ภาพรวม OnePlus 9 Pro
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่านครับ อยู่กับ @นายเป้ไงจะใครล่ะ พบกันอีกเช่นเคย! วันนี้รีวิว OnePlus 9 Pro รุ่นเรือธงของเรือธงจากค่าย OnePlus ซึ่งในปีเค้า ทาง OnePlus ได้มีการออกแบบและพัฒนากล้องร่วมกับแบรนด์ Hasselblad ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์กล้องระดับโลกเลยทีเดียว! เรามาดูกันครับว่า OnePlus 9 Pro ตัวนี้ มันสุดจัดอย่างที่เค้าร่ำลือกันจริงๆ หรือไม่!? กล้องที่พัฒนาร่วมกับทาง Hasselblad มันจะเจ๋งขนาดไหนกันนะ!
ก่อนจะไปเริ่มลงรายละเอียดกัน มาดูสรุปกันสักเล็กน้อยครับ สำหรับ OnePlus 9 Pro ว่ามีจุดเด่นหรือจุดสังเกตอะไรตรงไหนบ้าง!?
จุดเด่น
- ดีไซน์แจ่ม! อยู่ในมือให้ความรู้สึกสัมผัสที่ "พรีเมี่ยม" มากๆ
- จอ Fluid Display 2.0 ที่ได้รับคะแนน A+ จาก DisplayMate การันตีเรื่องความแจ่ม!
- ไม่เจออาการทัชลั่นเลย แม้จะเป็นจอขอบโค้ง!
- เร็ว! แรง! ด้วยขุมพลัง Snapdragon 888 และมีการจัดการความร้อนค่อนข้างดี
- กล้องสวยมว๊ากก! โลโก้ Hasselblad ไม่ได้แปะมาเล่นๆ
จุดสังเกต
- Warp Charge 65T ไม่เร็วอย่างที่คิด (อาจเพราะเป็นเครื่องทดสอบ)
- แบตเตอรี่ลดค่อนข้างเร็วเมื่อเปิดความละเอียด 2K 120Hz
- กล้อง Monochrome (ขาว-ดำ) ที่ไม่รู้จะใส่มาทำไม!?
สเปค OnePlus 9 Pro
- หน้าจอ : 6.7 นิ้ว AMOLED Fluid Display 2.0 ความละเอียด WQHD+ (1440 x 3216) อัตรารีเฟรชเรท 120Hz (LTPO) 1B Color
- มิติตัวเครื่อง : 163.2 x 73.6 x 8.7 มม.
- น้ำหนัก : 197 กรัม
- CPU : Snapdragon 888 5G (5 nm)
- GPU : Adreno 660
- RAM : 12GB
- ROM : 256GB (UFS 3.1)
- ไม่รองรับ Micro-SD
- แบตเตอรี่ : 4,500mAh เซลล์คู่
- รองรับการชาร์จเร็ว WarpCharge 65T
- กล้องหลัง 4 ตัว
- กล้องหลัก 48MP f/1.8 (เทียบเท่า 23mm) Laser AF, OIS
- กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP f/2.2 (เทียบเท่า 14mm)
- กล้องเทเล 8MP 3.3x f/2.4 (เทียบเท่า 77mm)
- กล้องขาวดำ Monochrome 2MP f/2.4
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K 30fps, 4K@120fps, 1080p@30/60/240fps
- กล้องหน้า 16MP f/2.4
- รองรับการเชื่อมต่อ
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6
- Bluetooth 5.2
- NFC
- รองรับสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- พอร์ต USB Type-C 3.1
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบด้วย OxygenOS 11
- กันน้ำกันฝุ่น : IP53
- สี : Morning Mist, Forest Green, Stellar Black
- ราคาเปิดตัว
- 879.99 USD (ประมาณ 27,000 บาท) ยังไม่เปิดราคาไทย
ภายในกล่อง
สำหรับภายในกล่องของ OnePlus 9 Pro นั้นจะประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่อง OnePlus 9 Pro
- อะแดปเตอร์ WarpCharge 65T
- สายชาร์จ USB Type-C to Type-C
- คู่มือการใช้งานและการ์ดรับประกัน
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เคสตามสีตัวเครื่อง
เริ่มกันที่ดีไซน์
ดีไซน์ของ OnePlus 9 Pro นั้นต้องบอกว่าเค้ามีความพรีเมียมดูดีมากๆ เมื่อได้สัมผัสจับถือในมือครับ! สีที่ผมถืออยู่ในมือคือสีเทา Morning Mist ที่มีความสะท้อนมันเงามากๆ
แต่วัสดุเค้าเลือกมาดีนะ ต่อให้มันแวววับขนาดนี้ แต่การติดรอยนิ้วมือไม่เยอะเท่าที่คิดไว้ แจ่มมากๆเลย! โดยที่เค้ามีเคสมาให้ด้วยนะเป็นสีเทา แต่พอใส่แล้วก็กลบความเงาแวววับไปเลย อดโชว์ความงามของตัวเครื่องซะงั้น ส่วนตัวแล้วคงไปซื้อเคสใสมาใส่ ก็อยากโชว์ความสวยงามอะครับผม! (อิอิ)
ด้านข้างของตัวเครื่องก็จะเป็นกรอบอลูมิเนียมให้ความรู้สึกในการสัมผัสจับถือมันพรีเมียมและเบาบาง โดยมีความบางของกรอบเครื่องเพียงแค่ 2.2 มิลลิเมตรเท่านั้น!
