ภาพรวม Redmi Note 10 Pro
สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกท่านครับ อยู่กับ @นายเป้ไงจะใครล่ะ พบกันอีกเช่นเคย! คราวนี้มารีวิวสมาร์ทโฟนต่ำหมื่น เริ่มต้นที่ 8,499 บาท!? ที่ต้องบอกว่า โค-ตะ-ระ คุ้มค่าสุดๆ ในช่วงเวลานี้แล้ว ไปพบกับ Redmi Note 10 Pro กันเลย วู้ววว~~~
ก่อนจะไปเริ่มลงรายละเอียดกัน ไปดูภาพรวมของ Redmi Note 10 Pro กันก่อนเลย สรุปมาให้แล้ว!
จุดเด่น
- คุ้มค่าคุ้มราคามากๆ กับสิ่งที่ได้มาทั้งหมด
- Snapdragon 732G ตอบโจทย์การใช้งานทั้งเบาและหนัก!
- จอใหญ่ 6.67 นิ้ว 120Hz ในราคาไม่ถึงหมื่น!?
- กล้องหลักความละเอียดสูงถึง 108MP
- แบตเตอรี่ใหญ่ 5020 mAh รองรับชาร์จไว 33W
จุดสังเกต
- แบตเตอรี่อาจจะมีอาการไหลสักหน่อย
- ยังไม่รองรับ 5G (ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งาน)
สเปค Redmi Note 10 Pro
- หน้าจอ : 6.67 นิ้ว AMOLED ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) Dot Display อัตรารีเฟรชเรท 120Hz
- มิติตัวเครื่อง : 164 x 76.5 x 8.1 มม.
- น้ำหนัก : 193 กรัม
- CPU : Snapdragon 732G
- GPU : Adreno 618
- RAM : 6GB / 8GB (LPDDR4X)
- ROM : 64GB / 128GB
- รองรับ Micro-SD สูงสุด 512GB
- แบตเตอรี่ : 5,020mAh รองรับชาร์จไว
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 33W
- กล้องหลัง 4 ตัว
- กล้องหลัก 108MP f/1.9
- กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP f/2.2 องศารับภาพ 118 องศา
- กล้องมาโคร 5MP f/2.4
- กล้อง Depth 2MP f/2.4
- กล้องหน้า 16MP f/2.5
- รองรับการเชื่อมต่อ
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
- Bluetooth 5.1
- NFC
- พอร์ต USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบด้วย MIUI 12
- สี : Onyx Gray, Glacier Blue, Gradient Bronze
- ราคา
- 8,499 บาท (6/128GB)
- 8,999 บาท (8/128GB)
ภายในกล่อง
สำหรับภายในกล่องของ Redmi Note 10 Pro นั้นจะประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่อง Redmi Note 10 Pro
- อะแดปเตอร์ชาร์จ 33W
- สายชาร์จ USB Type-A to Type-C
- คู่มือการใช้งานและการ์ดรับประกัน
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เคสใส
*ไม่แถมหูฟังนะจ๊ะ
ว่ากันด้วยเรื่องดีไซน์
Redmi Note 10 Pro มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูสวยงาม มีความมันวาวพอตัว ต้องบอกก่อนครับว่าสีที่ผมได้มารีวิวในครั้งนี้คือสี Onyx Gray เป็นสีเทาไล่เฉดสีได้อย่างสวยงาม งานประกอบดี! ให้ความรู้สึกในการจับถือโดยรวมดีเลยทีเดียวแหละ!
ดีไซน์ของกล้องนั้น... ต้องบอกว่าถ้าคนที่ชอบก็จะชอบ คนที่ไม่ชอบก็จะไม่ชอบเลยครับ! ด้วยความที่กล้องนั้นมีความใหญ่โต นูนขึ้นมาประมาณนึงเลย และเป็นนูนแบบสองชั้นขั้นบันได
โดยที่การวางตำแหน่งกล้องนั้นก็จัดว่าเป็นระเบียบเรียบร้อย มีการวางตำแหน่งกล้องหลัก (ข้างบน) และกล้องอัลตร้าไวด์ (ข้างล่าง) อย่างเด่นชัด
ตัวกล้องนูนออกมาประมาณนึง แบบรู้สึกได้เลยแหละ!
