ภาพรวม Samsung Galaxy Z Fold3
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่านครับ! อยู่กับ @นายเป้ไงจะใครล่ะ พบกันอีกเช่นเคย วันนี้รีวิว Samsung Galaxy Z Fold3 สมาร์ทโฟนนวัตกรรมจากค่าย SAMSUNG ที่สามารถพับจอได้! มาพร้อมลูกเล่นมากมาย และนวัตกรรมล้ำๆ อีกเพียบ! มาดูกันครับว่า Samsung Galaxy Z Fold3 ตัวนี้ใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร กับค่าตัวที่เปิดราคามาเกือบหกหมื่น มันว้าวซ่าขนาดที่เราจะควักเงินครึ่งแสนซื้อไหม มารีวิวให้ชมกันครับ!
ก่อนอื่นขอสรุปจุดเด่นจุดสังเกตสักเล็กน้อยครับสำหรับ Samsung Galaxy Z Fold3 ตัวนี้
จุดเด่น
- มีสองหน้าจอ สามารถพับจอเพื่อขยายได้จากจอ 6.2 นิ้ว เป็น 7.6 นิ้ว
- นวัตกรรมใหม่ "กล้องใต้จอ" (Under Display Camera) ที่มาให้สัมผัสครั้งแรกในปี 2021 นี้
- ฟีเจอร์ Labs น่าสนใจ สามารถเล่นพร้อมกันได้ถึง 3 แอป และ Flex Mode ที่ใช้งานจริงได้ดีมาก!
- เล่น LoL WR, Genshin Impact ฟินมาก! จอเค้าใหญ่และรองรับอัตราส่วนนี้
จุดสังเกต
- ตอนที่พับ เหมือนกับนำสมาร์ทโฟนสองเครื่องมาวางทับกัน อาจขัดใจใครบางคน
- แบต 4,400 mAh ถือว่าน้อยไปหน่อยครับ เมื่อเทียบกับความเป็นสมาร์ทโฟนขนาดกึ่งแท็ปเล็ต (เมื่อกางจอออกมาแล้ว)
- บางเกม อัตราส่วนหน้าจออาจไม่รองรับในเรื่องของมุมมองภาพ
สามารถรับชมรีวิวฉบับใช้งานจริงในรูปแบบวิดีโอได้ที่นี่!
สเปค Samsung Galaxy Z Fold3
- หน้าจอนอก : 6.2" AMOLED 2X 120Hz ความละเอียด 832 x 2268 พิกเซล อัตราส่วน 25:9 (ยาวมาก)
- หน้าจอใน : 7.6" เมื่อกางออกมาแล้ว AMOLED 2X 120Hz ความละเอียด 1768 x 2208 พิกเซล อัตราส่วน 22.5:18
- มิติตัวเครื่อง (ยังไม่กาง) : 158.2 x 128.1 x 6.4 มม.
- มิติตัวเครื่อง (กางแล้ว) : 158.2 x 67.1 x 14.4-16 มม.
