate อยู่ที่ 120 hz ชิปประมวลผลจะใช้เป็น Snapdragon 888 Plus ตัวแรมเองก็จะมีให้เลือกทั้งรุ่น 8 GB และ 32 GB ส่วนทางด้านความจุก็จะมีให้เลือกทั้งรุ่น 256 GB และ 512 GB
ในเรื่องของกล้องตัวนี้จัดเต็มสุดๆโดยการเริ่มมาจากที่กล้องหลักจะใช้เป็นเซ็นเซอร์ของ Samsung ที่มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f 1.57 ทักมาจะเป็นกล้องมุมกว้างที่ใช้เซ็นเซอร์ของ Sony รุ่น imx598 มีความละเอียดอยู่ที่ 48 ล้านพิกเซล f 2.2 นอกจากนั้นยังจะมีกล้อง Portrait ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f 1.6 และยังมีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลที่ใช้เล่น Periscope สามารถซูมได้มากถึง 5 เท่าโดย ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f3.4 ตัวแบตเตอรี่จะมีความจุมาให้ 5000 มิลลิแอมป์รองรับฟ้าที่ 55 วัตต์พร้อมรองรับ Wireless Charge ที่ 50 วัตต์ไม่ติดตัวเครื่องจะอยู่ที่ 164.54×75.21×8.89mm น้ำหนักตัวเครื่องจะอยู่ที่ 290 กรัม
ทางด้านราคาสำหรับในรุ่น Ram 8 GB ความจุ 256 GB จะอยู่ที่ประมาณ 28,000 บาทส่วนในรุ่น Ram 12 GB ความจุ 256 GB จะอยู่ที่ 30,000 บาทและรุ่น Ram 12 GB ความจุ 512 GB จะอยู่ที่ประมาณ 35,000 บาท
ในทุกรุ่นนั้นจะมาพร้อมระบบปฏิบัติการที่มีพื้นฐานมาจากแอนดรอยด์ 11 หรือที่พวกเขาเรียกกันว่า Origin OS 1.0 โดยทั้งหมดนี้จะเริ่มวางขายในวันที่ 27 กันยายนหรือวันศุกร์หน้าที่จะถึงนี้ในประเทศจีนครับ