สวัสดีเพื่อนๆ TechXcite ทุกคนนะคะ กู๊ดดรีม TechXcite วันนี้มีอีกหนึ่งมือถือเรือธงจาก OPPO อย่าง OPPO Find X3 Pro 5G มาแกะกล่องพรีวิวให้ทุกคนได้อ่านกัน หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าปัจจุบัน Find Series อยู่คู่กับ OPPO มามากถึง 10 ปีแล้วนะ ซึ่งที่ผ่านมา Series นี้มักจะมาพร้อมกับนวัตกรรมที่โดดเด่นและเป็นผู้นำสมาร์ทโฟนในหลายด้านทีเดียว และแน่นอนว่าในรุ่นนี้ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังกับการประมวลผลที่สามารถถ่ายภาพและแสดงผลภาพได้ถึงหนึ่งพันล้านสีครั้งแรกของโลก!!
นอกจากนี้ยังมีอาวุธลับที่ทำเอาตื่นตะลึงไปทั่วทั้งวงการกับเลนส์ไมโครที่สามารถถ่ายภาพได้ในระดับกล้องจุลทรรศน์ด้วยคุณภาพเยี่ยม!! แล้วยังมีความน่าสนใจอีกมากมาย จะมีอะไรบ้างนั้นเรามาแกะกล่องไปพร้อมๆ กันเลย
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
- เครื่อง OPPO Find X3 Pro 5G
- อแดปเตอร์ชาร์จ
- สายชาร์จ USB-C
- เคสนิรภัย
- VIP Card
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดซิม
ในกล่องด้านในมีบัตร OPPO VIP card พร้อมกับคู่มือการใช้งานและเข็มจิ้มถาดซิมใส่อยู่ในกล่องเดียวกัน
นอกจากนี้ในกล่องก็ยังมีอแดปเตอร์ชาร์จ 65W SuperVOOC 2.0 ใส่มาให้พร้อมกับสายชาร์จ USB-C อีกด้วย อุปกรณ์ในกล่องถือว่าให้มาครบครันเลยทีเดียว
ดีไซน์
มาเริ่มกันที่ดีไซน์หน้าจอของตัวเครื่องกันก่อนเลย OPPO Find X3 Pro 5G ให้ขนาดหน้าจอมาอยู่ที่ 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ QHD+ และความพิเศษของหน้าจอคือรูปแบบการประมวลผลที่แสดงสีถึง 1 พันล้านสี! ซึ่งมันทำให้หน้าจอนั้นมีสีสันที่สดใสสวยงามสมจริง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี True Adaptive 120Hz เพื่อใช้งานหน้าจอได้ไหลลื่นและประหยัดพลังงานไปในตัวด้วย ส่วนกล้องหน้าเป็นแบบเจาะรูเล็กๆ ที่มุมซ้ายของตัวเครื่อง
ในส่วนของฝาหลังนั้นบอกเลยว่าแรกเห็นคือสวยมากๆ มีความเรียบง่ายแต่ดูพรีเมี่ยม ดีไซน์มีความโค้งมนจับได้ถนัดมือ และที่สำคัญคือฝาหลังที่ถูกออกแบบมาแบบไร้รอยต่อ โมดูลกล้องเป็นพื้นผิวเดียวกับฝาหลังที่โค้งนูนขึ้นมาเป็นตำแหน่งของกล้องหลัง 4 ตัว เขามีด้วยกันทั้งหมด 2 สีคือสีน้ำเงินตัวนี้มีชื่อสีว่า Blue ง่ายๆและอีก 1 สีคือ Gloss Black จะเป็นสีดำที่มีความเงาวาว สวยแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ทั้งสองสีเลย
ลักษณะของฝาหลังสีน้ำเงินที่ดรีมได้มาพรีวิวตัวนี้ เป็นพื้นสัมผัสแบบด้าน ไม่ติดรอยนิ้วมือเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะคราบมันใดๆ ไม่ปรากฏรอยที่ฝาหลังเลย ตรงนี้ประทับใจมากๆ ดูเผินๆเหมือนออกแบบมาเรียบง่ายแต่จริงๆแล้ว มีความใส่ใจในรายละเอียดมากกว่าที่คิด
