ถ้าพูดถึงรถ SUV crossover ในระดับ hi end หลายๆท่านก็คงใฝ่ฝันที่อยากจะครอบครองเจ้า Porsche Cayenne กันไว้สักคันนึงนะครับซึ่งล่าสุดทาง Porsche เตรียมส่งพี่ใหญ่ตัวแรงของตระกูลออกมาแล้ว
Porsche Cayenne Turbo GT จะใช้พื้นฐานมาจาก Porsche Cayenne Turbo กลับมาปรับปรุงใหม่ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการตกแต่งภายนอกภายในและเครื่องยนต์ยางภายนอกที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้วปลัดด้วยยาง Pirelli P Zero Corsa ขนาด 285/35r22 ในล้อหน้าล้อหลังจะมีขนาด 315/30r22 ซึ่งสาเหตุที่ต้องให้ยางขนาดหน้ากว้างมาแบบนี้เพราะว่าเจ้า Porsche Cayenne Turbo GT มันสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 299 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นสถิติเป็นรถ SUV ที่เร็วที่สุดในขณะนี้
การตกแต่งภายใน Porsche Cayenne Turbo GT จะได้รับการตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมี่ยมอย่างเช่นหนัง alcantara เบาะคู่หน้าสามารถปรับหน่วยไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พวงมาลัยหุ้มหนัง alcantara พร้อมมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบอินโฟเทนเมนท์ของ Porsche Communication Management 6.0 รองรับ Android Auto และ Apple Car Play ตรงหัวเบาะในทุกตำแหน่งจะถูกปักด้วยคำว่า Tubo GT
ทางด้านเครื่องยนต์ก็จะใช้เครื่องยนต์ V8 ความจุ 4 ลิตรให้กำลังที่ 431 แรงม้ากับแรงบิด 849 นิวตันเมตรจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดสามารถเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลา 3.1 วินาทีและสามารถทำความเร็วได้สูงสุดอยู่ที่ 299 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเรื่องสมรรถนะนั้นไม่ถูกทดสอบที่สนาม Nürburgring ในฝั่ง Nordschleife ในระยะทาง 12.9 ไมล์ สามารถทำเวลาเอาชนะ Audi Q8 RS ที่ทำเวลาเอาไว้ 7 นาที 42 วินาที ส่วน Porsche Cayenne Turbo GT ทำเวลาไว้ได้ที่ 7 นาที 38 วินาทีส่วนต่าง 4 วินาทีในสนามนั้นถือว่าค่อนข้างห่างเลยนะครับ
และเมื่อรถแรงขนาดนี้แล้วจะเริ่มพูดถึงระบบเบรคไปไม่ได้ตัวระบบเบรคของ Porsche Cayenne Turbo GT จะมาพร้อมกับเบรค Porsche Ceramic composite brake เรียกง่ายๆว่าเบรคเซรามิคที่อยู่ในรถซุปเปอร์คาร์ทั่วๆไปนั่นแหละครับซึ่งในตลาดนี้คู่แข่งก็จะมีทั้ง Audi Q8 RS, BMW X6 M และ mercedes amg gle 63 S ซึ่งแต่ละตัวนั้นพละกำลังแรงม้านั้นไม่ได้น้อยเลยนะครับเรียกได้ว่าเป็นซุปเปอร์คาร์ในคราบรถ SUV เลยก็ว่าได้สำหรับราคาของ Porsche Cayenne Turbo GT จะเปิดตัวออกมาที่ 180,800 เหรียญสหรัฐตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 5 ล้าน 8 แสนบาทครับส่วนรายละเอียดในการเปิดตัวนั้นคาดว่าจะมาช่วงในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้สำหรับประเทศไทยเราก็คงจะมีนำเข้ามาแน่นอนราคาก็คูณ 3 หรือคูณ 4 เข้าไปนะครับ
ที่มา : rushlane