โดยที่สัดส่วนของหน้าจอโค้ง ถูกปรับให้โค้งน้อยลง นั่นหมายความว่า ปัญหาเรื่องสีเหลือบตรงขอบโค้งได้รับการแก้ไข จะส่งผลให้แสดงสีสันได้ดีขึ้น ไม่ผิดเพี้ยนไปในส่วนที่มันโค้งครับ
และที่ขาดไปไม่ได้ก็คือกรอบกล้องที่โดดเด่นเป็นสง่านี้ครับ มาพร้อมกับโลโก้ Hasselblad ที่ทาง Oneplus ได้จับมือพัฒนาเรื่องกล้องร่วมกัน ก็จะเป็นกรอบสีเงินเพิ่มความ หรูหรา ด้วยนะ!
และที่ขาดไปไม่ได้สำหรับค่าย OnePlus ก็คือปุ่มปรับโปรไฟล์เสียงของเครื่อง ที่สามารถปรับได้สามแบบ ก็คือโหมด Silent/Vibrate/Ring ตามสไตล์ของเค้า ซึ่งต้องบอกว่าผมเป็นแฟนของปุ่มนี้เลยแหละ มันมีประโยชน์มากจริงๆครับ ใช้จนชินไปแล้ว พอไปใช้แบรนด์อื่นที่มันไม่มีเนี่ย ก็จะแอบขัดใจเล็กๆนะครับ (แหะๆ)
ภาพรวมของการออกแบบของ OnePlus 9 Pro นั้น ส่วนตัวแล้วค่อนข้างชอบเลย มันให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม หรูหราในการสัมผัสจับถือ การออกแบบในปีนี้ทำได้ลงตัวมากๆ เลยครับ!
หน้าจอของ OnePlus 9 Pro
สำหรับหน้าจอของ OnePlus 9 Pro มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว เป็นจอแบบ AMOLED Fluid Display 2.0 (จอโค้ง) ความละเอียด QHD+ (2K) อัตรารีเฟรชเรท 120Hz เลยนะ ซึ่งเป็นพาเนลแบบ LTPO ด้วย!!
โดยที่จอแบบ LTPO นี้ก็จะปรับรีเฟรชเรทตามการใช้งานของเราตั้งแต่ 120Hz ไปจนถึง 1Hz เลยช่วยในเรื่องการประหยัดแบตเตอรี่ให้ดีขึ้นครับ
และอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าขอบโค้งที่เค้าปรับดีไซน์มาให้มันโค้งน้อยลง ทำให้การใช้งานโดยรวมนั้นดีขึ้นมากๆ เลย และที่สำคัญคือแทบจะไม่เจออาการทัชลั่นที่ขอบจอโค้งเลยนะ!
ในส่วนจอของเค้าเองเนี่ยก็ได้รับคะแนนจาก A+ จาก DisplayMate ด้วยนะ มีการันตีแบบนี้ก็สบายหายห่วงครับ ไหนจะรองรับ HDR+ แถมเป็นจอ 10 ล้านสีอีก ถึงแม้ว้าเค้าอาจจะไม่ได้โปรโมทเรื่องจอเยอะเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะ นี่คือจอที่ดีย์งามจริงๆ
การแสดงผลต่างๆ ให้รายละเอียดที่ดีมากๆ การใช้งาน 120Hz มันช่างลื่นไหลเสียเหลือเกิน! ไถฟีด อ่านคอนเทนต์นี่คือลื่นเนียนตามากๆ ลื่นหัวแตก! จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในหน้าจอที่ดีที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนเรือธงได้เลยครับ จากการใช้งานจริงมา บอกเลยว่า "พรี่ไม่ได้โม้" จอเค้าแจ่มจริง!
และยังมีสแกนลายนิ้วมือใต้จอมาให้ด้วย การทำงานถือว่าเร็วใช้ได้เลย! แต่จะติดตรงที่ต่ำแหน่งของเค้าอาจจะอยู่ต่ำไปนิดนึงแฮะ!? คนมือเล็กๆ อาจจะสแกนไม่ถนัดเท่าไหร่ครับในจุดนี้
ประสิทธิภาพการใช้งาน!
