หลังจากในงานเปิดตัวของ Apple หลายครั้งที่ผ่านมาเกิดขึ้นโดยไม่มีการเปิดตัว Apple AirTag สักที และในที่สุด Apple ก็เปิดตัวอุปกรณ์ติดตามสุดสมาร์ทแล้วครับ
Apple AirTag เป็นเครื่องติดตามขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ในตัวเพื่อสื่อสารตำแหน่งไปยังแอป Find My ของ Apple บอดี้ถูกสร้างขึ้นให้ทนน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 มีลำโพงในตัว และใช้แบตเตอรี่มาตรฐาน CR2032 ที่ผู้ใช้สามารถหาซื้อเปลี่ยนได้เองง่ายๆ ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป โดยสามารถใช้งานได้นานกว่าหนึ่งปี
การทำงานของ AirTag จะเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Find My ของ Apple บน iPhone 11 และ 12 ซีรีส์ ซึ่งจะแสดงตำแหน่งสุดท้ายที่อุปกรณ์สามารถตรวจจับได้บนแผนที่ขณะที่กำลังอยู่ในช่วงบลูทูธ โดยคุณสามารถสั่งให้อุปกรณ์ส่งเสียงโดยใช้โทรศัพท์หรือ Siri ได้
ซึ่งหาก AirTag ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ก็ยังสามารถติดตามได้โดยใช้ชิป U1 ในตัว และเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ร่วมกัน ที่ Apple เรียกสิ่งนี้ว่า Precision Finding และใช้อินพุตจากกล้อง, ARKit, accelerometer และ gyroscope ร่วมกัน และคุณจะได้รับการตอบสนองจากแท็กด้วยการผสมผสานกันระหว่าง เสียง การสัมผัส และการตอบสนองด้วยภาพ
นอกจากนี้คุณสามารถตั้งให้ AirTag อยู่ในโหมดสูญหาย โดยหากอุปกรณ์อยู่ในระยะของ iPhone เครื่องอื่น ด้วยแอพ Find My (ในประเทศที่รองรับเครือข่าย Find My และไม่จำกัดระบบ Ultra Wideband) ระบบจะแจ้งข้อมูลการติดต่อของคุณ เช่นเดียวกับ Galaxy SmartTag+ ของ Samsung ซึ่ง AirTag สามารถใช้โทรศัพท์เครื่องอื่นเพื่ออัปเดตตำแหน่งได้โดยไม่ระบุตัวตน และปลอดภัยกับผู้ใช้งานได้
นอกจากนี้ Apple ยังเปิดตัวอุปกรณ์เสริมมากมายสำหรับ AirTag เช่น ห่วงโพลียูรีเทน ห่วงหนัง และพวงกุญแจหนัง และมีสินค้าแบบ exclusive อย่าง AirTag Hermes Edition สุดพิเศษที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ และเครื่องหนังที่ทำด้วยมือ เช่น Bag Charm, Key Ring, Travel Tag และ Luggage Tag โดยผู้ใช้ยังสามารถเลือกรูปแกะสลักหรือมีอีโมจิบน AirTag ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย
Apple AirTag จะวางจำหน่ายในวันที่ 30 เมษายน โดยอุปกรณ์ชิ้นเดียวจะมีราคา 990 บาท แต่คุณสามารถซื้อ 4 ชิ้น ได้ในราคา 3,390 บาท
source: apple