ดีไซน์
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนค่ะ กู๊ดดรีม TechXcite มาส่งรีวิวให้ทุกคนกันอีกเช่นเคยวันนี้ดรีมอยู่กับ Samsung Galaxy A22 5G มือถือที่มีดีในเรื่องของจอใหญ่ แบตอึด ถ่ายรูปสวยแล้วยังรองรับ 5G อีกด้วยในราคาเข้าถึงง่าย ไม่ถึงหมื่น การใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ไปดูกัน
จุดเด่น
- รองรับ 5G
- จอใหญ่ 6.6 นิ้ว
- RAM 8GB
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh
จุดสังเกต
- ลำโพงเดี่ยว
ดีไซน์
Samsung Galaxy A22 5G ให้ขนาดใหญ่ถึง 6.6 นิ้ว ใช้งานกันแบบเต็มจอแสดงผลเต็มตา เป็นจอ Pls LCD ความละเอียดระดับ FHD+ ให้รายละเอียดของภาพที่คมชัดสีสันสวยงามตระการตาดี ส่วนเรื่องรีเฟรชเรทให้มาอยู่ที่ 90Hz มันจึงให้ความลื่นไหลในการใช้งานค่อนข้างดีทีเดียว
สำหรับดีไซน์ฝาหลังจะเป็นแบบผิวสัมผัสด้าน แต่มีประกายเล่นเงาสู้แสง ก็เป็นดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ดูมีอะไร ดูหรูหราลึกลับน่าค้นหา แต่จับถือก็ระวังทำเลื่อนหลุดมือสักนิดนึงเพราะฝาหลังค่อนข้างลื่นทีเดียว
สำหรับพอร์ตการใช้งานต่างๆให้มาครบครันเลย ด้านขวามือจะเป็นปุ่ม Volumn เพิ่มลดเสียงและปุ่ม power ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ในตัว ข้อดีของตัวนี้คือมันอยู่ในตำแหน่งที่เราสามารถสแกนนิ้วเข้าถึงเครื่องได้ง่ายดายที่สุด ส่วนข้อเสียก็คือมันอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่สำหรับคนที่ถนัดมือขวา
ถาดซิมอยู่ที่ขอบซ้ายของตัวเครื่อง พลิกมาที่ฐานเป็นช่องแจ็ค 3.5 เพื่อเสียบหูฟัง ช่องชาร์จ USB-C และลำโพง 1 ฝั่ง โดยรวมเรื่องของดีไซน์ก็ต้องบอกว่ามันเน้นความเรียบง่าย เน้นจอใหญ่ การจับถือก็กระชับมือสะดวกใช้งาน น้ำหนักไม่หนักมาก ตัวเครื่องก็อาจจะไม่ได้บางมากมายอะไรเมื่อเทียบกับหลายรุ่นออกใหม่ในปัจจุบันที่เน้นความบางแบบสู้ตาย รุ่นนี้ก็นับว่าดีไซน์ไม่บางเท่าไหร่
สเปคการใช้งาน
- หน้าจอ PLS LCD Display ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+
- Refresh Rate 90Hz
- RAM 8GB
- ROM 128 GB
- เพิ่ม Micro SD สูงสุด 1 TB
- CPU Dimensity 700
- รองรับ 5G
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh
- รองรับความเร็วในการชาร์จ 15W
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 48MP
- Ultra-Wide 8MP
- Depth Sensor 2MP
- กล้องหน้า 8MP
- รองรับการสแกนลายนิ้วมือ
- รองรับการสแกนใบหน้า
Samsung galaxy A22 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Dimensity 700 รองรับ 5G ทำงานควบคู่กับ RAM 8 GB และ ROM 128 GB สามารถเพิ่ม micro SD card ได้สูงสุดถึง 1 TB เลยล่ะ การมี 5G เข้ามาก็ช่วยในเรื่องของการเชื่อมต่อ การดาวน์โหลดหนัง โหลดเกม โหลดไฟล์ต่างๆสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
การเล่นเกมส์และการดูหนังฟังเพลง
ดรีมได้ทดลองเล่นกับเกม ROV เรื่องของความสวยงามของภาพและเอฟเฟคต่างๆทำได้ดี สีสันจัดจ้านสมจริง การตั้งค่าสามารถเปิดความละเอียด HD ได้สูงสุด ซึ่งแน่นอนว่าดรีมก็จัดหนักจัดเต็มเปิดสุดทุกการตั้งค่า ส่วนเฟรมเรตสูงสุดอยู่ที่ 30 เรื่องความลื่นไหลก็ทำได้ดีระดับหนึ่งด้วยความที่มันเป็นจอ 90 Hz ด้วย แต่เมื่อพูดถึงอาการทัชหลอน ถามว่ามีไหมก็ต้องตอบตรงๆเลยว่ามีบ้าง แต่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ส่วนเรื่องของเสียงในการเล่นเกมก็พูดตรงๆว่าไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไหร่แหละ เสียงมันค่อนข้างตื้อๆ ตันๆ และก็ขาดหายในบางช่วง
แล้วความร้อนล่ะ?