สำหรับเรื่องประสิทธิภาพของ OnePlus 9 Pro ก็คงไม่มีอะไรให้พูดถึงเยอะเท่าไหร่ครับ กับสิ่งที่อัดมาให้แบบ "สุดจัด" แล้ว เรียกว่าเป็นมาตรฐานสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงในปี 2021 นี้เลยก็ว่าได้ครับ กับกับขุมพลังที่ให้มา
- Snapdragon 888
- RAM 12GB
- ROM 256GB
ก็คือเรียกได้ว่าเป็น NO.1 ในสมาร์ทโฟนเรือธงฝั่ง Android แล้วล่ะ! ให้มาให้สุดทุกทางขนาดนี้
การใช้งานทั่วๆ ไป อย่างเช่นการเล่นโซเชี่ยล Facebook, Instagram, Twitter, Line, TikTok, Youtube, NetFlix บลาๆๆ อะไรแนวนี้ผมจะไม่พูดถึงนะครับ เพราะว่ามันสามารถทำได้สบายๆ ลื่นไหลมากๆ ไม่มีอาการหน่วงหรือกระตุกให้เห็นแม้แต่เสี้ยววินาที! ยิ่งใช้ร่วมกับจอที่อัตรารีเฟรชเรท 120Hz นั้นก็จะทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในการเล่นใช้งานทั่วๆ ไปเลยแหละครับ เนียนตามั่กๆ!
มาพูดกันถึงเรื่องของการใช้งานที่รีดประสิทธิภาพของเครื่องกันออกมาหน่อยดีกว่า การใช้งานหนักๆ อย่างเช่นการเล่นเกมบน OnePlus 9 Pro ตัวนี้ มันจะสามารถทำออกมาได้ประมาณไหนกัน เรามาเริ่มกันเลยครับ!
สำหรับเกม ROV สามารถปรับภาพ HD สูงสุด , ภาพกราฟิกสูงสุด , เปิดเฟรมเรตสูง , เปิดเงาเมฆ ปรับสุดได้ทุกอย่าง! ก็เรียกได้ว่าสบายๆ เลยครับสำหรับเกม MOBA ยอดฮิตของคนไทยอย่าง ROV นั้น ปรับสุดเล่นได้ลื่นๆ ไม่มีอาการเฟรมดรอปให้เห็นแต่อย่างใดเลย!
ส่วน Call of Duty Mobile สามารถปรับกราฟิก Very High เฟรมเรต MAX กันได้เลยครับ! โดยที่สามารถเปิดเอฟเฟกต์ได้ทุกอย่าง Depth of Field , Bloom , Real-Time Shadows , Ragdoll , Anti-Aliasing (AA) เปิดได้ทุกอย่าง! ก็เล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุดเลยครับ!
ต่อกันที่เกม MOBA ยุคใหม่อย่าง LoL WildRift การปรับตั้งค่าของเกมนี้จะมีความยืดหยุ่นมากกว่าเกมอื่นเล็กน้อย โดยที่ในการตั้งค่าเราสามารถปรับสูงสุดได้ถึง 120fps เลยทีเดียว! ผมก็จัดเต็มครับ ปรับ 120fps และปรับค่าทุกอย่างไปที่สูงสุดทั้งหมด ผลที่ออกมาก็คือสามารถเล่นได้ที่ 60fps เหมือนเดิม (แป่ววว) ตัวเกมอาจจะยังรองรับที่เฟรมเรตเท่านี้อยู่ ก็ลุ้นว่าในอนาคตเค้าอาจจะมีการปลดล๊อคในส่วนนี้ก็ได้นะ!? ส่วนการเล่นก็ทำได้ลื่นไหล 60fps สบายๆ ตอนทีมไฟต์ใหญ่ๆ ก็ไม่ได้เจออาการหน่วงหรือกระตุกแต่อย่างใดเลยครับ ...บวกกันยับๆ!
ส่วนเกม Action OpenWorld ที่ขึ้นชื่อเรื่องการรีดประสิทธิภาพของเครื่องเราอย่าง Genshin Impact เนี่ย ก็สามารถปรับตั้งค่าสูงได้เลยนะครับ เปิด 60fps ก็สามารถเล่นได้เลย แต่เกมนี้มันจะตึงๆ มือนิดนึง ด้วยความที่เค้ากินทรัพยากรค่อนข้างมากเลย เพราะฉะนั้นถึงจะเปิดกราฟิกสูง เล่น 60fps แต่ก็อาจจะมีอาการเฟรมดรอปให้เห็นบ้างนะครับ ไม่ได้ลื่นไปซะทีเดียว ก็แนะนำว่าให้ปรับลดการตั้งค่ากราฟิกลงมานิดนึง เอาเล่นแบบชิลๆ ก็ปรับกลางๆ Medium ก็จะทำให้การเล่นเกมต่อเนื่องนานๆ นั้นทำได้ลื่นไหลครับ!