สำหรับตัวเครื่องนั้นต้องบอกว่าหนักแค่ 193 กรัมเท่านั้น การสัมผัสจับถือถือว่าเข้ามือดีมาก แถมยังบางแค่ 8.1 มม. เท่านั้น จัดว่าบางใช้ได้เลยแหละ ทั้งๆ ที่ให้แบตเตอรี่มาถึง 5,020 mAh เลยนะ! จัดว่าบางเอาเรื่องอยู่ แต่ถึงจะบอกว่าบาง แต่ไม่ก๊องแก๊งนะครับ งานประกอบแน่นหนาใช้ได้เลย และที่สำคัญเป็นลำโพงคู่ สเตอริโอนะจ๊ะสำหรับรุ่นนี้!
รอบตัวเครื่อง
ด้านบนของตัวเครื่อง
- ช่องหูฟัง 3.5 มม.
- ลำโพง
- ไมโครโฟนตัดเสียง
- IR Blaster ใช้งานเป็นรีโมท
ด้านล่างของตัวเครื่อง
- ไมโครโฟนสำหรับสนทนา
- พอร์ต USB Type-C
- ลำโพงหลัก
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง
- ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot รองรับ 2 ซิม และสามารถใส่ micro-SD Card สูงสุดถึง 512GB
ด้านขวาของตัวเครื่อง
- ปุ่ม Power ที่เป็นสแกนลายนิ้วมือในตัว
- ปุ่มเพิ่มเสียง - ลดเสียง
หน้าจอ Redmi Note 10 Pro
Redmi Note 10 Pro มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.67" ให้ความละเอียดมาที่ FHD+ (1080x2400) ซึ่งเป็นจอแบบ AMOLED ที่ให้การแสดงผลที่สวยงาม เรียกได้ว่าเป็นจอ AMOLED ครั้งแรกในซีรีส์ Redmi Note เลยก็ว่าได้ครับ
และที่เด็ดไปกว่านั้น Redmi Note 10 Pro มาพร้อมกับอัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 120Hz ..ขุ่นพระ ยุคนี้สมาร์ทโฟนราคาไม่ถึงหมื่น ให้จอ 120Hz มาแล้วครับทุกท่าน! สุดมากจริงๆ และยังมี Touch Sampling Rate มากถึง 240Hz การสัมผัสทัชอะไรต่างๆนั้นคือ ลื่นไหลมากๆ ครับ
โดยที่หน้าจอนั้นมาเป็นแบบ Dot Display ที่เจาะรูกล้องเล็กๆ ไว้ตรงกลางด้านบนนี้ ซึ่งต้องบอกกันตรงๆ ว่า มันเล็กจริงๆ ไม่ขัดหูขัดตาแต่อย่างใด ให้ประสบการณ์การใช้จอที่ดีมากๆ เลย!
ประสิทธิภาพการใช้งาน
สำหรับเรื่องของประสิทธิภาพ ต้องบอกว่า Redmi Note 10 Pro ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Snapdragon 732G นั้น สามารถใช้งานพื้นฐานทั่วๆ ไป ได้อย่างสบายหายห่วงเลย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโซเชี่ยลต่างๆ ไถเฟซ เล่นไอจี ดูติ๊กต่อก ส่องทวิตเตอร์ อะไรต่างๆ คือไม่มีอาการหน่วงหรือกระตุกให้เห็นแต่อย่างใดเลย!
แถมด้วยความที่ได้จออัตรารีเฟรชเรท 120Hz มาด้วยต้องบอกว่าประสบการณ์ในการใช้งาน Redmi Note 10 Pro เครื่องนี้ มันดีมากๆ จริงๆครับ ไม่บอกราคานี่นึกว่าราคา 15k++ นะเนี่ย (ไม่ได้อวยนะ มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ)
ส่วนการใช้งานหนักขึ้นมาหน่อยอย่างการใช้เล่นเกม ที่ต้องดึงหน่วยประมวลผลมาใช้งาน รีดให้เต็มประสิทธิภาพนั้น ต้องบอกกันตรงๆครับว่า "ดีกว่าที่คิด" มากๆ อันนี้ส่วนตัวคือต้องพูดกันตรงๆ ด้วยความที่เราใช้ SNAP ซีรีส์ 8 ตัวท๊อปมาตลอดอะไรแบบนี้เนาะ เราก็แบบไม่ได้สนใจว่าตัวรุ่นรองลงมามันจะเป็นยังไงทำอะไรได้แค่ไหน!?
