ภาพรวม Redmi Note 10 5G
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่านครับ อยู่กับ @นายเป้ไงจะใครล่ะ พบกันอีกเช่นเคย! คราวนี้มารีวิวสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G! จากค่าย Redmi ซึ่งเปิดตัวมาพร้อมกันกับ Redmi Note 10S ซึ่งเป็นราคาที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียวสำหรับสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G ในเรทราคาประมาณนี้ เรามาดูกันครับว่า Redmi Note 10 5G ตัวนี้ จะสามารถทำอะไรได้บ้าง!?
ก่อนจะไปเริ่มลงรายละเอียดกัน มาดูสรุปกันสักเล็กน้อยครับ สำหรับ Redmi Note 10 5G ว่ามีจุดเด่นหรือจุดสังเกตอะไรตรงไหนบ้าง!?
จุดเด่น
- รองรับ 5G
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700 (7nm) เน้นความสมดุล
- หน้าจอรองรับอัตรารีเฟรชเรทสูง 90Hz แบบ AdaptiveSync
- การจัดการพลังงานค่อนข้างดี อยู่เต็มวันได้สบายๆ
จุดสังเกต
- หน้าจอเป็นแบบ IPS LCD การแสดงผลอาจไม่เทียบเท่าจอ AMOLED (ไม่สู้แสงเท่าที่ควร)
- ด้วยความที่เป็นชิปเซ็ต 5G ทำให้ฟีเจอร์หลายๆ อย่างถูกลดทอนออกไป
สเปค Redmi Note 10 5G
- หน้าจอ : 6.5 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) Dot Display รองรับอัตรารีเฟรชเรท 90Hz แบบ Adaptive Sync
- มิติตัวเครื่อง : 161.8 x 75.3 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก : 190 กรัม
- CPU : Dimensity 700 5G (7nm)
- GPU : Mali-G57 MC2
- RAM : 4GB / 6GB (LPDDR4X)
- ROM : 64GB / 128GB (UFS 2.2)
- รองรับ Micro-SD
- แบตเตอรี่ : 5,000mAh รองรับชาร์จไว 18w
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 48MP f/1.8 (เทียบเท่า 26mm)
- กล้องมาโคร 2MP f/2.4
- กล้อง Depth 2MP f/2.4
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p@30ps
- กล้องหน้า 8MP f/2.0
- รองรับการเชื่อมต่อ
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
- Bluetooth 5.1
- NFC
- พอร์ต USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบด้วย MIUI 12.0
- สี : Chrome Silver, Graphite Gray, Nighttime Blue, Aurora Green
- ราคา
- 5,999 บาท (4/128GB)
- 6,999 บาท (6/128GB)
ภายในกล่อง
สำหรับภายในกล่องของ Redmi Note 10 5G ประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่อง Redmi Note 10 5G
- อะแดปเตอร์ชาร์จ 22.5w
- สายชาร์จ USB Type-A to Type-C
- คู่มือการใช้งานและการ์ดรับประกัน
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เคสใส
*ไม่แถมหูฟังนะจ๊ะ
ว่ากันด้วยเรื่องดีไซน์
สำหรับ Redmi Note 10 5G ที่ผมกำลังรีวิวอยู่นี้ คือสี Graphite Gray โดยที่ตัวสีจะมีความแตกต่างจากตัว Redmi Note 10S อยู่เล็กน้อย ฝาหลังจะมีความด้านกว่า ฟีลลิ่งการจับถือก็จะหนักกว่าเล็กน้อยที่ 190กรัม
ส่วนด้านข้างของตัวเครื่องจะมีในส่วนของปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์ที่มีแสกนลายนิ้วมือในตัว ซึ่งก็ทำได้เร็วตามมาตรฐานการแสกนลายนิ้วมือในปี 2021 นี้เลยครับ!
Redmi Note 10 5G ยังมีช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรอยู่ และเป็นลำโพงเดี่ยวนะครับ!