และสำหรับอุณหภูมิของตัวเครื่องใช้งานต่อเนื่องนานๆ ด้วยความที่มันเป็นชิปเซ็ตตัวท๊อป Snapdragon 888 ถามว่ามันร้อนไหม? ก็ร้อนตามแบบฉบับของชิปมังกรพ่นไฟนี่แหละครับ จะไม่บอกว่ามันไม่ร้อนนะ เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตาม ที่ใช้ชิปเซ็ตตัวนี้ มันจะร้อนแรงอย่างเห็นได้ชัดทุกรุ่นเลยครับ!
แต่ถามว่ามันร้อนขนาดนั้นไหม? สำหรับตัวผมเอง ผมตอบได้ว่า "ไม่ขนาดนั้นนะ" คือด้วยความที่ผมทดสอบเล่นในห้องพัดลม อุณหภูมิในห้องประมาณ 34 องศาเซลเซียส เปิดการเชื่อมต่อ WiFi เปิดความสว่างหน้าจอ 70% เปิดความดังลำโพง 70% เปิดจอที่ความละเอียด 2K Smart 120Hz ตลอดเวลาเนี่ย เล่นเกมต่อเนื่องราวๆ 1 ชั่วโมง มาเปิดอุณหภูมิใน Game Space ดู ก็พบว่าอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 43 องศาเซลเซียสเท่านั้น!
สำหรับการเล่นเกมออนไลน์ที่ไม่ได้กินทรัพยากรเครื่องอะไรมากมายจะพีคอยู่ที่ 41-42 องศาเท่านั้นครับไม่เกินนี้ ก็อย่างที่ได้บอกไปว่า มันเป็นอุณหภูมิเครื่องในสภาวะใช้งานต่อเนื่อง แล้วมันอยู่ที่ไม่เกิน 43 องศาสำหรับการเชื่อมต่อแบบ WiFi กับชิปเซ็ต Snapdragon 888 ...ผมมองว่าเค้าทำเรื่องระบบระบายความร้อนได้ดีในระดับนึงเลยนะ! เพราะชิปเซ็ตตัวนี้อย่างที่รู้กันว่ามันร้อนแรงมากๆ ค่ายไหนทำระบบระบายความร้อนไม่ได้ล่ะก็เตรียมเจออาการเฟรมดรอปเวลาเล่นเกมได้เลย!? แต่มันไม่เกิดขึ้นกับ OnePlus 9 Pro ครับผม :)
โดยรวมก็ถือว่าเรื่องประสิทธิภาพไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ สามผ่านไปเลยสำหรับ OnePlus 9 Pro
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของ OnePlus 9 Pro นั้นมาพร้อมกับความจุขนาด 4,500mAh รองรับชาร์จไว Warp Charge 65T ถามว่าแบตอึดไหม!? การจัดการพลังงานเป็นยังไงบ้าง!? ผมสรุปตัวเลขมาให้แบบนี้ครับ
สำหรับการเล่นเกม 1 ชั่วโมงติดต่อ การตั้งค่าดังต่อไปนี้
- เปิดความละเอียดจอ 2K ตลอดการทดสอบ
- เปิดอัตรารีเฟรชเรทสูง Smart 120Hz
- ปรับเฟรมเรตสูง ภาพกราฟิกสูง ในทุกเกมที่รองรับ
- การเชื่อมต่อ WiFi
- ความสว่างหน้าจอ 70%
- ความดังของลำโพง 70%
- ทดสอบในห้องอุณหภูมิ 34 องศา (ห้องพัดลม ตอนกลางวันไม่เปิดแอร์)
สำหรับการเล่นเกมติดต่อกัน 1 ชั่วโมงเต็ม แบตเตอรี่ลดไป 22%
ส่วนการใช้งานทั่วไป ดูหนัง เล่นโซเชี่ยล 1 ชั่วโมงเต็ม แบตเตอรี่ลดไป 13%
ถ้าเป็นการเปิดการใช้งานการเชื่อมต่อแบบ Cellular (4G,5G) ตัวเลขก็จะเพิ่มขึ้นมากจากนี้ไปอีกครั้ง ในภาพรวมของแบตเตอรี่ก็มองว่ามันไม่ได้ประหยัดแบตเท่าไหร่ (ก็แหม ..เป็นชิปเซ็ตเรือธงที่เน้นประสิทธิภาพนี่เนาะ) ก็ไม่ได้ถึงขั้นว่าแบตเตอรี่สูบเร็วอะไรมากมายกับการปรับสุดทุกเกมขนาดนี้ ถือว่าอยู่ในมาตรฐานครับ!
