Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ Apple ที่เชื่อถือได้ของ TF International กล่าวว่า iPhone 13 Series ของ Apple ที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ อาจมีการเพิ่มตัวเลือกการเชื่อมต่อใหม่ โดยตามรายงานของ Kuo ระบุว่า iPhone 13 รุ่นต่างๆ จะมีชิปเบสแบนด์ Qualcomm X60 ที่จะช่วยให้ iPhone 13 สามารถรองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียมแบบวงโคจรต่ำด้วย
ทางนักวิเคราะห์ชื่อดังให้เหตุผลว่า Qualcomm กับ Globalstar กำลังทำงานร่วมกัน จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีความร่วมมือรูปแบบธุรกิจของ Apple กับ Globalstar ด้วย ซึ่งความร่วมมือนี้จะมีข้อดีหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถใช้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมของ Globalstar บน iPhone 13 ได้โดยตรงผ่านผู้ให้บริการ เป็นต้น
Kuo รู้สึกว่า Apple มีแผนที่จะใช้การเชื่อมต่อดาวเทียมกับ iPhone มากขึ้น และมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ผู้ใช้ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ และเขายังกล่าวอีกว่า ชุดหูฟัง mixed-reality headset ที่มีข่าวลือของ Apple และ Apple Car ทั้งคู่จะสามารถใช้ประโยชน์จากการสื่อสารผ่านดาวเทียมร่วมกับสัญญาณ mmWave 5G ที่เร็วมากขึ้นได้
นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า Apple จะปรับแต่งชิป X60 ของ Qualcomm เพื่อพัฒนาคุณสมบัติ แม้ว่าจะไม่ทราบแน่ชัดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างก็ตาม แต่สำหรับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่นที่ต้องการเพิ่มคุณสมบัตินี้อาจจะต้องรอจนถึงปี 2022 ซึ่งเป็นเวลาที่ชิปเบสแบนด์ X65 ของ Qualcomm จะพร้อมใช้งาน โดยแม้ว่า iPhone 13 อาจไม่ใช่สมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่รองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม แต่จะเป็นโทรศัพท์มือถือหลักๆ รุ่นแรกที่ทำเช่นนั้นได้ครับ
ซึ่งหากข่าวลือนี้เป็นความจริง (เพราะส่วนใหญ่ Kuo ให้ข่าวค่อนข้างแม่นยำเสมอ) iPhone 13 Series จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆ ที่นำรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากโทรศัพท์ระบบดาวเทียมที่มีอยู่ในท้องตลาด ซึ่งหลายตัวมีขนาดใหญ่และเป็นก้อน มาพร้อมเสาอากาศที่ต้องขยายดูไม่น่าพกพา แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีโทรศัพท์ดาวเทียมระบบ Android อย่างเช่น Thuraya X5-Touch ให้ผู้ใช้เลือกระหว่างการใช้เครือข่ายเซลลูลาร์ GSM หรือสัญญาณดาวเทียมได้ อุปกรณ์ดังกล่าวมีราคาอยู่ที่ 1,150 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 37,500 บาท) โดยมาพร้อมจอแสดงผล FHD+ ขนาด 5.2 นิ้ว ต้องจ่ายขนาดนี้ คุณจะเอาไอโฟน หรือจะเอา Thuraya ล่ะครับ
source: phonearena