- น้ำหนัก : 271 กรัม
- CPU : Snapdragon 888 5G
- GPU : Adreno 660
- RAM : 12 GB
- ROM : 256/512 GB UFS 3.1
- ไม่รองรับ SD Card
- แบตเตอรี่ : 4,400 mAh รองรับชาร์จไวสูงสุด 25w
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก ความละเอียด 12MP f/1.8
- กล้องอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12MP f/2.4
- กล้องเทเล 2X ความละเอียด 12MP f/2.2
- รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K@60fps, 1080p@60/240fps
- กล้องหน้า(ด้านนอก) ความละเอียด 10MP
- กล้องหน้า(ด้านใน) Under Display Camera ความละเอียด 4MP
- รองรับสแกนใบหน้า
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e
- Bluetooth 5.2
- พอร์ต USB Type-C 3.2
- ระบบปฏิบัติการ Android 11, OneUI 3.1
- ลำโพงคู่ (Stereo Speaker) จูนโดย AKG
- กันน้ำกันฝุ่น IPX8
- สี : Phantom Black, Phantom Silver, Phantom Green
- ราคาเปิดตัวในประเทศไทย :
- รุ่น RAM 12 ROM 256 ราคา 57,900 บาท
- รุ่น RAM 12 ROM 512 ราคา 61,900 บาท
ว่ากันด้วยเรื่องดีไซน์
สำหรับดีไซน์ของ SAMSUNG Galaxy Z Fold3 นั้น เรียกได้ว่ามีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ ให้พูดกันให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เป็นมือถือที่จอพับได้! ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของทางซัมซุง ที่ได้มีการออกแบบมาในเรื่องของหน้าจอและกลไลต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนล้ำๆ ที่สามารถนำมาขายจริง แล้วคนก็ใช้งานกันได้จริงๆ ครับ! สุดยอด~
โดยที่สีที่ผมได้รับมารีวิวในครั้งนี้คือสี Phantom Black เป็นสีดำด้านที่ให้ความรู้สึกสุขุมนุ่มลึก เรื่องของสัมผัสจับถือคือทำออกมาได้ดีมากๆ เลยครับ Texture ของฝาหลังเค้าสัมผัสดีงามมากจริงๆ แล้วก็ไม่ค่อยติดรอยนิ้วมือสักเท่าไหร่ด้วยล่ะ! มาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น IPX8
เมื่อเรายังไม่ได้กางจอ (พับอยู่) ดูกันเผินๆ ก็จะเหมือนสมาร์ทโฟนสองเครื่องวางซ้อนกันดื้อๆ เลย แต่เป็นสมาร์ทโฟนที่เครื่องไม่ได้ใหญ่มาก น้ำหนักเค้าเพียงแค่ 271 กรัมเท่านั้น ถามว่าเยอะไหม ก็เยอะกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปแหละ! แต่มองในเรื่องที่เค้าสามารถกางจอออกได้ ก็ต้องยอมเค้านิดนึงครับ
โดยที่เค้ามาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างด้วยนะ แถมความเร็วใช้ได้เลยล่ะ! ตัวนี้สามารถใส่ได้ 2 SIM และ 1 e-SIM (ไม่สามารถเพิ่ม microSD ได้นะครับ)
โดยที่รอบนี้เค้าได้เปลี่ยนดีไซน์ของโมดูลกล้องจากรุ่นที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด มาเรียงกันเป็นแนวยาวเรียบๆ แบบนี้ ส่วนตัวแล้วผมชอบมากกว่ารุ่นที่แล้วนะ!
โดยรวมเรื่องของดีไซน์เค้า ถ้าจะเรียกว่าแท็ปเล็ตพับได้ ก็ไม่ผิดแต่อย่างใดครับ ให้ฟิลลิ่ง ความรู้สึกประมาณนั้นเลย ข้อดีคือเรื่องของการพกพานี่แหละ ที่เราจะสามารถใส่กระเป๋ากางเกง หรือกระเป๋าเสื้อ พกพาไปได้ทุกที่สะดวกสบายมากๆ
จอแสดงผล 2 จอ!?
สำหรับ Samsung Galaxy Z Fold3 นั้นมาพร้อมกับหน้าจอถึง 2 จอด้วยกัน!?