กรอบกล้องมาทรงเดิมสไตล์ Redmi Series แต่ตำแหน่งกล้องและจำนวนกล้องจะแตกต่างกันออกไปเล็กน้อยครับ จะมีกล้องหลังเพียงแค่ 3 ตัวเท่านั้น!ฃ
หน้าจอ Redmi Note 10 5G
Redmi Note 10 5G มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.5” เป็น IPS LCD DotDisplay เจาะรูกล้องตรงกลาง โดยที่เป็นจอรองรับอัตรารีเฟรชเรทสูง 90Hz แบบ AdaptiveSync ที่จะปรับตามการใช้งานของเรา 30/60/90Hz ช่วยให้การใช้งานลื่นไหล และประหยัดแบตมากขึ้น!
ด้วยความที่เค้าเป็นจอแบบ IPS LCD แต่การแสดงผลถือว่าทำได้ดีในระดับนึง (วงเล็บว่าถ้าไม่ได้เปรียบเทียบกับพวกจอ AMOLED นะ) แต่ว่าด้วยความที่จอของเค้าเป็น IPS LCD สีสันมันก็จะตุ่นๆหน่อยเมื่อเทียบกับจอพวก AMOLED
แล้วก็จอตัวนี้ไม่ค่อยสู้แสงเท่าไหร่นะครับ ปกติผมจะเปิดแสง 70% ในการทดสอบ ถ่ายรีวิวอะไรงี้ แต่ตัวนี้เปิดแสงสุดเลย 100% ก็ยังรู้สึกว่าไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่นะครับ (ความสว่าง 400 nits ในการใช้งานทั่วไป ถือว่าไม่มากเท่าไหร่)
และที่ต้องหยิบมาพูดก็คือในส่วนของระบบสั่นมันนุ่มนวลมากครับสำหรับตัวนี้ ให้ฟีลลิ่งแบบนุ่มๆ สั่นแบบอ่อนโยน~ ฟิลลิ่งดีเลยแหละ!
ประสิทธิภาพการใช้งาน!
สำหรับ Redmi Note 10 5G รุ่นที่กำลังรีวิวนี้เป็นรุ่น RAM 4GB / ROM 128GB
Redmi Note 10 5G มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 700 5G เป็นหน่วยประมวลผลแบบ 7nm ที่รองรับ 5G แบบสแตนบายทั้งสองซิมเลย สำหรับใครที่ต้องการความเร็วแรงในการใช้ 5G ก็จัดไปเลยครับ
ว่ากันตรงๆ ด้วยความที่เค้าเอางบส่วนใหญ่ไปลงกับชิปเซ็ตที่สามารถรองรับ 5G ได้เนี่ย ทำให้อะไรหลายๆอย่างมันก็จะถูกลดทอนไปค่อนข้างเยอะครับ ไม่ว่าจะเป็น RAM จะเป็นกล้อง รวมไปถึงเรื่องของระบบชาร์จเร็วต่างๆ ก็จะถูกเกลี่ยๆ ไปให้ตัวชิปเซ็ตเป็นหลักครับ ทำให้ฟีเจอร์หลายๆ อย่าง มาไม่เต็มเท่าที่ควร!?
สำหรับการเล่นโซเชี่ยล สามารถทำได้สบายๆ เลยครับกับหน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 700 ตัวนี้ ยิ่งใช้กับจอ 90Hz ที่รองรับ AdaptiveSync จะทำให้การใช้งานลื่นไหล สบายบรื๋อมากๆ หรือจะเป็นการดูหนังดูซีรีส์ต่างๆ ก็ใช้ได้เล้ย!
ส่วนการใช้งานที่ดึงประสิทธิภาพของเครื่องออกมาเยอะหน่อยอย่างเช่นการเล่นเกม มันสามารถทำได้ประมาณไหน ไปดูกันเลยครับ!
