ภาพรวม HUAWEI FreeBuds 4
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่านครับ! อยู่กับ @นายเป้ไงจะใครล่ะ พบกันอีกเช่นเคย วันนี้รีวิว HUAWEI FreeBuds 4 หูฟัง True Wireless แบบ Earbud ดีไซน์บางเบา สวมใส่ได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน ที่มาพร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน เดี๋ยวเรามาดูกันครับว่า HUAWEI FreeBuds 4 ตัวนี้มันจะจิ๋วแต่แจ๋วขนาดไหน เราไปเริ่มกันเลยครับ!
ก่อนอื่นขอสรุปจุดเด่นจุดสังเกตสักเล็กน้อยครับสำหรับ HUAWEI FreeBuds 4 ตัวนี้
จุดเด่น
- น้ำหนักเบา สามารถสวมใส่ได้ยาวนานโดยที่ไม่ร้อนหู! และแทบไม่รู้สึกหนักเลย
- ถึงน้ำหนักจะเบา แต่ไม่ได้หลุดง่ายนะ อันนี้แจ๋ว!
- ออกแบบมาดี ในจุดที่สัมผัสกับใบหูมีการวิจัยในเรื่องส่วนโค้งมนมา ให้ความรู้สึกสบายในการสวมใส่
- รองรับการเล่นไฟล์ความละเอียดสูง (Hi-Res Wide Range)
- ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ถึง 14.3mm ให้มิติเสียงที่ดี
จุดสังเกต
- การตัดเสียงรบกวน อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าหูฟังชนิด In-Ear (แต่ก็เข้าใจได้ เพราะเป็นหูฟังคนละชนิดที่ไม่ได้มี Seal จุกยางปิดช่องว่างระหว่างรูหู)
- แบตเตอรี่ เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดแล้วอาจจะอยู่ได้ไม่ยาวนานเท่าไหร่ (แต่เล่นต่อเนื่องได้ถึง 4 ชั่วโมงก็ถือว่าเยอะแล้ว)
- การใช้ Gesture เพิ่ม-ลด เสียง ทำได้ทีละสเต็ป อาจจะรู้สึกขัดใจเล็กน้อย
ภายในกล่อง
เมื่อเปิดกล่องของ HUAWEI FreeBuds 4 จะประกอบไปด้วย
- ตลับและหูฟัง HUAWEI FreeBuds 4
- สายชาร์จ USB Type-A to Type-C
- คู่มือการใช้งานและการ์ดรับประกัน
ว่ากันด้วยเรื่องดีไซน์
สำหรับการรีวิวในครั้งนี้ จะเป็นเครื่องสี Ceramic White หรือสีขาวที่มีความมันวาวเมื่อเราเปิดตลับหูฟังขึ้นมา ก็จะพบกับหูฟังแบบ EarBuds ก้านยาว 1 คู่นะครับ ตัวนี้จะไม่ใช่แบบ In-Ear ที่ต้องยัดสุดอะไรแบบนั้นนะ
เรื่องดีไซน์เค้าเนี่ยว่ากันตรงๆ คือก้านเค้าค่อนข้างยาวนะ อาจจะดูไม่สมส่วนไปบ้าง แต่ว่าน้ำหนักเค้ามาแบบ เบาเลยล่ะ! เค้ามีการออกแบบมาดีนะ เค้าเคลมว่าทีมวิจัยเค้าเนี่ยออกแบบส่วนโค้งมนที่มันจะมาสัมผัสหูเราเนี่ยหลักๆคือจะมี 8 จุด ซึ่งไม่รู้แหละตรงนี้ แต่การใส่ต่อเนื่องกันนานๆ ผมไม่ปวดหู ก็คงจะดีอย่างเค้าว่าจริงๆ
สำหรับตัวตลับก็จะมีไฟแสดงสถานะอยู่ด้านหน้านะครับ แล้วก็ด้านล่างจะมีพอร์ตสำหรับชาร์จเป็นแบบ USB Type-C ด้านข้างจะมีปุ่มกดสำหรับเข้าโหมดเชื่อมต่อครับ
สำหรับดีไซน์ก็ประมาณนี้ครับ แต่ก่อนที่เราจะไปดูเพิ่มผมขอสปอยล์ไว้ตรงนี้ก่อนเลยครับว่า HUAWEI FreeBuds 4 ตัวนี้เป็นหูฟังที่ใส่ฟังเพลงแล้วเบาสบายแบบโคตรๆ!!! คือใส่ดูหนังฟังเพลง 3-4 ชั่วโมงคือไม่รู้สึกเมื่อยหรือปวดหูอะไรใดๆ เลย (ปกติถ้าผมใส่พวกหูฟังแบบ In-Ear จะมีอาการนี้ จะปวดหูร้อนหูไปหมด) จัดว่าแจ่มมากๆ เลยครับที่เค้าโม้ไว้ว่าเบาดุจดั่งสายลม ผมกล้าพูดเลยว่า ..ของจริงว่ะ!