จอด้านนอก (แบบยังไม่กางออก) เป็นจอขนาด 6.2 นิ้ว อัตราส่วนแบบ 24.5:9 ยาวแบบต้องเล่นเสียงว่า "ย๊าวววยาววว~" เพราะว่ามันยาวจริงๆ จะเป็นอัตราส่วนแปลกๆ ที่เราอาจจะไม่เคยใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ มาก่อนครับในจุดนี้
จอด้านใน (แบบกางออกแล้ว) เมื่อเรากางจอออกมา จอด้านในจะเป็นจอแสดงผลขนาด 7.6 นิ้ว เป็นอัตราส่วน 22.5:18 โดยที่อัตราส่วนอาจจะแปลกๆ นิดนึงครับ จะเป็นจอยาวๆ ก็ไม่ใช่ จะเป็นจอจตุรัสไหม? ก็ไม่เชิง ก็ยังคงเป็นอัตราส่วนที่แปลกตาออกไปเช่นเดียวกันครับ
โดยที่ทั้งสองจอ จอด้านนอก และ จอด้านใน เป็นจอ AMOLED 2X ที่ให้การแสดงผลคมกริบ! จอชัดและรายละเอียดดีงามมากๆ เรียกว่าเป็นจอตัวท๊อปในตลาดสมาร์ทโฟนเลยก็ว่าได้
โดยที่เค้าเป็นจออัตรารีเฟรชเรท 120Hz ทั้งสองจอเลยครับ เน้นว่า "ทั้งสองจอ" เลย นั่นหมายความว่าประสบการณ์ในการใช้งานในแอปทั่วๆ ไป โซเชี่ยลต่างๆ การเลื่อนหน้าจอ นั้นจะมีความลื่นไหลในระดับที่ต้องเรียกว่า ..ลื่นหัวแตก! มันเนียนตาจริงๆ ครับ สำหรับจอ 120Hz บนจอ AMOLED 2X นี้ ประทับใจเรื่องจอมากๆ
แถมจอเค้ายังใช้วัสดุแบบ Gorilla Glass Victus ที่มีความแข็งแรงที่สุดในสมาร์ทโฟนตอนนี้ครับ เรียกได้ว่าแข็งแกร่งทั้งจอนอกและจอในเลย~ ส่วนในเรื่องของการพับจอนั้น ผมต้องบอกตรงๆ ว่า "ไม่ต้องกังวล" ครับ! สามารถทำได้ด้วยแรงปกติมนุษย์ได้เลย ไม่ถึงขั้นต้องมาระแวดระวังขนาดนั้น เค้าออกแบบมาดีแล้วตัวนี้
โดยที่เค้าเคลมว่าจอแข็งแรงขึ้นกว่า 80% เมื่อเทียบกับตัวที่แล้ว!? ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีครับสำหรับเทคโนโลยีจอพับได้แบบนี้ และอีกอย่างในเรื่องของกลไกการพับจอ ทางซัมซุงเค้าบอกเองเลยว่าสามารถพับจอได้ถึง 200,000 ครั้ง ถ้าเราลองมาคำนวณกันเล่นๆ ว่าเราพับเปิดปิดจอสักวันละ 100 ครั้งเนี่ย ใช้ไป 5 ปี ยังไม่ถึง 200,000 ครั้งเลย!? ตรงนี้ผมก็ต้องพูดตรงๆ ว่า ไม่ต้องไปกังวลอะไรมากมายครับ ดีไม่ดีใช้สักสองสามปี คุณก็อาจจะเปลี่ยนเครื่องไปใช้เครื่องอื่นแล้วก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นสบายๆ ครับสำหรับเรื่องการพับหน้าจอต่างๆ
และไฮไลต์ในปี 2021 นี้ ทางซัมซุงได้มีการใช้เทคโนโลยีซ่อนกล้องใต้หน้าจอ หรือ Under Display Camera (UDC) มาใช้จริงในสมาร์ทโฟนตัวนี้อีกด้วย! แต่ถ้าถามกันตรงๆ ว่า ...มันซ่อนได้หมดจรดจริงๆ ไหม ผมก็คงต้องตอบว่า “ช้าก่อนพ่อหนุ่ม”
คือมันเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่งจะได้ใช้กันจริงๆ ในปีนี้ พูดตรงๆ ว่าอาจจะยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรนัก ถ้าเราสังเกตุกันจริงๆ มันจะเหมือนพิกเซลเม็ดใหญ่ๆ หยาบๆ สว่างๆขึ้นมา ถ้าดูภาพรวมมันทำให้เห็นรายละเอียดในส่วนที่หายไปแบบลางๆ ครับ ไม่ได้ชัดแจ๋วอะไรแบบนั้น
แต่ถือว่าเป็นก้าวที่ดีนะ คือมันมาแน่แล้วล่ะ เทรนด์ของการซ่อนกล้องแบบนี้ ในอนาคตคิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้แน่ๆ แต่ ณ ตอนนี้ ปี 2021 นี้ พูดตรงๆ ว่าอาจจะยังไม่ประทับใจเท่าไหร่ครับ
ส่วนการดูหนังดูซีรีส์ ถ้าให้ว่ากันตรงๆ ด้วยความที่ยุคนี้เค้าก็จะเน้นอัตราส่วนแบบ 16:9 19.5:9 21:9 อะไรแบบนั้นที่เป็นแนวยาวๆ แบบ Cinematic สำหรับการเอามาใช้ดูหนังโดยที่กางจอออกมาเนี่ย ต้องบอกว่าจะเสียพื้นที่ค่อนข้างเยอะครับ
ถ้าเทียบจริงๆ ก็คือเท่าสมาร์ทโฟนหน้าจอ 6 นิ้วปลายๆ ประมาณนั้น (แต่ถ้า Sources เป็นอัตราส่วน 16:9 จะเสียพื้นที่ไม่เยอะมากเท่าไหร่) ถ้าเป็นหนังยุคใหม่ที่เป็นอัตราส่วน 21:9 หรือยาวนั้น จะเห็นความต่างได้อย่างชัดเจนเลยครับ มันเหลือเล็กนิดเดียว แต่ถ้าใครไม่ติด กดแหกนิ้วเพื่อดูเต็มจอก็ได้ครับ แต่ก็โดนครอปไป(โคตร)เยอะเหมือนกันแฮะ ต้องเลือกเอาครับ
ส่วนเรื่องของรอยต่อรอยพับหน้าจออะไรแบบนี้ ว่ากันตรงๆ ก็ยังเห็นชัดอยู่ครับ เห็นเป็นเหมือนรอยพับได้ชัดเจน แต่ถามว่าการใช้งานจริงรู้สึกขนาดนั้นไหม ตอบว่า "ไม่ครับ" พอเล่นเกมเต็มจอ ดูหนังเต็มจอ แล้วดูในองศาที่ถูกต้องเนี่ย แทบไม่รู้สึกเลยนะ แต่ถ้าองศามันเปลี่ยน ก็จะทำให้เห็นรอยตรงนี้ชัดขึ้นครับ
ส่วนจอทั้งสองนั้นเป็นจอแยกกันครับ เวลาเราลงแอปอะไรต่างๆ ที่หน้าจอนอก มันจะไม่ไปอยู่ที่หน้าจอด้านในนะ! ก็คือแยกกันโดยสิ้นเชิง ด้านนอกจะให้มีแอปอะไรบ้าง ด้านในจะให้แสดงแอปอะไรบ้าง ก็ตั้งได้ตามใจชอบเลย! แต่ทั้งนี้ ถึงจะบอกว่าจอมันแยกกันก็เถอะ แต่หากเราใช้งานแอปใดแอปหนึ่งที่หน้าจอนึงอยู่ เวลาพับ หรือกางออก แอปนั้นก็จะไปทำงานในอีกหน้าจอที่เราใช้งานครับ สะดวกมากๆ ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องเลยล่ะ!
ส่วนเรื่องจอนั้นอาจจะต้องระวังนิดนึงนะครับ ห้ามแกะ ฟิล์มที่เค้าติดมาให้ออกเลยนะ ห้ามไปยุ่ง! เตือนแล้วเด้ออ หน้าจอของเค้าอาจจะแข็งแรงก็จริง แต่แนะนำว่าให้ระวังเรื่องเม็ดฝุ่น เศษฝุ่นเล็กน้อยนะครับ พยายามอย่าให้มันไปอยู่ระหว่างรอยพับ ไม่งั้นอาจจะเกิดความเสียหายกับหน้าจอได้ ตามที่เค้าพูดกันว่า กันน้ำแต่ไม่กันฝุ่น เป็นข้อควรระวังนิดนึงครับในจุดนี้!