แล้วการชาร์จเร็วชาร์จไว Warp Charge 65T เนี่ย มันทำตัวเลขได้ประมาณไหนกันนะ!? ผมทำการทดสอบชาร์จจากแบตหมดเลย 0% จนเต็ม 100% ได้ตัวเลขความเร็วในการชาร์จดังต่อไปนี้ครับ!
- ชาร์จ 10 นาที ได้แบตเตอรี่ 16%
- ชาร์จ 20 นาที ได้แบตเตอรี่ 39%
- ชาร์จ 30 นาที ได้แบตเตอรี่ 53%
- ชาร์จจาก 0-100 ใช้เวลา 62 นาที!?
ว่ากันตรงๆ ว่าตัวเลขนี้มันน่าจะมีการผิดพลาดอะไรหรือเปล่า!? ผมแอบตกใจนะว่าทำไมมันถึงนานขนาดนี้ มัน 65w ไม่ใช่รึ!? ซึ่งตัวเลขในโฆษณานั้นเค้าบอกว่า สามารถชาร์จจาก 1-100% ได้ในเวลา 39 นาทีเท่านั้น ...แล้วตัวเลขนี้มันคืออะไรกัน!? (แอบผิดหวังเล็กน้อย TT)
ภาพรวมสำหรับเรื่องแบตเตอรี่กับการใช้งานจริงนั้น ในมิติที่ไม่ได้เป็นการจับนั่งทดสอบ จะมีความรู้สึกว่า แบตเตอรี่ค่อนข้างลดเร็วนิดหน่อยแม้ไม่ได้ใช้งาน อาจจะเป็นที่ระบบจัดการพลังงานเบื้องหลังต่างๆ รู้สึกได้เลยว่าสำหรับการใช้งานทั่วๆไป เล่นโซเชี่ยลบ้าง ดูซีรีส์บ้าง เล่นเกมบ้าง อาจจะอยู่ได้ไม่เต็มวัน! ว่ากันตรงๆ ก็แบตค่อนข้างไหลครับ แต่ตรงนี้ ขอออกตัวไว้ก่อนว่า เครื่องที่ได้รับมาเป็นเครื่องทดสอบเท่านั้น อาจจะยังมีบางส่วนที่ยังใช้การได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หากวางจำหน่ายเวอร์ชั่นไทยแล้ว อาจมีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ หรืออาจไม่มีปัญหาเหล่านี้ตั้งแต่แรกครับ!
กล้องถ่ายรูป Co-Developed with Hasselblad!
ในปีนี้ทาง OnePlus ได้มีการร่วมพัฒนาเรื่องกล้องกับแบรนด์กล้องระดับโลกอย่าง Hasselblad ที่จะโดดเด่นในเรื่องของการแสดงสีสันที่ถูกต้องเป็นธรรมชาติ โดยการร่วมมือในครั้งนี้เค้าจะทำงานร่วมกันในด้านของการปรับปรุงซอฟต์แวร์ รวมถึงการปรับแต่งสีและการปรับเทียบเซ็นเซอร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพ เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อปรับปรุง "Hasselblad Camera for Mobile" ร่วมกันต่อไปในอนาคต
โดยที่ OnePlus 9 Series นั้นมีการปรับเทียบสีขั้นสูงที่เรียกว่า Natural Color Calibration with Hasselblad เพื่อให้ได้สีที่แม่นยำและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นในภาพถ่ายของสมาร์ทโฟนเรือธงของ OnePlus ซึ่งภาพถ่ายที่ได้ออกมาจาก OnePlus 9 Pro ตัวนี้จะเป็นอย่างไร เราไปดูกันเลยครับ!
OnePlus 9 Pro มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัวด้วยกัน ได้แก่
- กล้องหลัก 48MP
- กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP
- กล้องเทเลโฟโต้ 8MP
- กล้องโมโนโครม (ขาว-ดำ) 2MP
เริ่มกันที่ไฮไลต์ของปีนี้ OnePlus x Hasselblad ในกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล!
กล้องหลัก 48MP
กล้องหลักตัวนี้ ใช้เซ็นเซอร์ IMX789 Custom Sensor ที่ทาง OnePlus ร่วมมือกันพัฒนากับ Hasselblad เพื่อทำให้สีสันที่ทำได้ออกมาแม่นยำและดูเป็นธรรมชาติที่สุด ก็ต้องบอกว่า จากคนที่ใช้วันพลัสมาก่อน มันก็มีการพัฒนาเรื่องสีขึ้นมาจริงๆ ตามที่เค้าเคลมไว้นั่นแหละ เพราะเรื่องสีสันอะไรพวกนี้ ในรุ่นก่อนๆ มันอาจจะสู้เจ้าอื่นไม่ค่อยจะได้นั่นแหละว่ากันตรงๆ มันจะมีความชืดๆ ภาพดูไม่ค่อยสดใสสบายตาเท่าไหร่ แต่ OnePlus 9 Pro ที่ได้ร่วมมือพัฒนากับ Hasselblad เนี่ยก็ต้องบอกว่าทำออกมาได้ดีเลยครับ ไม่จืดแล้วนะจ๊ะ!
