ดีไซน์
สวัสดีทุกคนนะคะ วันนี้กู๊ดดรีม TechXcite มาส่งรีวิว Samsung A22 4G ซึ่งก่อนหน้านี้ดรีมเพิ่งลงรีวิวของตัวนี้ในเวอร์ชัน 5G ไปแล้ว ในคลิปนี้ดรีมเอารุ่น 4G มารีวิวให้ทุกคนดูกันบ้างสำหรับคนที่อาจจะยังไม่ได้ต้องการ 5G แล้วอยากจะรู้ว่ารุ่น 4G มันดีไหม แตกต่างกับรุ่น 5G อย่างไรบ้าง คุ้มค่าแค่ไหนบทความนี้จะมาเล่าให้ฟังกัน
จุดเด่น
- กล้องหลัง 4 ตัว
- แบตเตอรี่ 5000 mAh
- จอ Super AMOLED
- จอ 90Hz ใช้งานได้ลื่นไหล
จุดสังเกต
- ลำโพงเดี่ยว คุณภาพเสียงปานกลาง
ดีไซน์
เริ่มต้นที่เรื่องของดีไซน์กันก่อน หน้าจอตัวเป็น Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ ความลื่นไหลของหน้าจอหรือค่า Refresh Rate อยู่ที่ 90Hz สามารถใช้งานหน้าจอได้แบบลื่นๆ ไถฟีดโซเชียลได้ไม่มีกระตุก กล้องหน้าเป็นรอยติ่งหยดน้ำอยู่บริเวณตรงกลางหน้าจอ เป็นกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
ส่วนด้านหลังวัสดุเป็นพลาสติกที่มีความเงาวาว ให้สัมผัสในการจับถือที่ดี กล้องหลังให้มามากถึง 4 ตัว การจัดวางกล้องเหมือนกับตัว 5G เพียงแค่ตัว 5G ให้กล้องหลังมา 3 ตัว
เรื่องพอร์ทการใช้งานต่างๆรอบตัวเครื่องก็ถือว่าให้มาครบครัน เริ่มต้นจากขอบข้างตัวเครื่องเป็นปุ่ม power ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ในตัว อยู่ฝั่งเดียวกับปุ่มวอลลุ่มเพื่อเพิ่มลดเสียง สำหรับข้อดีของการที่เป็นลักษณะเซ็นเซอร์แบบนี้ มันดีตรงมันเป็นตำแหน่งที่สแกนได้ง่าย แต่มันก็จะค่อนข้างสแกนลำบากถ้าเป็นคนถนัดมือซ้าย
อีกฝั่งเป็นช่องถาดซิมที่เป็นแบบ 3 slot ใส่ได้ 2 ซิมการ์ดและ 1 micro SD สามารถเพิ่มความจุได้สูงสุดถึง 1TB และบริเวณฐานด้านล่างก็ให้มาครบครันช่องเสียบหูฟัง 3.5 ช่องชาร์จ USB-C และลำโพง 1 ฝั่ง
โดยรวมเรื่องของดีไซน์ก็ต้องบอกว่ามีความใกล้เคียงกับตัว 5G ค่อนข้างมาก ถ้าจับวางงงๆก็อาจจะแยกไม่ออกว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหน การแสดงผลหน้าจอ Super AMOLED ให้การแสดงสีสันที่สวยโดดเด่นสีสันจัดจ้าน คมชัด ความสว่างของหน้าจอสู้แสงแดดได้ดี เมื่อต้องไปใช้งานกลางแจ้งก็ยังเห็นหน้าจอที่ชัดเจน ส่วนเรื่องของความบางเบาๆนั้นก็อาจจะยังไม่ได้บางเท่าไหร่แต่ถามว่าพกพายากไหมก็ไม่ยากด้วยน้ำหนักที่เบาไม่ถึงครึ่งกิโลกรัม พกพาใส่กระเป๋ากางเกงหรือถือใช้งานนานๆก็ไม่รู้สึกเมื่อยแต่อย่างใด
สเปคการใช้งาน
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด HD+
- Refresh Rate 90Hz
- RAM 6GB
- ROM 128 GB
- เพิ่ม Micro SD สูงสุด 1 TB
- CPU Mediatex Helio G80
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh
- รองรับความเร็วในการชาร์จ 15W
- กล้องหลัง 4 ตัว
- กล้องหลัก 48MP
- Ultra-Wide 8MP
- Depth Sensor 2MP
- Macro 2MP
- กล้องหน้า 13MP
- รองรับการสแกนลายนิ้วมือ
- รองรับการสแกนใบหน้า