ฟีเจอร์เด่น
Z Fold3 มาพร้อมกับฟีเจอร์ Labs สามารถเข้าไปเปิดได้การในตั้งค่าขั้นสูง จะมีลูกเล่นให้เราลองได้เล่นเยอะเลย ตรงนี้ผมขอหยิบมาเล่าสักเรื่องสองเรื่องแล้วกัน
Multi Windows ตามสไตล์ OneUI 3.1 ที่เค้าจะสามารถเปิดได้พร้อมกัน 3 หน้าจอ ก็อาจจะดูทั่วๆ ไปใช่ไหมครับ แล้วมันเป็นฟีเจอร์ที่น่าเอามาเล่าให้ฟังตรงไหน!? ...มันว้าวซ่าตรงที่ เราจะเปิดแอปอะไรก็ได้ เพื่อใช้เป็น Multi Windows สามารถเปิดได้พร้อมกันสูงสุด 3 จอ ซึ่งๆๆ ตรงนี้ผมสามารถเปิดเกมได้สามจอพร้อมกัน Princess Connect Re:Dive, RoV และ Genshin Impact ที่มีการตั้งค่าปรับสุดทุกอย่าง มันก็พอจะเล่นพร้อมๆ กันได้นะ ถ้ามีซัก 6 มือคงสนุก (หยอกๆ)
แต่ผมไม่แนะนำ #อย่าหาทำ กันนะครับ เพราะว่ามันจะกินทรัพยากรเครื่องมากถึงขีดสุด! เครื่องจะร้อนมาก การประมวลผลจะหนักหน่วงมากเกินไป แต่ถามว่าทำได้ไหม ได้ ทำมาให้ดูแล้ว เล่นได้พร้อมกันด้วย! แต่เอาจริงเลยนะ มันอาจจะเหมาะกับการเอาไปใช้งานที่มันไม่หนักมากเท่าไหร่มากกว่า อย่างเช่น เปิดเล่นเกม RoM ออโต้ปล่อยบอทสักจอนึง เปิด Princess Connect จอนึง เปิดยูทูปจอนึง เปิดสัก 2 เกมเล่นไปพร้อมๆ กันได้(ย้ำว่าเป็นเกมเบาๆ) ทำได้สบายๆ เลย!
โดยที่เราสามารถบันทึกเลเอาท์ของ 3 แอปที่เราใช้เป็นประจำได้ด้วยนะ มันก็จะอยู่ที่แผง Edge ด้านข้าง ก็สามารถเรียกใช้แบบควิกๆ ได้เลย
แผงโหมด Flex ตรงนี้เป็นลูกเล่นที่น่ารักดี เวลาเราพับเครื่อง มันจะเหมือนกับเราแบ่งเป็น 2 จอ เช่นแอปยูทูป จอบนก็จะเป็นการเล่นวิดีโอ จอล่างจะเป็นในส่วนของคอมเมนต์อะไรต่างๆ ถ้าเป็น Netflix ก็จะแบ่งเป็นจอบนดูหนัง จอล่างเป็นการปรับตั้งค่าอะไรแบบนั้น
ก็สะดวกดีนะ อันนี้มองว่า เวลาเราทำงาน ถ้าจะเปิดพวก podcast หรือ วิดีโอดูระหว่างทำงานไปด้วยเนี่ย ก็พับจอมาครึ่งนึง แล้วใช้เป็นหน้าจอที่สองในการดูคอนเทนต์ได้เลย สะดวกมากๆ
S-Pen สำหรับปากกาตัวใหม่ที่รองรับใน Z Fold3 ตัวนี้ ผมอาจจะไม่ได้พูดถึงนะครับ เนื่องจากไม่ได้มีของมาให้ลองขีดๆ เขียนๆ เล่นอะไรแบบนั้น แต่ให้รู้ว่ามันมีก็แล้วกัน และในส่วนนี้เค้าออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Samsung Galaxy Z Fold3 เลย จะมี Mechanism ในการกดที่ต่างออกไปจาก S-Pen ปกติ เนื่องจากเค้าเป็นหน้าจอแบบพับได้ เลยต้องมีการออกแบบพิเศษขึ้นมา ซึ่งถ้าดูในตัวอย่างการใช้งานของ Samsung Official ก็จะเห็นได้ว่ามันสามารถใช้งานได้ลื่นไหล ไร้รอยต่อกันเลยทีเดียว สำหรับ S-Pen ตัวใหม่นี้!
