ภาพรวม OnePlus 9
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่านครับ อยู่กับ @นายเป้ไงจะใครล่ะ พบกันอีกเช่นเคย! วันนี้รีวิว OnePlus 9 ฉบับสรุป! มาดูกันครับว่าเรือธงรุ่นเริ่มต้นจากทาง OnePlus ที่ได้มีการออกแบบและพัฒนากล้องร่วมกับแบรนด์ Hasselblad ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์กล้องระดับโลกเนี่ย มันสุดจัดอย่างที่เค้าร่ำลือกันจริงๆ หรือไม่!? เทียบกับตัว Pro ที่ราคาต่างกันเกือบ หนึ่งหมื่นบาท มันทำได้ดีประมาณไหน เราเริ่มจากความแตกต่างของทั้งสองรุ่นกันก่อนเลยครับ
ความแตกต่างระหว่าง OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro
สำหรับความต่างของรุ่นธรรมดาและรุ่นโปร ผมสรุปให้แบบนี้ครับ
OnePlus 9 | OnePlus 9 Pro |
หน้าจอ 6.55 นิ้ว (จอ Flat) | หน้าจอ 6.7 นิ้ว (จอ Curve) |
อัตรารีเฟรชเรท 120Hz | อัตรารีเฟรชเรท Smart 120Hz (LTPO) |
ความละเอียด FHD+ | ความละเอียด QHD+ |
กรอบเครื่องพลาสติก | กรอบเครื่องอลูมิเนียม |
RAM 8GB | RAM 12GB |
รองรับ Wireless Charge 15w | รองรับ Wireless Charge 50w |
เซนเซอร์กล้องหลัก Sony IMX 689 | เซนเซอร์กล้องหลัก Sony IMX 789 |
ไม่มี กล้อง Telephoto 3.3x | มี กล้อง Telephoto 3.3x |
น้ำหนัก 192 กรัม | น้ำหนัก 197 กรัม |
มาพูดคุยกันสักนิด ในจุดที่แตกต่างกัน
จากตารางสรุป ก็จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันในหลายๆ จุดครับ ซึ่งในส่วนนี้ผมจะยกบางเรื่องมาพูดคุยกันสักหน่อยแล้วกัน!
หน้าจอที่ไม่โค้ง ประสบการณ์การใช้งานมันเป็นยังไง?
ในส่วนนี้ ผมขอออกตัวก่อนเลยว่าผมเป็นแฟนของสมาร์ทโฟนที่จอไม่โค้ง เพราะผมเป็นคนที่เล่นเกมเป็นหลักนะครับ ในการเล่นเกมต่างๆ ผมรู้สึกว่ามันตอบสนองได้ดีกว่า ตัวผมเองจะไม่ค่อยชอบจอโค้งสักเท่าไหร่ ไม่ได้ว่ามาอวย OnePlus 9 แต่อย่างใด
อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆ ครับ! ด้วยความที่จอมัน Flat มันเรียบๆ ไปนี่แหละ ทำให้รู้สึกว่าการจับถือต่างๆ มันกระชับมือมากกว่า เมื่อเทียบกันแล้วมันเข้ามือมากกว่าตัว OnePlus 9 Pro ซะงั้น!? การเล่นเกมรู้สึกได้ว่าฟิลลิ่งมันดีกว่า ...ดื้อๆ แบบนี้เลย
ถามว่าจอความละเอียด FHD+ มันเพียงพอไหม?
ถ้าต้องให้พูดถึงเรื่องความละเอียดหน้าจอเนี่ย ผมก็มองว่าในความละเอียดที่ FHD+ มันก็โอเคแล้วนะ! การใช้งานทั่วๆ ไปคือไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่ ถึงจอจะไม่ได้เป็นแบบ LTPO ที่ปรับอัตรารีเฟรชเรทตามการใช้งาน แต่ด้วยความที่มันเป็น Fluid AMOLED เหมือนกันเนี่ย ก็ทำให้การแสดงผลไม่หนีกันมากครับ
แต่จะรู้สึกได้ก็คือเรื่องของความคมชัดเล็กน้อย (จอ 2K ในขนาดที่ใกล้เคียงกัน ก็ทำให้จำนวนพิกเซลมันเด่นชัดมากขึ้นอยู่แล้วเนาะ ความหนาแน่นของตัว Pixel มันจะเยอะกว่า) แต่ก็ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ต้องการแบบสุดทุกอย่าง เอาแบบกลางๆ ในราคาที่มันไม่สูงเวอร์วังมากไป ผมก็ยังมองว่าความละเอียด FHD+ มันเพียงพอแล้วครับ ให้ความละเอียดสูงๆ 2K 4K มันไปอยู่บนจอใหญ่ๆ ดีกว่า (ความคิดเห็นส่วนตัว) เพราะว่ามันเป็นการกินแบตเตอรี่เพิ่มโดยใช่เหตุ ถามว่าจอมันคมมันสวยกว่าไหม ตอบว่า "ก็ใช่แหละ" แต่... เกินความจำเป็นครับ
สเปคต่างกันเล็กน้อย ...มีผลไหม ถ้าใช้งานหนักๆ
ในส่วนของสเปคที่มีความแตกต่างกันไปเล็กน้อยเนี่ย ก็คือในส่วนของ RAM ที่น้อยกว่าถึง 4GB จากรุ่น OnePlus 9 Pro ผมขอพูดให้เข้าใจง่ายๆ แบบนี้ครับ
ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ใช้งานหนักเวอร์วัง ว่าฉันจะต้องเล่นเกม Action Openworld ที่เกมมันหนัก! มันสุดจัด! รีดพลังทุกขุมของเครื่องออกมาอย่าง Genshin Impact ตลอดเวลา!? ก็จะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเลยครับ อย่างตัวผมเองไม่ได้เล่นเกมแนวนี้เป็นหลักอยู่แล้ว หลักๆ ผมจะเล่นในส่วนของเกม MOBA อย่าง ROV, LoL Wildrift หรือแนว FPS อย่าง Call of Duty Mobile หรือไม่ก็ไปเล่นเกมแนวกาชาเกลือๆ อะไรแบบนั้น ผมเลยรู้สึกว่าในเรื่องของประสิทธิภาพ ไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยยะขนาดนั้นครับ!