ความคมชัดจัดเต็ม รายละเอียดดี สีสันจัดจ้าน มันอาจจะสดกว่าที่ตาเห็นเล็กน้อย แต่การแสดงสีดีมากๆ เลย คือเอาง่ายๆ ถ่ายภาพโหมดออโต้ ก็สามารถเอาไปอัปโหลดลงโซเชี่ยลได้สบายๆ ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากมายเลยครับสำหรับกล้องตัวนี้ ดีงามมากเวอร์!
โดยเฉพาะภาพถ่ายกลางคืนที่ทำออกมาได้ดีมากเลยนะ ด้วยความที่เค้ามี OIS (Optical Image Stabilization) ในตัวเนี่ยทั้งการกันสั่น การจัดการนอยส์ต่างๆ คือมาโหดเลยสำหรับภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อย!
แถมยังมีฟิลเตอร์ให้เล่นเยอะแยะเลย! ให้อารมณ์ภาพที่แตกต่างกันออกไป ใช้ง่ายครับ สีสันก็ดีถือว่าค่อนข้างถูกใจเลยแหละ!
กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP
กล้องอัลตร้าไวด์ของ OnePlus 9 Pro นี้จัดว่าเป็นกล้องอัลตร้าไวด์ที่มีคุณภาพสูงมากๆ ตัวนึงเลยครับ ความกว้างเนี่ยมีองศารับภาพเทียบเท่ากับเลนส์กล้อง 14mm เลยทีเดียว เป็นกล้องที่ถ่ายภาพสนุกใช้ได้เลยแหละ! สีสันอะไรคือทำได้ออกมาใกล้เคียงกับกล้องหลักมากเลย แถมยังคมกริบเลยนะสำหรับเลนส์ตัวนี้
แถมการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย ก็ทำได้ดีเกือบเทียบเท่ากล้องหลักเลยครับ! อาจจะเก็บแสงได้ไม่เท่า แต่ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นกล้องอัลตร้าไวด์ที่คุณภาพสูงมากๆ ตัวนึงเลย!
สามารถเป็นกล้อง Super-Macro ได้ด้วย! ซูมได้ตั้งแต่ 0.6x - 2x ซึ่งคุณภาพของโหมดซูเปอร์มาโครตัวนี้ก็ถือว่าเอาเรื่องเลยแหละ ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้นะจากกล้องอัลตร้าไวด์ธรรมดา ใส่ลูกเล่นเพิ่มกำลังขยายมาสองเท่าอะไรแบบนี้ ก็ทำให้เสมือนว่าเข้าใกล้วัตถุได้มากขึ้น แถมคุณภาพก็คือแจ่มๆ ไปเลยครับ
กล้องเทเลโฟโต้ 8MP ที่ระยะแปลกๆ 3.3x
สำหรับกล้อง Telephoto ของ OnePlus 9 Pro นั้นระยะก็จะมาแปลกๆ กว่าชาวบ้านเค้าหน่อย ให้ความละเอียดมาที่ 8MP โดยมีระยะที่ 3.3x หรือเทียบเท่าเลนส์ระยะ 77mm ครับ ถามว่าคุณภาพเป็นยังไงบ้าง? ตอบได้เลยว่าทำได้ดีเลยแหละ! ความคมชัด รายละเอียดอะไรถือว่าแจ่มเลยครับ แล้วเป็นระยะที่ซูมได้ค่อนข้างเยอะเลย การถ่ายภาพอาหารบนโต๊ะ ไปเที่ยวคาเฟ่อะไรแบบนี้คือระยะดีมาก ถือว่าเน้นอาหารให้โดดเด่นได้ดีเลยแหละ!
มาดูระยะเมื่อเทียบกับเลนส์หลักกันสักเล็กน้อยครับ
ส่วนการเอาไปถ่ายคนในโหมด Portrait หน้าชัดหลังเบลอ ถือว่าทำได้ดีเลยครับ ถึงความคมอะไรต่างๆ มันอาจจะไม่ได้เท่ากล้องหลัก แต่ว่าด้วยความที่มันเป็นระยะแบบนี้ทำให้แบบดูโดดเด่นออกมา กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยตัดขอบที่ทำได้ดีประมาณนึง ถือว่าเป็นเลนส์ที่ถ่ายสนุกตัวนึงเลยนะ! ผลลัพธ์ก็ถือว่าแจ่มว้าวเลยครับ! ละลายหลังดี ระยะซูมดี ถ่ายตอนแดดดีๆ คือนิพพานครับผม :P
จะขัดใจก็กล้องโมโนโครม 2MP นี่แหละ!?