ประสิทธิภาพการใช้งาน
Samsung Galaxy Z Fold3 มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 888 RAM 12GB ROM 256GB เรียกได้ว่าเป็นตัวท๊อปที่สุดของฝั่งแอนดรอยด์ ณ เวลานี้แล้วครับ การใช้งานทั่วไปลื่นไหลสบายมากๆ ไม่พูดถึงเลยละกัน ยิ่งจอทั้งสองมาเป็นแบบอัตรารีเฟรชเรทสูง 120Hz แบบนี้ การใช้งานทั่วๆ ไป "ลื่นหัวแตก" ครับ ไหลลื่นมากๆ จริงๆ สำหรับประสบการณ์การใช้งานของเค้า
สำหรับการใช้งานที่ดึงประสิทธิภาพของเครื่องออกมาอย่างการเล่นเกมต่างๆ ด้วยความที่เค้าเป็นจออัตราส่วนแปลกๆ ผมก็จะเล่าให้ฟังทีละเกมแบบนี้ครับ
สำหรับเกม MOBA ยอดฮิตในประเทศของเราอย่างเกม RoV นั้น สามารถเล่นเต็มหน้าจอได้ปกติเลย แต่ทว่ามุมมองนั้นจะโดนบีบเข้ามาให้แคบมากกว่าเดิมครับ! แต่ถ้ามว่าเล่นได้ไหม ก็เล่นได้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ
โดยที่ตัวเกมเค้าสามารถปรับตั้งค่าให้ปุ่มสกิลเลื่อนเข้ามาตามที่เราต้องการได้ ก็จะทำให้การเล่นเกมนี้ถนัดมือมากยิ่งขึ้นครับ
ส่วนการปรับตั้งค่านั้นสามารถปรับสุดได้ทุกอย่างเลย โดยที่การเล่นเกมนี้ต่อเนื่องทำได้แบบชิลๆ เลยครับ บวกกันยับๆ ไม่มีอาการกระตุก เฟรมดรอปแต่อย่างใดเลย ลื่นไหลสบายบรื๋ออ~
ส่วนการเล่นเกม LoL Wildrift นั้น ต้องบอกว่าในการโปรโมตของทางซัมซุงเองก็ได้มีเกมนี้เป็นพันธมิตร และมีการ Optimized มาให้เป็นอย่างดี การปรับปุ่มต่างๆ สามารถทำได้อย่างละเอียด เพราะฉะนั้นการเล่นเกมนี้สามารถทำได้ดีมากครับ มุมมองกว้างตามสมควร
ส่วนการปรับตั้งค่านั้นสามารถปรับสุด อัลตร้า เปิดทุกการตั้งค่าได้หมดเลย! การเอาไปเล่นลงแรงค์ต่างๆ ทำได้สบายครับ ไม่เจออาการเฟรมดรอปแต่อย่างใด!
Princess Connect Re:Dive ถ้าเป็นแนวเกมออโต้แบทเทิ่ล ไอเดิ้ล นี่คือชิลมากๆ ตอนแรกผมก็คิดว่าน่าจะมีปัญหาเรื่องอัตราส่วนจอแน่ๆ แหละ แต่เล่นไปก็ไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไรครับสำหรับเกมนี้
ถือว่าเค้าทำอัตราส่วนมารองรับได้อยู่ ถึงจะไม่ 100% แต่สำหรับผมไม่ติดอะไรเลย ชิลมากๆ สำหรับเกมแนวนี้
ส่วนการเล่นเกมปราบเซียนอย่าง Genshin Impact ที่กินทรัพยากรเครื่องสูงมากๆ เนี่ย ผมเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ สำหรับการตั้งค่า เราสามารถปรับตั้งค่าสูง และเปิด 60fps ได้เลยนะ การเล่นคือลื่นไหลมากๆ และแทบจะไม่เจออาการเฟรมดรอปเลยสำหรับการเล่นปรับตั้งค่าสูงแบบนี้ ถือว่าลื่นไหลถูกใจวัยรุ่นมากๆ ครับ!
แถมขนาดหน้าจอของเค้าเนี่ย ต้องบอกว่าเล่นเกมนี้เพลินมาก! คือขนาดใหญ่กำลังพอดีมือ ได้ความกว้างของอัตราส่วนหน้าจอ เล่นกันยาวๆ เพลินๆ ได้เลยครับ แล้วแอบกระซิบนิดนึงว่าชิปเซ็ต Snapdragon 888 ที่อยู่บน SAMSUNG Galaxy Z Fold3 ตัวนี้ ไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ครับ เมื่อเทียบกับหลายๆ ตัวที่ใช้ชิปเซ็ตตัวเดียวกัน!