สำหรับเกม ROV สามารถปรับภาพ HD สูงสุด , ภาพกราฟิกสูง แต่ไม่สามารถเล่นเฟรมเรตสูงได้! ครับ... โดนล๊อคไว้ที่ 30fps เช่นเคย~ แต่โอเคแหละ ก็ปรับสูงได้ บวกกันไม่มีกระตุกแต่อย่างใดเลยครับสำหรับ ROV
ส่วน Call of Duty Mobile สามารถปรับกราฟิกได้แค่ Medium นะครับ แต่สามารถปรับเฟรมเรตสูงได้ และด้วยความที่มันล็อคไว้ให้ปรับแค่กลางๆ เนี่ย พวกเอฟเฟกต์ต่างๆ Bloom, Anti-Aliasing (AA) อะไรพวกนี้เค้าก็จะไม่ให้เปิดใช้งาน โอเคแหละ ความอลังการมันอาจจะถูกลดทอนออกไป แต่ว่าสามารถเล่นได้ลื่นๆ แน่นอน ยิงยับๆ! ลื่นไหลไร้สะดุดจ้าา!
LoL WildRift สามารถปรับสูงได้ เล่น 60fps ได้สบายๆ แนะนำว่าให้ปรับบางอย่างสูง บางอย่างกลางๆ อย่างเช่นพวกพาร์ติเคล เงาต่างๆ ก็สามารถเข้าทีมไฟต์นัวๆ ได้เลยครับ ไม่ได้เจออาการกระตุกแต่อย่างใด บวกกันให้ยับ ใส่กันให้สุด!
โดยรวมของ MediaTek Dimensity 700 ที่อยู่ใน Redmi Note 10 5G ตัวนี้ ว่ากันตรงๆ ก็จะเน้นในความสมดุลมากกว่าครับ จะทำได้ดีในการใช้งานทั่วๆไป ที่อาจจะไม่ได้หนักมากมาย แต่ถามว่าเล่นเกมได้ไหม ...ก็ทำได้ แต่อาจจะไม่ได้ปรับสูง-สูงสุดอะไรแบบนั้น ปรับกลางๆ ค่อนไปในทางสูง ก็สามารถเล่นได้ลื่นๆ แล้วครับ!
แบตเตอรี่
Redmi Note 10 5G มาพร้อมกับแบตเตอี่ความจุขนาด 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 18w แต่ในกล่องเค้าให้อะแดปเตอร์ตัว 22.5w มานะครับ
ซึ่งก็เป็นที่น่าเสียดายนิดนึง สำหรับแบต 5,000 mAh ที่ไม่ได้ Mi Turbo Charge 33w มันก็ทำให้การชาร์จนั้นไม่ค่อยจะเร็วสักเท่าไหร่ เอาเป็นว่ามาดูตัวเลขที่ผมสรุปมากันเลยครับ
- การชาร์จ 20 นาที ได้แบตเตอรี่ 8%
- การชาร์จ 40 นาที ได้แบตเตอรี่ 30%
- การชาร์จ 60 นาที ได้แบตเตอรี่ 51%
- และการชาร์จจาก 0-100% ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 55 นาที
ถามว่านานไหม? ว่ากันตรงๆ ก็ถือว่าใช้เวลาประมาณนึงเลยแหละ สำหรับคนที่ชินกับ Turbo Charge 33w ก็จะรู้สึกว่าค่อนข้างนานเลยครับ แต่โอเคแหละ! รวมๆ แล้วถือว่าไม่แย่เท่าไหร่ครับกับการชาร์จ 1 ชั่วโมงปลายๆ
แล้วถามว่าแบตอึดไหม? การจัดการพลังงานของรุ่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง มาดูการทดสอบการใช้งานของผมกันสักหน่อยดีกว่า โดยที่จะทำการปรับตั้งค่าดังนี้ครับ
- การเชื่อมต่อ WiFi
- เปิดความสว่างหน้าจอ 70%
- เปิดความดังลำโพง 70%
- ทดสอบในอุณหภูมิห้อง 33 องศา
- ปรับการตั้งค่าสูงที่สุด เท่าที่เกมอนุญาต
สำหรับการใช้งานหนักๆ เล่นเกมต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง แบตลดไป 13%
ใช้งานทั่วไปดูหนัง ดูซีรีส์ เล่นโซเชี่ยล ต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง แบตลดไป 13%
ก็ถือว่าเรื่องของการจัดการพลังงานทำได้ดีเลยนะครับ สำหรับชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 ที่อยู่ใน Redmi Note 10 5G ตัวนี้!