Mediatex Helio G80 ทำงานควบคู่กับ RAM 6 GB และหน่วยความจำภายใน 128 GB เพิ่ม micro SD ได้สูงสุด 1 TB เรื่องของการประมวลผลทำได้ดี เล่น Facebook เล่นไลน์ได้อย่างลื่นไหล สั่งการได้รวดเร็ว ส่วนการสแกนลายนิ้วมือก็ทำได้ไวมากๆ แตะแค่เบาๆก็เข้าถึงเครื่องได้แล้ว ส่วนเรื่องของการสแกนใบหน้าก็มีให้ได้ใช้งานกัน แต่จุดอ่อนของมันก็คือมันจะต้องกดที่ปุ่ม power ก่อนเพื่อทำการสแกนใบหน้า ซึ่งนั่นเท่ากับว่าเราก็สแกนผ่านปุ่ม power ได้เลย เท่ากับการสแกนใบหน้าแทบจะไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์เท่าไหร่ 555
การเล่นเกมส์และการดูหนังฟังเพลง
มาต่อกันที่เรื่องของการเล่นเกมใน ROV สามารถปรับตั้งค่าได้สูงสุด มีแค่เพียงการแสดงผลที่ปรับได้ในระดับสูง สูงสุดคือสูงมาก ส่วนเฟรมเรตลิมิตได้อยู่ที่ 30 จุดนี้ไม่สามารถปรับได้เครื่องกำหนดให้อัตโนมัติ จากการเล่นเกม ROV ต้องบอกว่าสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลภาพกราฟฟิก effect ต่างๆ ตระการตาสวยงาม เรื่องปัญหาทัชหลอนมีบ้างแต่ว่าไม่พบบ่อยจนเป็นปัญหา
ส่วนเกม Call of Duty ก็สามารถเลือกเปิดความละเอียดได้สูง เรื่องภาพก็สวยงามไม่แพ้กันเล่นได้ลื่นไหลไม่มีสะดุดเลยแม้แต่น้อย ส่วนแบตเตอรี่เล่นไปยาวนานต่อเนื่องโดยเปิดความละเอียดสูงสุด 1 ชั่วโมง แบตลดไปประมาณ 12% ส่วนเรื่องของความร้อนก็มีอุ่นๆที่ฝาหลังบ้างแต่ก็ไม่ถึงขั้นร้อนจนเป็นปัญหาอะไร
การดูหนังฟังเพลง
ดู YouTube สามารถเปิดความละเอียดสูง 1080p 50 ได้ให้ความคมชัดแบบสุดๆ เรื่องของภาพต้องบอกว่าทำได้ค่อนข้างดีดูหนังฟังเพลงดูซีรีย์ได้ชิวๆ ส่วนเรื่องของระบบเสียงมันเป็นลำโพงแบบเดี่ยว เพราะฉะนั้นมันก็อาจจะไม่ได้ให้คุณภาพที่ดีมากเท่าไหร่นะ แต่ก็ไม่ถึงขั้นแย่จนฟังไม่ได้เลย เพียงแค่มิติของเสียงมันดูแบนๆ ไม่ค่อยใสกังวานมากเท่าไหร่ เรื่องแบตเตอรี่ดูหนังไป 1 ชั่วโมง แบตเตอรี่ลดไป 5% จัดการแบตเตอรี่ได้ดีจริง
กล้อง
กล้องหลังใน A22 4G ให้มาด้วยกันทั้งหมด 4 ตัว กล้องหลักความละเอียด 18 ล้านพิกเซล กล้องอัลตร้าไวด์ 5 ล้านพิกเซลมุมมองภาพกว้าง 123 องศา กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัก 48MP
- Ultra-Wide 8MP
- Depth Sensor 2MP
- Macro 2MP
กล้องหลักสามารถถ่ายภาพซูมได้สูงสุด 10 เท่าแต่ความละเอียดก็จะถูกลดลงไป ระยะที่ยังคงเก็บรายละเอียดได้ดีอยู่คือประมาณ 2 เท่า รายละเอียดของภาพให้ไฟล์ที่คมชัด นำไปปรับแต่งเพิ่มเติมจะครอปหรือซูมภาพก็ไม่ค่อยแตก
เลนส์อัลตร้าไวด์มุมกว้าง 5MP ให้มุมมองภาพกว้างอยู่ที่ 123 องศา เรื่องของขอภาพก็ค่อนข้างทำได้เป็นธรรมชาติดี มีบิดเบี้ยวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ดูผิดปกติหรือทำให้ภาพดูแปลกไป ความกว้างของมันสามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน กว้างแบบสะใจ