สำหรับกล้องโมโนโครมของ OnePlus 9 Pro นั้นจะเป็นเซ็นเซอร์ที่ทำหน้าที่ช่วยกล้องหลักเก็บภาพขาวดำให้ได้มิติภาพที่ดียิ่งขึ้น (ไม่ใช่เลนส์ที่ถ่ายภาพได้ด้วยตัวเอง) แต่การที่มันเป็นเลนส์ที่ทำงานร่วมกันกับกล้องหลัก เพื่อให้ได้ภาพขาวดำออกมานั้น ...เอิ่มมม ตรงนี้ก็อาจจะต้องพูดตรงๆ ว่าอาจจะไม่ได้อินกับเลนส์ตัวนี้เท่าไหร่ เพราะภาพขาวดำที่เค้าทำได้ สีมันก็อาจจะไม่ได้นุ่มลึกมีมิติอะไรขนาดนั้น ว่ากันตรงๆ ก็เหมือนเปิดฟิลเตอร์แล้วทำให้เป็นภาพ ขาว-ดำ เท่านั้น อาจจะไม่ได้เน้นมากเท่าไหร่
แต่ก็อาจจะใส่มาเพื่อทำในแง่ของการตลาดว่า "เฮ้ย! เนี่ยกล้องให้มา 4 ตัวเลยนะ!" อะไรแบบนี้หรือเปล่า ผมก็ไม่รู้นะ!? ก็เอาเป็นว่าไม่ต้องไปสนใจกล้องตัวนี้มากแล้วกันครับ ไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ถ้าใครที่ชอบ มันก็ถือโอเคแหละ ไม่ว่ากัน!
กล้องหน้า 16MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ดั้งเดิมมาอย่างยาวนาน
กล้องหน้าของ OnePlus 9 Pro ก็ยังเป็นเซ็นเซอร์ตัวเดิมเซนเซอร์ Sony IMX471 แบบเดิมๆ ใช้กันมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็น Oneplus 7, 7T, 7Pro และ 8T อันนี้ก็ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรมากมายครับ คุณภาพเดิมๆ เพิ่มเติมก็คือปรับปรุงคุณภาพในเรื่องของซอฟต์แวร์
โดยรวมก็จะไม่ได้เน้นในเรื่องของความเนียนของผิวหน้าอะไรเท่าไหร่นะครับสำหรับกล้องหน้าของ OnePlus เค้าจะไปเน้นในเรื่องของความเป็นธรรมชาติซะมากกว่า ถือว่าทำได้ดีในระดับนึง สีสันรายละเอียดอะไรโดยรวมคือค่อนข้างโอเค
แต่จะติดก็เรื่องของความหน่วงนี่แหละ เป็นมายาวนานครับ จนถึงรุ่นปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ หน่วงนิดๆ แต่ถ้าคนที่ไม่ได้ติดใจอะไรก็สามารถมองข้ามเรื่องนี้ไปได้เลยครับ
การถ่ายวิดีโอของ OnePlus 9 Pro
สำหรับ OnePlus 9 Pro นั้นสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดได้ถึง 8K 30fps เลยทีเดียว เรียกได้ว่าสุดจัดมากๆ สำหรับคนที่เน้นในเรื่องของความละเอียด! คุณภาพของวิดีโอก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเลยครับ เก็บรายละเอียดได้ครบ แถมเค้ามีกันสั่นในตัวเลนส์ (OIS) ก็จะช่วยให้การถือถ่ายของเรา ทำได้นิ่งมากขึ้นด้วย เป็นจุดที่ดีมากๆ เลยสำหรับเซ็นเซอร์ตัวนี้!
ส่วนถ้าใครไม่ได้ต้องการความละเอียดสูงถึง 8K ก็สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K ได้เฟรมเรตสูงถึง 120fps เลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องบอกกันตรงๆ ว่าไฟล์ที่ได้คือมีความยืนหยุ่นมาก สามารถนำไปทำ SLOW ในโปรแกรมตัดต่อได้เยอะมากๆ ไม่ค่อยเห็นใครเค้าใส่ 4K 120fps มาเท่าไหร่ ในจุดนี้คือมาดีมากๆ เลยครับ!
ส่วนวิดีโอความละเอียด FHD 1080p นั้นก็สามารถถ่ายได้ที่ 30,60 fps และถ่าย Slow-Mo ได้ถึง 240fps เลยทีเดียว! เรียกว่าเหลือๆ เลยครับสำหรับงานถ่ายวิดีโอใน OnePlus 9 Pro ตัวนี้!