Gesture ควบคุมยังไง?
สำหรับ Gesture ของ HUAWEI FreeBuds 4 ตัวนี้ทำความเข้าใจง่ายๆ ดังนี้ครับ
- ปัดขึ้นหรือลง 1 ครั้งเป็นการเพิ่ม - ลด เสียง 1 Step
- กด 2 ครั้ง Double Tap เป็นการกด Play/Pause หรือถ้ามีคนโทรเข้า จะเป็นการรับสายหรือวางสายโทรศัพท์
- กดค้างไว้ จะเป็นการเปิดหรือปิด Noise Cancellation
พิเศษสำหรับคนที่ใช้สมาร์ทโฟนของ HUAWEI เวลาเราเปิดหูฟังขึ้นมาครั้งแรก เค้าจะมีใส่ส่วนของ Auto Pop-Up ขึ้นมาเลยครับ ก็ทำการกดเชื่อมต่อ เป็นอันเสร็จสิ้น ง่ายมากๆ
เรื่องของเสียง
HUAWEI FreeBuds 4 ตัวนี้รองรับการเล่นแบบ Hi-res หรือการเล่นไฟล์ความละเอียดสูง รองรับความที่สูงถึง 40,000Hz เลยล่ะ (หูฟังทั่วๆ ไปจะรองรับถึงแค่ 20,000Hz เท่านั้น) มาพร้อมกับขนาด Driver 14.3mm ถือว่าใหญ่เลยนะเมื่อเทียบกับหูฟังระดับเดียวกัน
มาพูดกันถึงเรื่องเสียงของ HUAWEI FreeBuds 4 กันนิดนึงครับ สรุปให้เข้าใจง่ายๆ แบบนี้
เสียงต่ำถึงกลางค่อนข้างเด่น ถ้าเป็นการฟังดนตรีคือเสียงกระเดื่องของกลองจะค่อนข้างชัด มาเป็นลูกๆ
เสียงต่ำ เบส จะไม่ได้มาเป็นลูกๆ แบบเด่นชัด เหมือนมันมาไม่สุดเท่าไหร่ จะให้ฟิลลิ่งแบบ ครืนๆ มากว้างๆ แล้วก็หายไปนะครับ อันนี้เข้าใจว่าเกี่ยวกับความที่มันเป็นหูฟัง EarBud ด้วยแหละเลยคุมตรงนี้ได้ไม่ดีเท่าไหร่เมื่อเทียบกับหูฟัง In-Ear ที่เรายัดเข้าไปแล้วมันเต็มหู ฟิตแน่นรูนะครับ แต่ถามว่ามันถึงกับไม่ดีหรือเปล่าอันนี้กล้าพูดว่าไม่นะ โดยรวมยังถือว่าเป็นหูฟังที่ฟังเพลงสนุกอยู่ครับ ถึงแม้ว่าอรรถรสจะหายไปบ้างในย่านทุ้มต่ำ แต่ภาพรวมยังอยู่ในระดับที่ดีเลยครับ
เสียงกลาง-สูง เสียงร้องจัดว่าใสประมาณนึงเลยครับ แต่อย่างที่บอกไป ด้วยความที่เสียงเบสเค้ามากว้างๆ ครืนๆ มันก็จะทำให้เสียงร้องโดนกลบไปบ้าง แต่ไม่เป็นปัญหาอะไรครับตรงนี้มันไม่ได้กลบไปจนฟังไม่รู้เรื่องอะไรแบบนั้น แค่รู้สึกว่าพอเสียงทุ้มต่ำมา มันอาจจะไม่ใสเหมือนตอนมีแต่เสียงร้องอะไรแบบนั้น จะเป็นความรู้สึกประมาณนี้ครับ
เหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลงแนวไหน?