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เล่นเกมหนักๆ อย่างที่ว่าไป ก็ไปตัว RAM 12 อย่าง OnePlus 9 Pro น่าจะตอบโจทย์การใช้งานมากกว่าครับ แต่ถามว่ามันต่างกันขนาดนั้นไหม รู้สึกได้เลยไหม ...อาจจะต้องพูดกันตรงๆ ว่าเอาจริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกต่างขนาดนั้นแฮะ!? อันนี้ขึ้นอยู่กับทุนทรัพย์เลยก็ว่าได้ครับ อยากได้ตัวจบ ไป OnePlus 9 Pro แต่ถ้าอยากได้ความสมดุลในแง่ของประสิทธิภาพและราคา ก็มาตัวนี้ครับ OnePlus 9 ประมาณนี้ครับสำหรับเรื่องของความแตกต่างของ RAM
กล้องหลักที่เซ็นเซอร์ต่างกัน ...ต่างมากไหม?
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยครับว่า ไม่ว่าจะเป็น OnePlus 9 หรือ OnePlus 9 Pro ทั้งคู่ได้มีการ Co-Developed หรือการพัฒนาร่วมในในเรื่องของกล้องกับทาง Hasselblad ไม่ใช่ว่าตัว 9 ธรรมดาไม่ได้นะ เชื่อว่ามีหลายคนที่อาจจะยังสับสนอยู่ บอกตรงนี้เลยว่าแปะโลโก้ Hasselblad ทั้งสองรุ่นครับ!
ความเหมือนที่แตกต่าง
ถึงแม้ว่าจะพัฒนาร่วมกันกับทาง Hasselblad แต่ก็ใช่ว่าจะเหมือนกันไปหมดซะทีเดียว เพราะว่าทั้งสองรุ่นนี้ ใช้เซ็นเซอร์ของกล้องที่ไม่เหมือนกันครับ!
- OnePlus 9 ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX 689
- OnePlus 9 Pro ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX 789
ทั้งสองรุ่นใช้เป็น Custom Sensor ที่จะช่วยให้การเก็บสีสันนั้น เที่ยงตรงตามสไตล์กล้อง Hasselblad จะมีในส่วนของ Color Calibration ที่จะเข้ามาช่วยทำให้สีสันนั้นโดดเด่นเป็นธรรมชาตินั่นเองครับ! แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยความที่มันเป็นเซ็นเซอร์คนละตัวกัน ทำให้มันแตกต่างกันอยู่บ้างในบางจุด ซึ่งจะอธิบายความต่างโดยสังเขปแบบนี้ครับ
OnePlus 9 (Sony IMX 689) | OnePlus 9 Pro (Sony IMX 789) |
ไม่มี OIS | มี OIS |
ระบบโฟกัสแบบ PDAF | ระบบโฟกัสแบบ PDAF+Laser Focus |
ในส่วนอื่นก็จะเหมือนกันหมดเลย
- ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.43" เท่ากัน
- ความละเอียดสูงสุด 48MP เท่ากัน
ประมาณนี้นะครับสำหรับความแตกต่างหลักๆ ของเซ็นเซอร์ทั้งสองตัวนี้ แต่อย่างที่บอกไปว่าเค้าได้มีการร่วมมือพัฒนาในเรื่องของสีกับทาง Hasselblad เหมือนกันทั้งคู่
การใช้งานจริง ต่างกันมากไหม?
แล้วถามว่าถ้าออกไปถ่ายรูปเทียบกันเลยเนี่ยมันแตกต่างกันขนาดนั้นไหม สำสหรับเซ็นเซอร์ทั้งสองตัวนี้ ถ้ามันอยู่ในจอเล็กๆของสมาร์ทโฟน อันนี้ตอบว่าไม่ค่อยรู้สึกต่างกันเท่าไหร่ครับ แต่มันจะมีความแตกต่างกันอย่างค่อนข้างเห็นได้ชัดเลยเมื่อเราเอามาอยู่บนจอคอมพิวเตอร์ แล้วซูมจับผิด (ยังกับเล่นเกม Photo Hunt อะไรแบบนั้น!?)