กล้องถ่ายรูปใน Redmi Note 10 5G
Redmi Note 10 5G มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวด้วยกัน
- กล้องหลัก 48MP
- กล้องมาโคร 2MP
- Depth Sensor 2MP
ให้มาเท่าที่พอใช้งานเท่านั้นครับสำหรับสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ มาไล่ดูกันทีละตัวเลยครับ ว่ากล้องแต่ละตัวจะให้รายละเอียดประมาณไหน
กล้องหลัก 48MP
สำหรับกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซลใน Redmi Note 10 5G ตัวนี้ ถ้าไม่ได้เปิดโหมด 48MP ก็จะเป็นความละเอียดปกติที่ 12 ล้านพิกเซลครับ คาแรคเตอร์ของกล้องเค้าจะมีความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ใน Redmi Series ไปสักเล็กน้อย โดยที่กล้องตัวนี้จะเน้นในเรื่องของสีสัน ความสดใสของภาพ และการ Boost ความคมชัด ความจัดจ้านของภาพให้มากขึ้นกว่าที่ตาเห็น
กล้องมาโคร 2MP
สำหรับกล้องมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ก็เอาเป็นว่าให้มาเท่าที่จำเป็นครับ สำหรับการถ่ายระยะใกล้ๆ ประมาณ 3-5 เซนติเมตรนั้น ก็ถือว่าทำได้ในระดับที่ "โอเค" ครับ รายละเอียดก็เก็บได้ดีประมาณนึง ตามเรทราคาเลยครับ ไม่ได้คมชัดที่สุด แต่ว่าใช้ได้ ก็ถือว่าเป็นลูกเล่นทำให้การถ่ายภาพสนุกขึ้นครับ
Depth Sensor 2MP
สำหรับเซ็นเซอร์วัดระยะความลึกตัวนี้ ก็จะช่วยให้การถ่ายภาพบุคคล (โหมด Portrait) ที่มีการทำให้ภาพหลังนั้นละลาย มีการตัดขอบของภาพ สามารถทำได้เป็นธรรมชาติมากขึ้นครับ สำหรับการไปถ่ายโหมดบุคคลนั้น จากตัวอย่างภาพก็จะเห็นว่า มันก็จะช่วยในการตัดขอบ ตัดเส้นผมได้ดี ในระดับนึงเลย ตามสไตล์ของ Depth Sensor ที่ใส่มาให้ในสมาร์ทโฟนเรทราคาประมาณนี้ ภาพรวมถือว่าโอเคอยู่นะ~
กล้องหน้า 8MP
สำหรับกล้องหน้าของ Redmi Note 10 5G นั้นมาพร้อมกับความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ถือว่าคุณภาพอยู่ในระดับที่ "พอมีให้ใช้"
โอเคแหละ มันสามารถใช้ถ่ายรูปเซลฟี่ได้ วิดีโอคอลได้ แต่ถามว่าคุณภาพจะดีเหมือนตัวที่ใช้เซ็นเซอร์ดีๆ หรือราคาสูงกว่านี้ไหม ก็อาจจะไม่ครับ! สีสัน รายละเอียดต่างๆ เน้นว่าอย่าไปคาดหวังอะไรมาก แค่พอเก็บรายละเอียดได้ ไม่ถึงกับสวยงาม แต่ก็ไม่ถึงกับดูไม่ได้ครับผม ความรู้สึกก็จะประมาณนี้!