แบตเตอรี่และความร้อน
Samsung Galaxy Z Fold3 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,400 mAh รองรับ Fast Charge 25W โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าแบตมาน้อยไปนิดนึงครับ สำหรับการมองว่ามันขนาดใหญ่แบบกึ่งๆ จะเป็นแท็ปเล็ตได้เลยแบบนี้!? แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเท่าไหร่ถ้าเรามองว่ามันก็เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องนึง อะพูดไว้ในแง่นี้แล้วกันครับ
สำหรับการตั้งค่า
- ความสว่างหน้าจอ 70%
- ความดังลำโพง 70%
- การเชื่อมต่อ Wifi
- เล่นในห้องอุณหภูมิ 33 องศา (ห้องพัดลม)
การใช้งานทั่วๆ ไป ดูหนัง ดูซีรีส์ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ชั่วโมง แบตลด 11%
การตั้งค่าเดียวกัน แต่เป็นการเล่นเกมต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง ปรับสุด แบตลดไปที่ 19%
ภาพรวมถือว่าโอเคเลยนะ สำหรับแบตฯ 4,400 mAh กับ Snapdragon 888 ตัวเลขถือว่าใช้ได้ ไม่ได้สูบแบตอะไรมากมายขนาดนั้นครับ ถามว่าเต็มวันได้ไหม ตอบว่าสบายๆ ถ้าไม่ได้ใช้งานแบบหนักหน่วงอะไรนะ การจัดการพลังงานเค้าถือว่าใช้ได้เลย!
ส่วนการชาร์จเร็ว 25W ของเค้านั้น ผมไม่มีอะแดปเตอร์ Fast Charge ของทางซัมซุงนะครับ แต่จากการได้ลองใช้หัวชาร์จแบบ PD Charge 18W เนี่ย ชาร์จจาก 0-100% ก็จะได้ตัวเลขที่ประมาณ 1 ชั่วโมง 48 นาที ประมาณนี้ครับ ก็ถือว่าไม่ได้ชาร์จเร็วมากมายอะไร แต่ก็ไม่ได้ช้าแต่อย่างใดครับ!
กล้องถ่ายรูป
SAMSUNG Galaxy Z Fold3 มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 12MP ทั้งสามตัวเลยครับ
- กล้องหลัก 12MP
- กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP
- กล้องเทเล 2X 12MP
โอเคแหละ ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ได้ให้กล้องที่ความละเอียดสูงส่งมาอย่างตัวอื่นๆ ที่เค้าแข่งกันในตลาดหลักสิบ หลักร้อยล้านพิกเซล~ แต่ว่ากันตรงๆ การใช้งานทั่วไปคือเพียงพอแล้วนะครับจากที่ได้ใช้งานมา!
คุณภาพของกล้องก็คือดีในระดับเรือธงเลยครับ ถึงแม้ฮาร์ดแวร์ของเค้าอาจจะไม่ได้ให้ตัวเลขมาเวอร์วัง แต่ด้วยความเป็น OneUI 3.1 นั้นก็คือเรียกได้ว่ายกฟีเจอร์ของ S21 Ultra มาทั้งแผงเลย โหมดอะไรต่างๆ คือมาหมด (แต่ผมอาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดมากนะครับ)
ภาพรวมกล้องหลังทั้งสามตัวถือว่ามาดีมากๆ ครับ เพียงพอต่อการใช้งาน สบายหายห่วง ...แต่เท่าที่จับอาการได้คือ เวลาที่สภาพแสงไม่เอื้ออำนวย (แสงนีออน, แสงน้อย) เวลาเรากดถ่าย ชัตเตอร์เค้าจะมีอาการหน่วงเล็กน้อยครับ อาจจะเก็บโมเมนต์ที่เร่งด่วนไม่ทันใจเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นสภาพแสงดีๆ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดนะครับในจุดนี้
กล้องหน้า
SAMSUNG Galaxy Z Fold3 ในปีนี้ เรียกได้ว่าเป็นการเปิดศักราชแห่งเทคโนโลยีกล้องใต้หน้าจอเลยก็ว่าได้ครับ (Under Display Camera) โดยที่ Z Fold3 ตัวนี้ให้กล้องหน้ามาถึง 2 ตัวด้วยกัน ได้แก่
- Front Cover Camera (กล้องนอก) 10MP
- Under Display Camera (กล้องใน) 4MP
สำหรับเรื่องกล้องหน้าผมสรุปไปเร็วๆ เลยนะ ถ้าจะใช้กล้องหน้าจริงๆ ให้ใช้กล้องหน้าที่ตัว Cover ครับ รายละเอียดดีกว่า สีสันดีกว่า ความละเอียดเยอะกว่า จบเลยจริงๆ (สรุปไหมล่ะ!?)