จากที่ผมฟังมานะ ถ้าเป็นแนวเพลง Pop ฟังสบายๆ Synthetic Pop , Rock และ R&B พวกนี้ดูจะเข้าทีครับ แต่เอาจริงๆ จะฟังแนวไหนก็ได้ครับ ตราบใดที่จังหวะ Kick ของกลองมันไม่ได้มาแบบรัวๆ คือมิติเสียงจะดีมากๆ เลยนะ แต่อย่างที่บอกไปว่าถ้ามันมีเสียง Kick มาเร็วๆ รัวๆ มากเกินไปก็จะโดนย่านเสียงนั้นกลบไปครับผม
ไมโครโฟนดีไหม?
สำหรับเรื่องของการสนทนาผ่านหูฟังตัวนี้เนี่ย ตอบเลยว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ เสียงการพูดคุยอะไรคือมีการตัดเสียงรบกวนรอบข้างให้ด้วย หรือจะถ่ายวิดีโอแบบ Vlog ผ่านมือถือที่เชื่อมเสียงกัน ทำได้สบายๆ เลย คุณภาพเสียงใช้ได้เลยล่ะ!
Latency ดีเลย์เยอะไหม?
สำหรับ HUAWEI FreeBuds 4 ตัวนี้กับเรื่องของอาการหน่วงเมื่อเล่นเพลง ดูหนังเล่นเกมต่างๆ ผมสรุปให้ว่า หน่วงเวลาของเสียงถือว่าน้อยมากครับ การดูหนังดูซีรีส์นี่บอกได้เลยว่าเต็มอรรถรส เพราะเสียงที่ได้ยินคือตรงกับปากเลย แทบจะไม่รู้สึกถึงดีเลย์ แจ๋วจริงครับตรงจุดนี้
ส่วนถ้าเป็นการเล่นเกมนั้นก็จะมีอาการหน่วงครับ แต่บอกเลยว่าไม่เยอะ ความรู้สึกคือไม่ถึง 1 วินาทีนะ ราวๆประมาณ 0.3-0.5 วินาทีเห็นจะได้อยู่ เพราะอย่างเวลากดอัพเลเวล กดปุ๊บ อีกแป๊ปเดียวเสียงก็มาแล้ว ฟีลลิ่งประมาณนี้ครับ ถือว่าดีเลย์น้อยอยู่นะสำหรับการเล่นเกม อันนี้แก๋วว!
Active Noise Cancellation 2.0
สำหรับฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation เวอร์ชั่น 2.0 ตัวอัปเกรดนี้เค้าใช้เทคโนโลยีแบบ Open-Fit Active ตรงนี้เค้ามีเทคโนโลยี Adaptive Ear Matching ด้วยแฮะ ล้ำๆ เลย คือรูปทรงทางกายภาพของหูคนเรามันไม่เท่ากันอยู่แล้วใช่ไหมครับ เค้าก็จะมีรูปแบบการปรับในส่วนของการตัดเสียงรบกวนของตัวนี้เนี่ยให้เข้ากับรูปแบบของหูเรา มันจะปรับเปลี่ยนตามลักษณะหูของเรา คือมีแพทเทิร์นสูงถึง 16 แบบเลยแหละ
ซึ่งก่อนเราจะไปพูดกันเรื่องการตัดเสียงรบกวนเนี่ย ตรงนี้ก็ต้องทำความเข้าใจในชนิดของหูฟังแบบ EarBud ก่อนครับ ด้วยความที่เค้าเป็นแบบเสียบเข้าไปเฉยๆ ไม่ได้มีซิลิโคนซีลช่องว่างในรูหูของเราเนี่ย มันก็จะทำให้ตัว Active Noise Cancellation ทำงานได้อย่างไม่เต็มที่เท่าไหร่ ถ้าให้พูดกันตรงๆ เลย ไอ้ตัว Active Noise Cancellation ตัวนี้ก็จะช่วยได้ในเรื่องของการตัดเสียงลมได้เล็กน้อยครับ ส่วนเสียงพูดเสียงรบกวนต่างๆ ที่มันดัง หรืออยู่ใกล้ขึ้นมาหน่อย ก็จะไม่ได้ช่วยเท่าไหร่นะ แต่อันนี้ไม่ได้ติดใจอะไรนะสำหรับผม เพราะชนิดหูฟังมันคนละแบบกันอยู่แล้วอันนี้เข้าใจได้ แต่ถ้าให้พูดในมุมว่ามันตัดเสียงได้ดีไหม ก็จะตอบว่าช่วยได้ "นิดหน่อย" ครับ
