จากสถานะการณ์ปัจจุบันของโควิด 19 ทำให้คนต้องหันมาใส่หน้ากากอนามัยกันทั่วโลก แทบจะทำให้ระบบ Face ID ของ Apple ไร้ประโยชน์เลยครับ และเรามีความหวังว่า Touch ID บนหน้าจอของ iPhone 13 จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า Apple จะยังไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ครับ
มีรายงานใหม่ระบุว่า Apple กำลังทดสอบการตั้งค่า Face ID ที่อัปเดตภายในซึ่งออกแบบมาสำหรับโลกที่ติดเชื้อ COVID-19 ดังกล่าว ซึ่งแหล่งข่าวของ Front Page Tech อ้างว่า Apple ได้พัฒนาเคสต้นแบบสำหรับ iPhone 12 รุ่นปัจจุบัน ที่มาพร้อมระบบ Face ID ที่ยังไม่ได้เปิดตัว และจะทำงาน bypass Face ID ในตัวของอุปกรณ์ได้
ซึ่งกล่าวกันว่าระบบสแกนใบหน้าต้นแบบนี้จะมีขนาดแคบกว่าที่มีอยู่บนไอโฟน 12 และมีขนาดใกล้เคียงกับ Face ID ที่เห็นในไฟล์ CAD ของ iPhone 13 ที่หลุดมาก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าอาจเป็นรุ่นก่อนหน้าของฮาร์ดแวร์ขั้นสุดท้ายก็เป็นได้
และจากภาพเรนเดอร์ที่เห็นประกอบบทความนั้น ถูกกล่าวหาว่าอิงตามวิดีโอและภาพของยูนิตต้นแบบประมาณ 75 ยูนิต โดยแนวคิดทั้งหมดของเคส Face ID ต้นแบบ คือการทดสอบครั้งใหญ่ขึ้นภายในบริษัท เพื่อให้ไม่ต้องมีใครสามารถเข้าถึง iPhone 13 รุ่นแรกได้นั่นเอง
แหล่งข่าวกล่าวว่าพนักงานของ Apple บางคนถูกขอให้ใช้ระบบ Face ID ใหม่นี้ขณะสวมหน้ากาก และแว่นตาในเวลาเดียวกันอีกด้วย โดยมีรายงานว่าพนักงานกำลังทำการทดสอบทั้งในร่มและกลางแจ้ง “สวมใส่แว่นตาและหน้ากากทุกรูปแบบ”
เห็นได้ชัดว่า Apple ให้ความสำคัญอย่างมากกับการทดสอบ Face ID ที่อัปเกรดแล้วด้วยแว่นและหน้ากาก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาในแต่ละวัน จึงอาจแสดงให้เห็นว่าฮาร์ดแวร์ใหม่สามารถทำงานได้แม้ในขณะที่มองเห็นเพียงส่วนหนึ่งของใบหน้าผู้ใช้
ในปัจจุบันวิธีเดียวที่จะปลดล็อก iPhone ที่มี Face ID ขณะสวมหน้ากากคือพิมพ์รหัสผ่านหรือสวม Apple Watch ซึ่งจะปลดล็อก iPhone โดยอัตโนมัติเมื่อ Face ID ตรวจพบหน้ากาก
การที่ iPhone 13 Series จะแนะนำระบบ Face ID ที่อัปเดตซึ่งทำงานร่วมกับมาสก์ได้ จะเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่ทำให้ Touch ID อาจยังไม่จำเป็น และที่สำคัญ จะพร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ในวงกว้างมากขึ้น เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการหรือสามารถซื้อ Apple Watch ได้นั่นเอง
source: phonearena