มีรายงานที่น่าสนใจจาก Apple ระบุว่าการตัดสินใจหยุดรวมอะแดปเตอร์จ่ายไฟในกล่องของผลิตภัณฑ์ เช่น iPhone 12 Series นั้นช่วยประหยัดการใช้ทองแดง สังกะสี และดีบุกได้ถึง 861,000 ตัน นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กลง ทำให้บริษัทสามารถจัดส่งอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นกัน โดยแท่นวางสินค้าแต่ละชิ้นสามารถบรรทุก iPhone 12 ได้มากขึ้นถึง 70 เปอร์เซ็นต์ตามข้อมูลของ Apple

ข้อมูลนี้ Apple ได้อ้างสิทธิ์ไว้ในรายงานความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อมปี 2021 ซึ่งครอบคลุมปีงบประมาณ 2020 ปีที่แล้ว โดย Apple สามารถลดการปล่อย CO2 จาก 25.1 ล้านตันในปี 2019 จนเหลือ 22.6 ล้านตันในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังลดการใช้พลังงานลง 13.9 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงอีกด้วย

นอกจากนี้ในรายงานยังระบุถึงการทำงานที่ Material Recovery Lab ของ Apple ในเท็กซัส ในการกู้คืนวัสดุจากอุปกรณ์เก่า เช่น ธาตุหายาก เหล็ก และทังสเตนจากไอโฟนรีไซเคิล โดย Apple กล่าวว่าในส่วนประกอบหนึ่งตันที่หุ่นยนต์ถอดชิ้นส่วนชื่อ Daisy นำออกจาก iPhone นั้นมีทองคำ และทองแดงมากถึง 150 เมตริกตันของแร่ที่ขุดได้

ในส่วนของชิป M1 ของ Apple ก็ถูกออกแบบให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นเช่นกัน และบริษัทกล่าวว่าการใช้โปรเซสเซอร์ใน Mac Mini ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยรวมของระบบลง 34 เปอร์เซ็นต์ ในขณะเดียวกัน เนื่องจากส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนไปใช้อะแดปเตอร์จ่ายไฟที่ประหยัดพลังงานมากขึ้นของ iPad รุ่นที่ 8 นั้นใช้พลังงานน้อยกว่าเกณฑ์การจัดระดับ Energy Star ถึง 66 เปอร์เซ็นต์ และทาง Apple อ้างว่าในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา Apple ได้ลดการใช้พลังงานโดยเฉลี่ยในผลิตภัณฑ์ของตนลงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์

ความพยายามดังกล่าวขยายไปถึงซัพพลายเชนของ Apple ซึ่งซัพพลายเออร์มากกว่า 110 รายมุ่งมั่นที่จะใช้พลังงานสะอาด และในเดือนธันวาคม กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของซัพพลายเออร์ได้ติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อย F-GHG ที่เชื่อมโยงกับแผงจอแสดงผลมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

รายงานดังกล่าวยังกล่าวถึงโครงการริเริ่มบางอย่าง ที่เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เช่น ศูนย์ข้อมูลของ Apple ที่ดำเนินการผลิตไฟฟ้าทดแทนมาเป็นเวลานาน และการลงทุนล่าสุดกว่า 200 ล้านดอลลาร์เพื่อกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศ ผ่านการดักจับคาร์บอน

ดูแล้วก็เป็นข้อมูลที่ดีของ Apple ในการดูแลสิ่งแวดล้อมครับ ซึ่งเชื่อว่าอาจมีบางคนที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่บริษัทนำที่ชาร์จออก แต่ก็ถือว่าเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา Climate Change เพื่อโลกของเราครับ

source: engadget