แต่พอได้สัมผัสกับซีรีส์ 7 ของ Snapdragon ก็ถึงกับต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เลยแหละ! คือจากการที่ได้เล่นมา อ้าวเฮ้ย! มันก็เล่นเกมได้ลื่นไหลนี่หว่า ก็ปรับสุดได้เหมือนกันนี่หว่า!? โอเคมันอาจจะไม่ได้ปรับสุดได้ถึงขั้น Ultra Extreme อะไรแบบนั้น แต่กราฟิกแบบสูง (High) อะไรแบบนี้ก็เพียงพอที่จะให้ประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีมากๆ แล้วครับ!
ROV เกม MOBA ยอดฮิตของเมืองไทย สามารถปรับตั้งค่า HD ตั้งค่ากราฟิก สูง เล่นได้บวกได้สุด! ไม่มีสะดุดแต่อย่างใด 59-60fps นิ่งๆ ตลอดทั้งเกมเลยครับ
CODm สำหรับเกมแนว First Person Shooting อย่าง Call of Duty Mobile นั้นก็ต้องบอกว่าปรับสูง เฟรมเรตสูง สามารถยิงได้ลื่นไหล ไม่ได้มีอาการเฟรมดรอปแต่อย่างใดครับ เลื่อนยิ่ง! เข้ามือมากๆ
ส่วน LoL Wildrift นั้นพีคที่สุดแล้ว เพราะสามารถปรับ Ultra ได้!? และสามารถเล่นลื่นไหลมากๆ 58-60 fps ตลอดทั้งเกมเลย สมกับเป็นเกมยุคใหม่ที่ทำการ Optimized มาได้ดีเลยครับ แต่ถ้าไม่ได้อยากได้ความสุดจัดอะไรขนาดนั้น เปิด High ก็เพียงพอแล้วครับ!
ส่วนเกม Asphalt 9 นั้นจากการที่ได้เล่นมา แอบสงสัยเล็กน้อย เพราะว่าไม่สามารถเล่นที่ 60fps ได้! ปรับกลาง ปรับต่ำก็แล้ว แต่จะเล่นได้อยู่ที่ 42-48fps ประมาณนี้เท่านั้นครับ ก็อาจเป็นเพราะปัจจัยอะไรต่างๆ อาจจะเป็นที่ตัวชิปเซ็ต หรือเป็นที่ตัวเกมฝั่งผู้พัฒนาที่ยังไม่สามารถรองรับชิปเซ็ตนี้ได้อะไรแบบนั้น ก็เป็นจุดสังเกตนึงนะครับ สำหรับคนที่จะซื้อไปเล่น Asphalt 9
แถมยังมีฟีเจอร์ Game Turbo ที่ช่วยให้การเล่นเกมของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย! ในส่วนนี้ เราสามารถปรับตั้งค่าได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการปิดการแจ้งเตือน ดูสถานะต่างๆของเครื่อง อัดหน้าจอ อะไรต่างๆ ล้วนสามารถทำได้ในหน้าจอของ Game Turbo เลย สะดวกมากๆครับ
แถมใครที่ชอบเล่นเกมแนว Idle ปล่อยบอทเก็บเวล หรือแนวปล่อยต่อสู้ออโต้กาชา เรายังสามารถเปิดหน้าต่างที่สองไปเล่นเกมไปได้ด้วย อันนี้ผมใช้มาแล้วมีประโยชน์อยู่นะ ยกตัวอย่างผมเปิด Princess Connect Re:Dive! ไว้ปล่อยต่อสู้ออโต้ไป แล้วเปิดกูเกิ้ลแมปนำทาง ก็สามารถทำได้ แจ๋วอยู่!
โดยรวมแล้ว Redmi Note 10 Pro นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องมากๆ ประสิทธิภาพสูง! ด้วยขุมพลัง Snapdragon 732G ที่ต้องบอกว่าทำได้ครอบคลุมมากๆ ใช้งานทั่วไปลื่นไหล ใช้งานหนักๆ เล่นเกมก็ทำได้ดีมากเลย! ปรับสูงได้ เล่นเกมได้ลื่นไหล ทำได้ดีกว่าที่คิดมากๆ เลยครับ!
แบตเตอรี่และความร้อน!?
สำหรับแบตเตอรี่ของ Redmi Note 10 Pro นั้นให้มาถึง 5,020 mAh ซึ่งถ้าดูกันตามสเปคแล้ว มันก็จัดว่าเยอะเลยทีเดียวครับ! แต่การใช้งานจริงตัวเลขจะเป็นอย่างไร มาสรุปให้ฟัง!