เมื่อดรีมปรับตั้งค่าทุกอย่างสูงสุดแล้ว เรื่องความร้อนก็ต้องยอมรับว่ามีเกิดขึ้นบ้างแต่ไม่ได้น่ากลัวหรือว่าร้อนจนทนไม่ไหว ดรีมเล่นในอุณหภูมิห้องแบบเปิดแอร์ 25 องศา สามารถรับรู้ได้ที่ความร้อนอุ่นๆบริเวณฝาหลังซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่หลวงขนาดนั้น หรือถ้าใครกังวลเรื่องความร้อนถ้าจะต้องเล่นในพื้นที่อุณหภูมิ 100 กว่าองศาเซลเซียสในประเทศไทย และต้องการจะเซฟแบตเตอรี่ ก็สามารถลดความละเอียดลงมาได้ภาพมันก็ไม่ได้แย่ถึงขั้นสร้างความน่าหงุดหงิดอะไร สำหรับแบตเตอรี่ดรีมเล่นเกมไปทั้งหมด 40 นาทีแบตลดไป 6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จัดว่ามีการจัดการแบตเตอรี่ได้ดีมากๆเลยล่ะ
การดูหนังฟังเพลง
เรื่องของการดูหนังฟังเพลงก็ต้องบอกว่าเต็มอิ่มด้วยความที่มันเป็นจอใหญ่ 6.6 นิ้ว ดูซีรี่ย์ netflix ฟังเพลงผ่าน YouTube ได้แบบชิวๆ แต่จุดที่ทำให้ ดรีมรู้สึกขัดใจมากๆก็คือเรื่องของลำโพงนั่นแหละ เรื่องคุณภาพของลำโพงก็ต้องพูดกันตรงๆเลยว่ามันไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ เสียงค่อนข้างอุดอู้ เปิดดังมากๆมีเสียงแตกเข้าสู้ ก็ถือว่าเป็นจุดน่าเสียดายเล็กๆที่เกิดขึ้น ส่วนแบตเตอรี่ดูหนังไป 2 ชั่วโมงครึ่งผ่าน Netflix แบตหายไปประมาณ 25%
กล้อง
สำหรับกล้องให้มาทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน กล้องความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล กล้อง Ultra-Wide 5ล้านพิกเซล และ Depth Sensor ที่จะทำงานควบคู่กับกล้องหลักเพื่อการถ่ายหน้าชัดหลังละลายอีก 2 ล้านพิกเซล
- Main Camera 48MP
- Ultra-Wide 8MP
- Depth Sensor 2MP
สำหรับกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ให้ภาพที่คมชัดเก็บรายละเอียดได้ดีถ่ายภาพย้อนแสงก็สามารถดึงรายละเอียดของภาพออกมาได้อย่างสมบูรณ์ นำภาพไปแต่งเพิ่มหรือจะครอปภาพก็ไม่เสียรายละเอียด สามารถจับโฟกัสได้ค่อนข้างรวดเร็วและแม่นยำ
ส่วนเลนส์ Ultra-Wide 8 ล้านพิกเซล ก็ให้มุมมองภาพกว้างอย่างเป็นธรรมชาติมุมมองภาพไม่มีผิดเพี้ยนหรือบิดเบี้ยว เพียงแต่รายละเอียดและโทนของสีภาพจะแตกต่างออกไปจากเลนส์หลัก ส่วนความคมชัดอาจจะไม่คมมากเท่าไหร่ถ้ามีการซูมหรือว่าครอปภาพเข้าไป แต่ถ้าการใช้งานทั่วไปก็ถือว่าโอเค
