สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนค้าบ วันนี้กู๊ดดรีม TechXcite มาเปลี่ยนบรรยากาศรีวิวหูฟังกันบ้าง อยู่บ้านนานๆก็อาจจะเหงาหู ถ้าได้หูฟังดีๆ มาฟังเพลงกันดู ก็น่าจะช่วยให้รู้สึกดีกับ Huawei Freebuds 4i ซึ่งจุดเด่นของหูฟังตัวนี้ดรีมใช้แล้วบอกเลยว่าชอบมาก ชอบจริงๆไม่อิงโฆษณา เพราะมันสามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างยอดเยี่ยม ดีไซน์ขนาดเล็กพกพาสะดวก และการใช้งานที่ยาวนานต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง
จุดเด่น
- ตัดเสียงรบกวนได้อย่างดีเยี่ยม
- ดีไซน์บางเบาพกพาสะดวก
- ไมโครโฟนให้เสียงดังฟังชัด
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
จุดสังเกต
- เมื่อเล่นเกมจะมีความหน่วงของเสียงเกิดขึ้นบ้างเล็กน้อย
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
- หูฟัง Huawei Freebuds 4i พร้อมเคสชาร์จ
- คู่มือการใช้งาน
- สายชาร์จ USB-C
- จุกยางสำหรับเปลี่ยน 2 ชุด
มีด้วยกันทั้งหมด 3 สี
- สีขาว Ceramic White
- สีดำ Carbon Black
- สีแดง Red
แต่ละสีก็สวยแตกต่างกันออกไป สีที่ดรีมได้มาคือสีขาวก็จะให้อารมณ์คลีนๆ สะอาด สีแดงก็จะดูเท่โฉบเฉี่ยว ในขณะที่สีดำก็ดูเรียบง่ายแต่หรูหราน่าค้นหา
Design
Huawei Freebuds 4i เน้นดีไซน์ขนาดเล็กบางเบาพกพาได้ง่ายมากๆใส่กระเป๋ากางเกงก็สะดวก เป็นรูปทรงวงรี วัสดุเคสเป็นแบบพลาสติกมันวาว มีคำว่า Huawei อยู่ด้านหน้าพร้อมไฟแสดงสถานะเล็กๆ
ปุ่ม power เพื่อเชื่อมต่ออยู่ที่บริเวณด้านข้างขวามือ เดี๋ยวจะบอกวิธีการเชื่อมต่ออีกที
และที่ด้านท้ายก็จะเป็นพอร์ตชาร์จ USB-C ตัวฝาพับดูแข็งแรงทนทานมีแม่เหล็กดูดเพื่อความมั่นคงในการปิดเปิดเคส
ตัวดีไซน์เป็นหูฟังแบบอินเอียร์ ซึ่งมันจะช่วยในการตัดเสียงรบกวนได้อย่างดีเยี่ยม รูปทรงใส่กระชับเข้ากับรูหู ใส่ใช้งานนานๆก็ไม่รู้สึกเจ็บหูและไม่หลุดได้ง่ายเหมือนหูฟังอินเอียร์แบบทั่วไป ถือว่ามีการออกแบบสรีระมาอย่างดี ตัวการของหูฟังมีขนาดไม่ยาวมาก ซึ่งตรงบริเวณก้านนั้นเป็นจุดเพื่อการสั่งการหูฟังไปในตัวด้วย
การเชื่อมต่อ
หลายคนจะรู้สึกประมาทเมื่อต้องใช้หูฟังแบบไร้สายเพราะกังวลเรื่องการเชื่อมต่อ แต่สำหรับ Huawei Freebuds 4i ดรีมบอกเลยว่ามันสามารถเชื่อมต่อได้ง่ายมากๆ สามารถแพริ่งได้อย่างรวดเร็ว
วิธีการเชื่อมต่อหูฟัง
- กดเปิดบลูทูธบนโทรศัพท์
- เปิดฝาเคสหูฟัง จะเห็นไฟแสดงสถานะขึ้นเป็นสีเขียว
- กดปุ่ม power ที่ด้านข้างเคสค้างไว้จนกว่าไฟสีเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีขาว
- จากนั้นมาเช็คสัญญาณบนโทรศัพท์แล้วมองหาคำว่า Huawei Freebuds 4i ถ้าไม่เจอให้กดรีเฟรช 1 ครั้ง เมื่อเจอแล้วก็กดเชื่อมต่อพร้อมใช้งานได้เลย
การควบคุมด้วยระบบสัมผัส
อย่างที่ได้บอกไปในตอนแรกว่าบริเวณก้านนั้นเป็นตำแหน่งของการควบคุมด้วยระบบสัมผัสผ่านทางปลายนิ้ว
- แตะ 2 ครั้งที่บริเวณก้านหูฟังด้านซ้ายจะเป็นการข้ามเพลง
- แตะ 2 ครั้งที่ก้านหูฟังด้านขวาจะเป็นการควบคุมการเล่นและหยุดเพลง
- เมื่อแตะค้างไว้จะเป็นการสลับโหมดตัดเสียงรบกวน
- กดรับสายหรือวางสายก็จะแตะ 2 ครั้งเช่นเดียวกัน แต่สามารถแตะได้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