จะเห็นได้ว่ารายละเอียด ความคมชัด ตัว OnePlus 9 Pro จะทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ จะเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า คมกว่า สีสันจะเที่ยงตรงกว่า(ในบางครั้ง) ดูจากรูปเปรียบเทียบกันได้เลยครับ จะค่อนข้างเห็นชัดอยู่เมื่อเราซูมจับผิด
แล้วก็ในส่วนของการถ่ายภาพในที่แสงน้อยตอนกลางคืน ตัว OnePlus 9 Pro นั้นด้วยความที่เค้าเป็นเซนเซอร์ที่ใหม่กว่า ไหนจะมีระบบกันสั่นในกล้อง การจัดการนอยส์อะไรต่างๆ มันก็ควรจะต้องดีกว่าใช่ไหมครับ ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ ครับ เพราะว่าเมื่อเทียบกันในที่แสงน้อย ภาพถ่ายจากตัว OnePlus 9 ธรรมดา ในเรื่องการเก็บรายละเอียดจะเห็นได้ชัดเลยว่าทำได้ไม่ดีเท่าตัว OnePlus 9 Pro
แต่ถามว่า OnePlus 9 Pro มันถ่ายไม่ดีหรอ? ...ไม่เลยครับ ถ้าไม่ได้เปรียบเทียบ มานั่งจับผิดอะไรกัน ก็มองว่าเป็นกล้องที่ดีตัวนึงเลยล่ะ! ไม่ได้ขี้เหร่เลยนะ แล้วสีสันอะไรก็คือทำออกมาได้ดี ได้เที่ยงตรงตามที่เค้าเคลมเลยครับ
สรุปการใช้งาน OnePlus
สำหรับการใช้งาน OnePlus 9 มาก็ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงในระดับเริ่มต้นที่มองว่ามันตอบโจทย์ทุกการใช้งานครอบคลุมแล้วครับ การใช้งานไม่มีอะไรติดขัดแต่อย่างใด เบาก็ได้ หนักก็ดี ถึงแม้จะได้ไม่สุดทางเท่าตัวโปร (ก็แน่ล่ะ ราคาต่างกันเกือบหมื่นบาท) ก็ถือว่าภาพรวมทำได้ดีมากๆ แล้วครับ สำหรับ OnePlus 9 ตัวนี้
ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ต้องการความสุดจัดขนาดนั้น มองว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าคุ้มราคามากๆ ตัวนึงเลยครับ เพราะราคาเค้าเปิดตัวต่างจากรุ่นโปรเกือบ 300USD หรือประมาณ หนึ่งหมื่นบาทไทยเลยทีเดียว ก็จะประมาณนี้นะครับสำหรับ OnePlus 9
สำหรับราคาไทยก็รอไปก่อนนะครับ อดใจรอกันอีกนิดนะครับ เพราะช่วงนี้ทางวันพลัสเองเค้าก็ส่งให้สื่อต่างๆ รีวิวกันหมดแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอครับผม! สำหรับการเปิดราคา OnePlus 9 Series ในประเทศไทย
สำหรับรีวิว OnePlus 9 ก็จะประมาณนี้นะครับ อย่าลืมกดติดตามกันในช่องทาง Facebook และ Youtube ด้วยนะครับ ทางทีมงาน TechXcite จะคอยนำเสนอข่าวคราววงการไอทีให้เพื่อนๆ ได้อัปเดตกันอยู่ตลอดเวลา สำหรับวันนี้ @นายเป้ไงจะใครล่ะ ขอตัวไปปั่นรีวิวตัวอื่นก่อนแล้วจ้าา~ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ! :3
//นายเป้ไงจะใครล่ะ
สเปค OnePlus 9
- หน้าจอ : 6.55 นิ้ว Fluid AMOLED ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400) อัตรารีเฟรชเรท 120Hz , HDR 10+
- มิติตัวเครื่อง : 160 x 74.2 x 8.7 มม.
- น้ำหนัก : 192 กรัม
- CPU : Snapdragon 888 5G (5 nm)
- GPU : Adreno 660
- RAM : 8GB
- ROM : 128GB (UFS 3.1)
- ไม่รองรับ Micro-SD
- แบตเตอรี่ : 4,500mAh เซลล์คู่
- รองรับการชาร์จเร็ว WarpCharge 65T
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 48MP f/1.8 (เทียบเท่า 23mm)
- กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP f/2.2 (เทียบเท่า 14mm)
- กล้องขาวดำ Monochrome 2MP f/2.4
- Hasselblad Color Calibration
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K 30fps, 4K@60fps, 1080p@60/240fps
- กล้องหน้า 16MP f/2.4
- รองรับการเชื่อมต่อ
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6
- Bluetooth 5.2
- NFC
- รองรับสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- พอร์ต USB Type-C 3.1
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบด้วย OxygenOS 11
- สี : Winter Mist, Arctic Sky, Astral Black
- ราคาเปิดตัว
- 589.99 USD (ประมาณ 18,000 บาท) ยังไม่เปิดราคาไทย