Depth Sensor ตัวนี้ทำงานควบคู่กับเลนส์หลักเพื่อทำระยะภาพและสร้างระยะชัดตื้นชัดลึกเพิ่มมิติและมุมมองของภาพให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ใช้เพื่อการถ่ายภาพ portrait เพื่อดึงตัวแบบให้โดดเด่นออกมาจากฉากหลัง ซึ่งการทำงานของมันก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีและแม่นยำพอสมควร จะมีจังหวะหลุดบ้างแต่ก็ไม่บ่อยโดยรวมถือว่าค่อนข้างตัดได้ค่อนข้างดีแม้จะมีจุดที่ตัดยากอย่างช่องว่างระหว่างผม แต่กลับสามารถตัดได้อย่างแม่นยำ
ตัวกล้องเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้ 2 ระยะคือระยะปกติเพื่อการถ่ายเซลฟี่คนเดียว หรือถ้าต้องการถ่ายภาพกลุ่มกับเพื่อนๆก็สามารถกดเพิ่มมุมมองภาพถ่ายให้กว้างขึ้นกว่าเดิมได้ แต่ก็ไม่ได้ให้มุมมองภาพกว้างกว่าเดิมมากสักเท่าไหร่ กว้างขึ้นมานิดนึงแต่ก็สามารถนำไปใช้ได้จริง และก็สามารถเลือกถ่ายภาพทั้งภาพหรือว่าหน้าชัดหลังเบลอก็เลือกได้เช่นเดียวกัน
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
เรื่องของแบตเตอรี่นี่ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นใน Samsung Galaxy A22 5G เพราะให้มามากถึง 5,000 mAh พื้นฐานแบต 5000 มิลลิแอมป์สามารถใช้งานได้ยาวนานทั้งวันเลยล่ะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะ มาพร้อมความเร็วในการชาร์จที่ 15 วัตต์ ถามว่ามันเร็วมากไหมก็คงไม่ขนาดนั้น ชาร์จจาก 0-100% ใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง เพราะแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh เลยต้องให้เวลาในการชาร์จสักนิด
สรุปการใช้งาน
สรุปการใช้งาน จุดเด่นก็จะมีเรื่องของจอใหญ่สามารถรับชมความบันเทิงได้แบบจุใจไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลงเล่นเกมก็ให้มองภาพที่ใหญ่เต็มตา ด้วยรายละเอียดและความคมชัดที่ดี แล้วยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh เพื่อการใช้งานแบบยาวนานทั้งวันแทบไม่ต้องชาร์จระหว่างวันเลย และที่สำคัญคือมันยังรองรับ 5G เพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นความเสถียรของเครือข่าย ความเร็วในการอัพโหลดดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ ที่สามารถทำได้เหนือกว่า 4G หลายเท่าซึ่งมาในราคาที่จับต้องได้ไม่ถึงหมื่น
เปิดราคามาเพียงแค่ 8,299 บาท หรือถ้าผูกโปรกับเครือข่ายบน AIS เหลือค่าเครื่องเพียง 1,289 บาทเท่านั้น จัดว่าเป็นอีกหนึ่งมือถือรุ่นคุ้มค่าที่น่าใช้งานสุดๆ