ส่วนกล้องหน้าที่เป็น UDC นั้นเป็นเหมือนตัวโชว์เทคโนโลยีล้ำๆ มากกว่าครับ อาจจะยังไม่เหมาะกับการใช้งานจริง คือถามว่าใช้ได้ไหม ตอบได้นะ! แต่กล้องที่ Cover มันดีกว่า! จบครับ!
หรือจะพลิกกล้องหลังมาเพื่อเซลฟี่ก็ได้นะ เค้ามีโหมดแสดงหน้าจอเพื่อให้เราเห็นตัวเองตอนใช้กล้องหลักหันมาเซลฟี่ ก็สามารถเลือกได้ตามใจ เอาที่สะดวกเลยครับผม สำหรับการถ่ายรูปตัวเองด้วยกล้องหน้า! :D
สรุปการใช้งาน! Z Fold3
จากที่ได้ใช้งาน SAMSUNG Galaxy Z Fold3 มาร่วมสัปดาห์ ก็ต้องพูดกันตรงๆ เลยว่าเป็นสมาร์ทโฟนนวัตกรรมจากทางซัมซุงเค้า ที่ได้รับการอัปเกรดมาจากรุ่นก่อนอย่างก้าวกระโดดเลยครับ เรื่องดีไซน์ดีขึ้นเล็กน้อย หน้าจอมีความแข็งแรงทนทานมากขึ้น มีเทคโนโลยีใหม่อย่างกล้องใต้จอ (Under Display Camera) รวมถึงฟีเจอร์และลูกเล่นต่างๆ ให้มาจัดเต็มแบบไม่กั๊ก เรียกได้ว่าเป็นแท็ปเล็ตพับได้ที่ให้ทุกอย่างมาลงตัวมากๆ เลยล่ะ! (นิยามอาจจะแปลกๆ ไปนิด แต่ให้ความรู้สึกแบบนั้นเลย อิอิ)
สำหรับราคาเปิดตัวประเทศไทยของ SAMSUNG Galaxy Z Fold3 มาด้วยกัน 2 รุ่นความจุ
- RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 57,900 บาท
- RAM 12GB + ROM 512GB ราคา 61,900 บาท
ใครสนใจก็ตามไปตำกันได้เลยครับผม ในช่วงแรกแบบนี้มีโปรลดกระหน่ำมาคอยยั่วกิเลสตลอดเลยให้ตายเถอะ!? หรือจะซื้อแบบผูกโปรเครือข่ายมือถือ (ติดสัญญา) ก็ได้ราคาดีงามเช่นกัน
ก็จะประมาณนี้ครับสำหรับรีวิว SAMSUNG Galaxy Z Fold3 อย่าลืมกดติดตามกันในช่องทาง Facebook และ Youtube ด้วยนะครับ ทางทีมงาน TechXcite จะคอยนำเสนอข่าวคราววงการไอทีให้เพื่อนๆ ได้อัปเดตกันอยู่ตลอดเวลา สำหรับวันนี้ @นายเป้ไงจะใครล่ะ ขอตัวไปปั่นรีวิวตัวอื่นก่อนแล้วจ้าา~ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ! :3
//นายเป้ไงจะใครล่ะ