โดยการทดสอบในครั้งนี้ มีปัจจัยสิ่งแวดล้อมและการตั้งค่าดังนี้
- เปิดหน้าจอความสว่าง 50%
- เปิดเสียงลำโพงดัง 50%
- เปิดจอ 120Hz ตลอดการใช้งาน
- อุณหภูมิห้องปกติ 32-33 องศา
สำหรับเล่นเกมหนักๆ ROV/CODm/LoL WR เปิด Wifi ต่อเนื่องกัน 1 ชั่วโมงเต็ม แบตลดไป 13% ตัวเครื่องอุ่นเล็กน้อย
ส่วนการเปิด 4G นั้น แบตลดไป 17% ครับ แล้วก็เรื่องของอุณหภูมิรู้สึกว่าร้อนกว่า Wifi (แน่ล่ะ!) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้ร้อนจี๋อะไร เหมือนซีรีส์ 8 นะครับ! สบายใจได้ ให้ความรู้สึกแค่อุ่นๆ เท่านั้น (นี่ขนาดเล่นในห้องอุณหภูมิปกตินะ)
เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความร้อน ชาร์จก็ไว อยู่ได้ทั้งวัน! แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เอาจริงๆ การเปิดอัตรารีเฟรชเรท 120Hz เนี่ย ก็ทำให้แบตไหลไม่เบาเลยแหละ! สำหรับการใช้งานหนักๆ เปิด 4G 1 ชั่วโมงลดไป 17% เลยทีเดียว ก็อาจจะมีลุ้นๆ ว่าจะเต็มวันไหม สำหรับคนที่ใช้งานหนักๆ นะครับ
ส่วนเรื่องของการชาร์จ Redmi Note 10 Pro รองรับชาร์จไวที่ 33w กับแบตเตอรี่ขนาด 5,020 mAh ก็ต้องบอกว่ามันเร็วมากๆ แล้วครับ ความเร็วในการชาร์จจาก 0-100% จะประมาณนี้ครับ
- 30 นาที ชาร์จได้ 45%
- 45 นาที ชาร์จได้ 63%
- 1 ชั่วโมง ชาร์จได้ 78%
- ชาร์จเต็มจาก 0-100% ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 37 นาที
ประมาณนี้นะครับสำหรับเรื่องของแบตเตอรี่!
กล้องถ่ายรูปจัดเต็ม!
Redmi Note 10 Pro นั้นมาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปจัดหนักจัดเต็มถึง 4 ตัวด้วยกัน! ประกอบไปด้วย
- กล้องหลัก 108MP f/1.9
- กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP f/2.2 องศารับภาพ 118 องศา
- กล้องมาโคร 5MP f/2.4
- กล้อง Depth 2MP f/2.4
- กล้องหน้า 16MP f/2.5
เริ่มกันที่กล้องหลัก
กล้องหลักให้มาถึง 108 MP กันเลยทีเดียว เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มมากๆ แถมมาพร้อมกับเทคโนโลยี 9-in-1 binning technology ซึ่งเป็นการผสานพิกเซล 9 ต่อ 1 ทำให้รายละเอียดภาพครบถ้วนและชัดเจนมากๆ ครับ!
แต่ก็ถ้าให้พูดกันตรงๆ คาแรคเตอร์ ของกล้อง Redmi Note 10 Pro นั้น จะมีความคล้ายคลึง Mi 11 ซึ่งเป็นรุ่นท๊อปอย่างมาก ที่จะมีการขุดรายละเอียดขึ้นมาค่อนข้างชัดเจน และสีสันจะไม่ได้จัดจ้าน จะมีความหม่นๆ อยู่เล็กน้อย ที่เห็นชัดเลยคือตรงขอบภาพจะไม่ค่อยคมเท่าไหร่ จะชัดแค่ช่วงกลางภาพเท่านั้น ถ้าคนที่ชอบก็จะชอบเลย! แต่ถ้าคนที่ไม่ชอบก็จะไม่ชอบเลยเช่นเดียวกัน
มีโหมด 108MP คมชัดแบบสุดจัด เรียกได้ว่าถ้าเปิดขึ้นมาแล้วถ่าย สามารถนำไฟล์ไป Crop ทีหลังได้แบบความละเอียดคมชัดจัดเต็มมากๆ (พร้อมกับขนาดของภาพที่ใหญ่ขึ้นไประดับ 20Mb++ เช่นกัน)
สามารถใช้ Digital Zoom ได้ถึง 10x แต่เอาจริงๆ ใช้สักไม่เกิน 2x-3x จะให้รายละเอียดภาพที่ดีที่สุดครับ!