Depth sensor ทำงานควบคู่กับเลนส์หลักเพื่อการทำระยะหน้าชัดหลังละลาย สำหรับการถ่าย portrait หรือการถ่ายภาพบุคคล สามารถปรับระยะการเบลอฉากหลังได้ถึง 7 ระดับ ระยะที่กำลังเบลอสวยงามเป็นธรรมชาติ คือตั้งแต่ 4 ถึง 5 เบลอกำลังดี เรื่องความแม่นยำในการตัดฉากหลังก็สามารถทำได้ค่อนข้างแม่นยำ ตัดได้กระทั่งในจุดที่ยากๆ ส่วนโทนของภาพ จะออกจืดไม่ฉูดฉาดข้อดีคือเราสามารถนำไปปรับแต่งเพิ่มเติมได้อย่างหลากหลายขึ้น
กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซลเพื่อการถ่ายภาพในมุมมองที่ใกล้มากๆ สามารถเข้าใกล้ได้สูงสุดที่ 3 เซนติเมตร เรื่องรายละเอียดและความคมชัดก็ทำได้ประมาณหนึ่งแต่ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก
กล้องหน้า
กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้ 2 ระยะ ถ้าถ่ายคนเดียวก็มีมุมมองภาพปกติ หรือถ้าต้องการถ่ายแบบกรุ๊ปเซลฟี่ก็สามารถเพิ่มมุมมองภาพให้กว้างขึ้นกว่าเดิมได้ นิดนึง แล้วก็ยังสามารถถ่ายแบบหน้าชัดหลังละลายได้อีกด้วยโดยกดเข้าไปที่โหมด portrait เลือกปรับระดับความเร็วของฉากหลังได้สูงสุดจัดระดับแต่ระดับที่กำลังพอดีอยู่ที่ประมาณระดับที่ 4 ให้ฉากหลังที่กำลังเบลอเป็นธรรมชาติพอดี ส่วนความแม่นยำในการตัดฉากหลังก็ทำได้ค่อนข้างดี สามารถตัดเบลอในจุดที่เข้าถึงยากได้อย่างแนบเนียน
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
ให้มาที่ 5,000 มิลลิแอมป์ รองรับชาร์จไว 15 วัตต์ จากการใช้งานจริงมันก็สามารถอยู่ได้ยาวนานทั้งวัน แต่ก็อย่างที่บอกว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับการใช้งาน ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปเล่น Facebook เล่น ig เล่นเกมบ้างเป็นครั้งคราวก็อยู่ได้ยาวนานข้ามวันเลย แต่ถ้ามีการใช้งานอย่างหนักหน่วงหรือว่าเล่นเกมดูหนังต่อเนื่องแบตเตอรี่ก็อาจจะอยู่ไม่ถึงวัน แต่ส่วนตัวจากการใช้งานเทสเครื่องเล่นเกมแบบต่อเนื่องหลายชั่วโมง ก็ต้องบอกว่าแบตเตอรี่ลดลงไปค่อนข้างน้อย เล่นไป 3 ชั่วโมงแบตลดไปทั้งสิ้น 36% ถือว่าจัดการเรื่องแบตเตอรี่ได้ดี
สรุปการใช้งาน
ถ้าจะพูดถึงความแตกต่างระหว่างรุ่น 4G กับ 5G เรื่องของดีไซน์ถือว่าไม่ต่างเท่าไหร่ รุ่น 5G ให้หน้าจอใหญ่กว่านิดหน่อย 6.6 นิ้ว ตัว 4G รุ่นนี้โดดเด่นกว่าในเรื่องของกล้องหลังที่เพิ่มเลนส์มาโครมาให้อีก 2 ล้านพิกเซล ส่วนเรื่องของการเล่นเกมตัวนี้ก็ให้ความลื่นไหลเล่นเกมได้ไม่มีสะดุดไม่มีกระตุกเช่นเดียวกัน
ถ้าพูดโดยรวมถึงเรื่องของการใช้งานทั้ง 2 ตัวนับว่าไม่แตกต่างมากเท่าไหร่ จะมีสเปคเล็กน้อยที่มีความเหลื่อมล้ำกันบ้าง แต่ถ้าเอาตัดสินใจง่ายๆเลย ใครไม่จำเป็นจะใช้ 4G รุ่นนี้ถือว่าคุ้มค่ากว่า แต่ถ้าใครต้องการ 5G และหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ก็เพิ่มเงินอีกสักนิดแล้วไปที่ 5G เลยก็คุ้มค่าเช่นเดียวกัน โดยราคาของรุ่นนี้อยู่ที่ 6,999 บาท จัดว่าเปิดราคามาดีทีเดียว เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วที่ Samsung Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