แต่จะติดก็คือในเรื่องของความร้อนครับ! เมื่อเราถ่ายต่อเนื่อง จะสัมผัสได้ถึงความร้อนที่ค่อนข้างพุ่งขึ้นมาได้อย่างชัดเจน อาจจะไม่เห็นผลในการถ่ายวิดีโอ FHD เท่าไหร่ แต่ถ้าเราปรับเป็นการถ่าย 4K,8K เนี่ย ยิ่งผมเอาไปทดสอบถ่ายในตอนกลางวัน ถึงกับต้องอุทานกว่า "ร้อนจริง!" เลยแหละครับ อาจจะไม่ได้แนะนำให้ไปถ่ายกลางแจ้งในตอนกลางวันเท่าไหร่ครับผม :D
สรุปการใช้งาน OnePlus 9 Pro
ภาพรวมของ OnePlus 9 Pro นั้นถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่จัดเต็มในทุกๆ ด้านครับไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่พรีเมี่ยม หน้าจอแสดงผลที่จัดเต็ม ประสิทธิภาพที่มาสุดทางในปี 2021 นี้ และกล้องที่มีการพัฒนาร่วมกับ Hasselblad ที่ถือว่าเป็นจุดขายของ OnePlus ในปีนี้เลย ประสบการณ์การใช้งานโดยรวมคือยอดเยี่ยมจริงๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคอนเสปต์ของเค้าอะมันเปลี่ยนไปแล้วเนาะ ซึ่งปัจจุบันหลายๆ คนอาจจะยังมีภาพจำในสโลแกน Flagship Killer หรือนักฆ่าเรือธงในราคาที่คุ้มค่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วนะ อาจจะต้องปรับ ต้องเปลี่ยนภาพจำสำหรับแบรนด์ OnePlus กันสักเล็กน้อย เพราะอย่างที่รู้กันว่า OnePlus ไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าราคาถูกอีกต่อไปแล้วนะครับ แต่เป็น Community Phone ที่มีการพัฒนาร่วมกับคอมมูต่างๆ อันไหนดี พี่เค้าก็จับมาใส่ ราคามันก็เลยไม่ได้ถูก หรือแบบคุ้มค่าอะไรแบบเมื่อก่อนแล้ว แต่จะเป็นการยัดสิ่งที่ดีที่สุดเข้าไปแทน ก็จะเป็นฟิลลิ่งประมาณนี้นะครับสำหรับค่าย OnePlus ในปัจจุบัน
แล้วก็พูดกันถึงจุดดีมาซะหมด ขอพูดจุดสังเกตกันสักหน่อยแล้วกัน แบตเตอรี่ Warp Charge 65T ที่มันไม่เร็วอย่างที่คิดแฮะ ประมาณ 1 ชั่วโมงนะครับจาก 0-100% อันนี้แอบผิดหวังเล็กน้อย แล้วก็เรื่องของแบตเช่นเคย แบตสูบค่อนข้างไวมากๆ เข้าใจว่าเป็นจอ 2K 120Hz แต่ก็ไม่คิดว่าแบตจะลดไวขนาดนี้ การอยู่ได้เต็มวันอาจจะเป็นเรื่องที่ยากไปสักนิดนึงนะครับสำหรับ OnePlus 9 Pro ย้ำอีกทีว่านี่เป็นเครื่องทดสอบที่ยังใช่เครื่องขายจริงในประเทศไทย และสุดท้ายก็คือเรื่องของกล้องโมโนโครมนี่แหละ ที่ไม่รู้จะใส่มาทำไม ไม่ค่อยอินเท่าไหร่ แล้วก็รู้สึกไม่มีประโยชน์เลย มีฟิลเตอร์สวยๆ ผ่านแอปอีกมากมายที่ทำได้ดีกว่านี้ ก็ประมาณนี้นะครับในเรื่องของจุดสังเกต
ส่วนเรื่องราคาของ OnePlus 9 Pro ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดราคาไทยอย่างเป็นทางการ เอาเป็นว่าอดใจรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยอีกสักนิดนะครับ! บอกได้แค่ว่าอีกไม่นานเกินรอ!
สำหรับรีวิว OnePlus 9 Pro ก็จะประมาณนี้นะครับ อย่าลืมกดติดตามกันในช่องทาง Facebook และ Youtube ด้วยนะครับ ทางทีมงาน TechXcite จะคอยนำเสนอข่าวคราววงการไอทีให้เพื่อนๆ ได้อัปเดตกันอยู่ตลอดเวลา สำหรับวันนี้ @นายเป้ไงจะใครล่ะ ขอตัวไปปั่นรีวิวตัวอื่นก่อนแล้วจ้าา~ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ! :3
//นายเป้ไงจะใครล่ะ