กล้องอัลตร้าไวด์
สำหรับกล้องอัลตร้าไวด์นั้นทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว! องศารับภาพที่ 118 องศา อาจจะไม่ได้กว้างที่สุด แต่การใช้งานจริงนั้น รายละเอียด ความคมชัดมาครบมากๆ! แถมยังเป็นอัลตร้าไวด์ที่ขอบและมุมภาพไม่บิดเบี้ยว ไม่เกิดอาการ Distortion ด้วย ซึ่งกล้องตัวนี้ทำได้ดีมากๆ เลยครับ!
ลองมาเปรียบเทียบองศารับภาพกันสักหน่อยระหว่างกล้องหลักและกล้องอัลตร้าไวด์
กล้องมาโคร ที่โคตรแจ่ม!
จัดว่าเด็ด! สำหรับกล้องมาโครใน Redmi Note 10 Pro คือจากสเปค เราก็คิดว่า เออ.. มันก็เลนส์มาโครน่ะแหละ เข้าใกล้ได้ประมาณนึง คุณภาพก็คงเฉยๆ แต่จากที่ได้ลองใช้จริงต้องบอกว่า ถึงขั้นล้มล้างความคิดที่เคยเกิดขึ้นไปเลยครับ! คือคุณภาพกล้องมาโครเค้าแจ่มมาก!
เพราะว่าเค้ามาพร้อมกลับกำลังขยาย 2 เท่า! หมายความว่าเราสามารถเข้าใกล้ได้ระยะปกติทั่วไปแหละ 3-5 เซนติเมตร แต่ว่ามันซูมมากขึ้น เท่ากับว่าเราเข้าใกล้ได้มากขึ้นนั่นเอง!
แถมคุณภาพคือแบบ คมกริบ รายละเอียดมาครบ ถ่ายสนุกมากๆ เลยครับสำหรับกล้องมาโครตัวนี้!
กล้อง Depth
สำหรับการใช้ Depth Sensor ไปถ่ายโหมด Portrait หรือภาพถ่ายบุคคลนั้น ก็ต้องบอกว่าการตัดขอบ การทำหน้าชัดหลังเบลอ ทำได้ดีเป็นมาตรฐานของสมาร์ทโฟนยุคนี้เลย เราสามารถปรับตั้งค่าได้หลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น f stop ที่ทำให้ฉากหลังนั้นมีความละลายมากขึ้นก็ทำได้ครับ!
ฟีเจอร์การถ่ายภาพ!
Redmi Note 10 Pro นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์การถ่ายภาพ เรียกได้ว่า สืบทอดพลังไททันมาจากรุ่นพี่อย่าง Mi 11 เลยก็ว่าได้ หน้าตา UI ลูกเล่นอะไรต่างๆ สืบทอดมาเรียกได้ว่าครบเลยแหละ!
ฟิลเตอร์มีให้เลือกเล่นแบบหลากหลายมากๆ ถ่ายรูปสนุกสุดๆ แต่ที่ชอบที่สุดเลยก็คือการเปลี่ยนท้องฟ้า จากวันที่หม่นหมองเป็นสีพาสเทลก็สามารถทำได้! โคตรโกง!!
ถ่ายกลางคืน Night Mode 2.0 ทำได้ดีทีเดียว เพราะสถานที่จริงคือมืดแบบมากจริงๆ ขุดรายละเอียดขึ้นมาในระดับนี้ได้ก็ถือว่าผ่านแล้วครับ!
กล้องหน้า 16MP ก็แจ่มอยู่นะ!
ตอนแรกที่เห็น Dot Display กล้องเล็กๆ แบบนี้ ก็แอบคิดในใจ แอบสงสัยว่ามันจะทำออกมาได้ดีไหมนะ!? แต่ตอนนี้ความเคลือบแคลงใจนั้นได้หายไปแล้วครับ เห็นรูกล้องเล็กๆ แบบนี้ ประสิทธิภาพเค้าเอาเรื่องอยู่นะ! โหมด Beauty ก็คือทำได้ค่อนข้างเนียนตาเลย ช่วยกลบผิวได้ดีเลยครับในจุดนี้
ถ่ายโหมด Portrait ถ่ายคนก็สามารถทำหน้าชัดหลังเบลอได้ ซอฟต์แวร์เค้าฉลาด แล้วก็จัดการขอบได้ดีประมาณนึงเลยแหละ!