แบตเตอรี่
สำหรับเรื่องของแบตเตอรี่ HUAWEI FreeBuds 4 ตัวนี้ ทาง HUAWEI เค้าเคลมว่าเล่นต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 22 ชั่วโมงเลยทีเดียว (เมื่อใส่ร่วมกับเคสนะ) แต่ถ้าเป็นการใช้งานตัวหูฟังเพียวๆ เนี่ยจะอยู่ได้ที่ 4 ชั่วโมง
สำหรับการใช้งานจริงเปิดตัดเสียงรบกวน ก็จะได้ราวๆ สามชั่วโมงปลาย อยู่ครับผม ถือว่าทำได้ดีตามที่เคลม แล้วก็ในส่วนของความเร็วในการชาร์จหลังเสียบเข้าตลับ ก็ทำได้ค่อนข้างเร็วครับ สำหรับการเสียบเข้าไป 10 นาทีจากแบตหมดเลยก็ได้แบตมา 50% แล้วครับ ถือว่าโอเคเลยนะสำหรับเรื่องของแบตเตอรี่ แต่ถ้ามองภาพรวมๆ ในตลาด อาจจะยังทำได้ไม่ดีเท่าหูฟังตัวอื่นนะครับ ที่มีตัดเสียงแล้วสามารถเล่นต่อเนื่องได้ 5-6 ชั่วโมง แต่รวมๆ ก็ถือว่าไม่แย่ครับผม
สรุปการใช้งาน!
มาสรุปกันนิดนึงครับสำหรับ HUAWEI FreeBuds 4 ตัวนี้ ต้องบอกว่าเค้าเป็นหูฟังที่มาดีเลยนะ เด่นจัดๆ เลยในเรื่องของการสวมใส่ที่เบา เบาแบบเบามากจริงๆ ใส่เล่นเพลงต่อเนื่อง 3-4 ชั่วโมงนี่คือไม่รู้สึกเมื่อยหูหรือร้อนหูแต่อย่างใดเลยครับ
สำหรับราคาเปิดตัวในประเทศไทยอยู่ที่ 4,499 บาท จากการได้ใช้งานมา ผมมองว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยครับ สำหรับคนที่ไม่ชอบหูฟังแบบ In-Ear คือต้องบอกตรงๆ ว่ามันใส่สบาย มิติเสียงมันถือว่าใช้ได้เลย แม้ว่าฟีเจอร์การตัดเสียงจะทำได้ไม่ดีเท่าไหร่เมื่อเทียบกับแบบ In-Ear แต่ถือว่าเข้าใจได้ครับ เพราะธรรมชาติของหูฟังชนิดนี้เค้าเน้นในความเบาสบาย สวมใส่ได้นานๆ ก็เลยจะไม่ได้มีจุกซิลิโคนเพื่อซีลช่องหว่างระหว่างหูแบบนั้น ถือว่าใช้ได้แล้วแหละ แล้วก็เรื่องของดีเลย์คือน้อยมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นการเล่นเกม อันนี้บอกเลยว่าแจ๋วจริงๆ ไม่หยอกเลยแหละ ของเค้าดีจริง!
โอเคครับ! ก็จะประมาณนี้สำหรับรีวิว HUAWEI FreeBuds 4 อย่าลืมกดติดตามกันในช่องทาง Facebook และ Youtube ด้วยนะครับ ทางทีมงาน TechXcite จะคอยนำเสนอข่าวคราววงการไอทีให้เพื่อนๆ ได้อัปเดตกันอยู่ตลอดเวลา สำหรับวันนี้ @นายเป้ไงจะใครล่ะ ขอตัวไปปั่นรีวิวตัวอื่นก่อนแล้วจ้าา~ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ! :3
//นายเป้ไงจะใครล่ะ