นอกจากนี้ที่ตัวหูฟังยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ ถ้าเราดึงหูฟังข้างใดข้างหนึ่งออกเพลงจะหยุดโดยอัตโนมัติ แล้วถ้าเราใส่กลับเข้าไปมันก็จะเล่นโดยอัตโนมัติ ซึ่งการตั้งค่าทั้งหมดนี้เราสามารถเข้าไปเปลี่ยนคำสั่งได้ผ่านแอป Huawei AI Life
การตัดเสียงรบกวน
เรื่องความสามารถในการตัดเสียงรบกวน ยอมรับเลยว่าสามารถทำได้ดีมากๆ ซึ่งเราสามารถตั้งค่าได้ 3 โหมดคือ
- Noice Cancelling เพื่อเปิดการใช้งานตัดเสียงรบกวน เมื่อเปิดโหมดนี้แล้วพร้อมกับเปิดเพลงฟังไปด้วยแทบไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากภายนอกเลย
- Awareness สำหรับโหมดนี้จะยังให้เสียงที่คมชัดเหมือนเดิมแต่ก็จะมีเสียงจากภายนอกเข้ามาในหูฟังบ้าง เหมาะสำหรับคนที่ยังต้องการได้ยินเสียงจากภายนอกเช่นเวลาอยู่บน BTS เพื่อต้องการได้ยินเสียงแจ้งเตือนสถานี
- ถ้าเลือกปิดการใช้งานตัดเสียงรบกวนเราก็จะได้ยินเสียงจากภายนอกดังเข้ามาอยู่เป็นระยะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเปิดโหมดไหน เสียงจากหูฟังก็ยังคงคมชัดเก็บรายละเอียดและเนื้อเสียงได้ดีเช่นเดิม
ในเรื่องของความหน่วงเสียงมีน้อยมากๆ ถ้าดูซีรีย์ดูหนังฟังเพลงผ่าน YouTube หรือ netflix แทบไม่เห็นความหน่วงเกิดขึ้นเลย สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล แต่ถ้าเข้าเกมก็จะมีความหน่วงของเสียงเกิดขึ้นบ้างแต่ก็ไม่มากนัก ความหน่วงก็คือความดีเลย์ของเสียงกับภาพ
คุณภาพเสียง
จริงๆต้องบอกว่าเรื่องเสียงนั้นเป็นอะไรที่รีวิวยาก เพราะมันขึ้นอยู่กับรสนิยมการฟังเพลงของแต่ละคนด้วย เอาเป็นว่าถ้ารีวิวแบบกลางๆ จุดเด่นที่สุดของเรื่องเสียงก็คือเสียงเบสที่ดุดัน ถูกใจสายฮาร์ดคอร์อย่างแน่นอน ความแหลมของเสียงอยู่ในเกณฑ์ระดับกลางๆ เสียงไม่แหลมเปล่งออกมาจนรู้สึกขัดหู สามารถฟังได้แบบสบายๆ นอกจากนี้เรื่องของมิติเสียงถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ สามารถแยกเสียงเครื่องดนตรีออกมาได้อย่างชัดเจน ไม่กลืนกันจนกลายเป็นเสียงแบนๆ ที่ฟังแล้วไม่ลื่นหู
สรุปง่ายๆเลยก็คือ การฟังเพลงจะเน้นเสียงเครื่องดนตรีโดดเด่นมากกว่าเสียงร้อง แต่โดยรวมเนื้อเสียงกลมกลืนเข้าด้วยกันฟังแล้วให้ความรู้สึกกลมกล่อม ส่วนเรื่องไมค์ในการสนทนานั้นให้ไมโครโฟนมาข้างละ 1 คู่ ให้เสียงที่ดังฟังชัดและสามารถลดเสียงรบกวนรอบข้างออกได้ด้วย
แบตเตอรี่
นี่คืออีกหนึ่งจุดเด่นในหูฟัง Huawei Freebuds 4i เพราะมันสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 10 ชั่วโมง ร่วมกับแบตเตอรี่จากเคสชาร์จอีก 12 ชั่วโมง โดยรวมแล้วเราจะสามารถใช้งานได้ 22 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อีกทั้งยังรองรับชาร์จไว ชาร์จแค่ 10 นาทีสามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว
สรุปการใช้งาน
Huawei Freebuds 4i เป็นหูฟังที่มาด้วยดีไซน์สะดวกใช้สะดวกพก ขนาดเล็กบางเบา โดดเด่นในเรื่องของการตัดเสียงรบกวนและแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 22 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เรื่องของคุณภาพเสียงจะเน้นโดดเด่นในเรื่องของเสียงดนตรีที่มีการเก็บรายละเอียดเสียงได้อย่างมีมิติ เน้นเบสหนักถึงใจ ไมโครโฟนให้เสียงที่ดังฟังชัดตัดเสียงแทรกแซงได้อย่างดีเยี่ยม มาในราคาเบาๆ 2,799 บาท มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี ใครสนใจสามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ที่ consumer.huawei