การถ่ายวิดีโอ
สามารถรองรับการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดถึง 4K 30fps (เฉพาะกล้องหลักเท่านั้น) ส่วนความละเอียดปกติจะได้ที่ 1080p fps ครับผม
สำหรับการถ่ายวิดีโอนั้นจะมีในส่วนของการกันสั่นมาให้ด้วย เป็น Steady Video ซึ่งเป็นการใช้ EIS เพิ่มความนิ่งให้กับวิดีโอ ซึ่งต้องบอกว่าตรงนี้เนี่ย พอเปิดปุ๊บ วิดีโอนิ่งขึ้นทันทีเลย!
ส่วนกล้องหน้านั้น ถ้าสามารถถ่ายได้ที่ 1080p 30fps นะครับ ตรงนี้ก็ไม่ได้ติดใจอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าเราดันถ่ายวิดีโอแล้วเปิดโหมด เปิดฟิลเตอร์หน้าเนียนใส ฟรุ้งฟริ้งอะไรแบบนั้น ก็จะถูกลดความละเอียดเหลืออยู่ที่ 720p 30fps เท่านั้น ...อะไรครับเนี่ย!? มาตายเอาตรงนี้แหละ! แต่ถ้าใครไม่ได้ซีเรียสใช้กล้องหน้าถ่ายวิดีโอเป็นหลักอะไรอยู่แล้ว ก็ไม่ติดนะครับเอาจริงๆ
แถมยังมีลูกเล่นให้เล่นเยอะมากมาย ถอดฟีเจอร์มาจากรุ่นพี่อย่าง Mi11 แม้ในโหมดวิดีโอ!
สรุปการใช้งาน!
ต้องพูดกันตรงๆ ครับว่า ณ ชั่วโมงนี้ สมาร์ทโฟนราคาต่ำหมื่น คงไม่มีเจ้าไหน รุ่นไหนที่ให้ฟีเจอร์มาเยอะแยะขนาดนี้ เหมือนกับ "Redmi Note 10 Pro" ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของหน่วยประมวลผล Snapdragon 732G ที่แรงเอาเรื่องอยู่ อาจจะไม่ใช่รุ่นท๊อป แต่ความสามารถระดับนี้เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ! (แต่ยังไม่ได้ใช้ 5G นะ) แถมกล้องยังให้มาจุใจถึง 5 ตัวรวมกล้องหน้า ถ่ายได้ดีทุกเลนส์ทุกระยะ ถ่ายสนุกมาก! โดยเฉพาะกล้องมาโคร! แจ๋วจริงๆ
จอ AMOLED อัตรารีเฟรชเรทที่ 120Hz เรียกได้ว่าใช้งานกันเพลินๆ ครับ เลื่อนไถฟีดอะไรคือสบายตามาก! แถมแบตเตอรี่ก็ให้มา 5,020 mAh ใหญ่จุใจทีเดียว (แต่ถ้าเปิด 120Hz ตลอดก็จะมีอาการไหลๆ ของแบตบ้าง) แต่ก็ทดแทนด้วยการรองรับชาร์จเร็ว 33W เอาเป็นว่าเหลือๆ แล้วครับ!
ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางที่จัดหนักจัดเต็มจริงๆ ครับ ในราคาเริ่มต้น 8,499 บาทนั้น หาคู่แข่งที่ทัดเทียมยากจริงๆครับ! มันคุ้มค่าคุ้มราคาเสียจริงๆ
Redmi Note 10 Pro จำหน่าย 2 รุ่นย่อยด้วยกัน
- Redmi Note 10 Pro รุ่น 6/128GB ราคา 8,499 บาท
- Redmi Note 10 Pro รุ่น 8/128GB ราคา 8,999 บาท
เริ่มวางขายมาสักพักแล้ว สามารถไปจับจองเป็นเจ้าของกันได้เลย! มี 3 สีให้เลือกด้วยกัน
- Onyx Gray (สีเครื่องรีวิวในครั้งนี้)
- Glacier Blue
- Gradient Bronze
สำหรับรีวิว Redmi Note 10 Pro ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ครับ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สัญญาว่าจะไม่ดองงาน แฮร่~ สวัสดีครับ!
//นายเป้ไงจะใครล่ะ