การถ่ายวิดีโอ
สำหรับการถ่ายวิดีโอของ Redmi Note 10 5G นั้นรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด FHD 1080p 30fps เท่านั้น! อย่างที่บอกไปว่าด้วยความที่เค้าเอางบไปลงกับชิปเซ็ต 5G หมดแล้ว หลายๆ อย่าง ก็จะถูกลดทอนไปนั่นเองครับ ซึ่งนั่นก็หมายถึงตัวกล้อง ฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอต่างๆ นี้ด้วย คุณภาพก็อยู่ในระดับที่พอใช้ได้ครับ ถ่ายวิดีโอลงสตอรี่ เก็บวิดีโอต่างๆ สามารถทำได้ แต่คงไม่ได้คาดหวังว่าจะให้มันคมกริบอะไรแบบนั้นเนาะ~
ภาพรวมของกล้อง Redmi Note 10 5G นั้นก็ถือว่าไม่ได้ขี้เหร่นะครับ แต่ด้วยความที่เค้าโดนตัดทอนอะไรไปหลายๆ อย่าง มันก็เลยอาจจะทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรนั่นเอง! แต่ถามว่ามันพอใช้ได้ไหม ...ตอบได้เลยว่า "ได้" ไม่ได้ติดใจอะไรครับผม :)
สรุปการใช้งาน Redmi Note 10 5G
Redmi Note 10 5G จัดเป็นสมาร์ทโฟน 5G ในราคากลางๆ ที่ถือว่าให้มาค่อนข้างครบครันอยู่ ชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 700 (7nm) ที่รองรับ 5G แบบสแตนบายทั้งสองซิม ที่ทำในเรื่องของการจัดการพลังงานได้ค่อนข้างดีเลยครับ ประหยัดแบตเตอรี่ ใช้เต็มวันได้สบายๆ เลย
แต่ด้วยความที่ชิปเซ็ตเค้าอาจจะไม่ได้มาในเรื่องของความแรงจ๋า การใช้งานหนักหน่วงสุด การเล่นเกมต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการปรับกลาง ค่อนสูงนะครับ จะไม่ได้ปรับสูงได้ทุกเกม
แถมจออัตรารีเฟรชเรท 90Hz ของเค้าที่เป็นแบบ AdaptiveSync ก็จะยิ่งช่วยในเรื่องของการจัดการพลังงานให้ดียิ่งขึ้นไปอีก!? ถึงแม้ว่าการแสดงผล สีสันอะไรต่างๆ อาจจะไม่ได้เทียบเท่าจอ AMOLED แต่ก็คือว่าเป็นจอ IPS LCD ที่คุณภาพสูงตัวนึงเลยครับ ติดที่ว่ามันอาจจะไม่ได้สว่างสู้แสงบ้านเราสักเท่าไหร่!?
สำหรับรีวิว Redmi Note 10 5G ก็จะประมาณนี้นะครับ อย่าลืมกดติดตามกันในช่องทาง Facebook และ Youtube ด้วยนะครับ ทางทีมงาน TechXcite จะคอยนำเสนอข่าวคราววงการไอทีให้เพื่อนๆ ได้อัปเดตกันอยู่ตลอดเวลา สำหรับวันนี้ @นายเป้ไงจะใครล่ะ ขอตัวไปปั่นรีวิวต่อแล้วจ้าา~ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ! :3
//นายเป้ไงจะใครล่ะ
รุ่นความจุและราคาวางจำหน่ายของ Redmi Note 10 5G ในประเทศไทย
- RAM 4GB / ROM 128 GB ราคา 5,999 บาท
- RAM 6GB / ROM 128 GB ราคา 6,999 บาท
พิเศษ ประกันตัวเครื่องให้ถึง 15 เดือน และมีโปรโมชั่น Early Bird สั่งซื้อวันนี้รับฟรี Redmi Note 10 5G Boxset ประกอบไปด้วย
- เสื้อยืด Redmi Note 10 5G
- หูฟัง Mi True Wireless Earbuds Basic 2 มูลค่า 1,090 บาท
รีบหน่อยนะ! มีจำนวนจำกัด