มาดูปุ่มการใช้งานต่างๆกันบ้าง เริ่มกันที่ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของปุ่ม power เพื่อเปิดปิดเครื่อง ด้านในปุ่มเป็นสีเขียวสอดแทรกอยู่ด้านในเป็นเอกลักษณ์ ส่วนอีกฝั่งด้านซ้ายเป็นปุ่มเพิ่ม-ลด เสียง
มาดูที่ฐานเครื่องกันบ้างเป็นตำแหน่งของถาดซิม รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบหน้าหลัง ไม่สามารถเพิ่ม micro SD ได้ และแน่นอนว่ารองรับซิม 5G ด้วย ถัดมาเป็นพอร์ตชาร์ต USB-C ลำโพง 1 ฝั่ง โดยตัวเครื่องนั้นได้รับมาตรฐาน IP68 กันน้ำกันฝุ่นได้ ระดับน้ำกระเซ็นหรือสามารถจมอยู่ใต้น้ำจืดได้ 1.5 เมตรเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น จัดว่ามีความทนทานพอสมควรเลย
โดยรวมเรื่องดีไซน์การจับถือนั้นค่อนสะดวก การออกแบบมีความโค้งมนกระชับเข้ากับอุ้งมือดีมากด้วยดีไซน์บางเบาน้ำหนักเพียงแค่ 193 กรัมเท่านั้น พกพาใช้งานง่ายแถมไม่ติดรอยนิ้วมือและคราบมันต่างๆ อีกด้วย ออกแบบมาได้ดีมากเลย
กล้อง
มาต่อกันที่เรื่องกล้องของ OPPO Find X3 Pro 5G ให้กล้องหลังมาด้วยกันทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน แต่ความพิเศษก็คือ ก็ต้องหลักสองตัวที่มาพร้อมความละเอียด 50MP ซึ่งเป็นเลนส์ Sony IMX766 พี่ OPPO ร่วมพัฒนากับ Sony สามารถจับโฟกัสได้แม่นยำขึ้น รวดเร็วและฉลาดขึ้นกว่าเดิม
- Wide-angle 50MP พร้อมเซ็นเซอร์ IMX766
- Ultra-wide-angle 50MP พร้อมเซ็นเซอร์ IMX766
- Microlens 3MP กำลังขยายสูงสุด 60x
- Telephoto 13MP
และนอกจากหน้าจอที่ให้การแสดงผลสีสันมากถึงหนึ่งพันล้านสีแล้ว กล้องของ OPPO Find X3 Pro 5G ก็ยังรองรับระบบการประมวลผลได้ถึงหนึ่งพันล้านสีเช่นเดียวกัน โดยเป็นอัลกอริธึมการถ่ายภาพพื้นที่จัดเก็บ 10-bit HEIF และการปรับแต่งภาพที่สามารถรองรับสีได้ถึง 1 พันล้านสีเมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน จะให้ผลลัพธ์คุณภาพไฟล์ที่ยอดเยี่ยม นับว่าเป็นการสร้างสีสันที่ดีที่สุดบนสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว
ฟังก์ชั่นกล้อง
- DOL HDR สามารถเก็บ HDR ได้ดีกว่าปกติ มีการซ้อนภาพเพื่อเก็บรายละเอียดของความคมชัดและรายละเอียดที่ดีกว่า
- RAW+ สามารถถ่ายภาพไฟล์ RAW ที่เหนือกว่า RAW ทั่วไป สามารถปรับ Range ได้ดีกว่า เก็บรายละเอียดมากกว่า สามารถนำไปปรับแต่งเพิ่มเติมได้อย่างไร้ขีดจำกัด
- สามารถถ่ายวีดีโอ 4K /HDR/ LOG /BT2020/OIS+EIS/ Manual Control
ประสิทธิภาพ
OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อมขุมพลังชิปเซ็ต Snapdragon 888 รองรับ 5G ให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 35 เปอร์เซ็นต์แล้วยังประหยัดพลังงานกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ทำงานควบคู่กับ GPU Adreno 660 และ RAM 12GB LPDDR5 พร้อมความจุ 256GB UFS3.0 สามารถเล่นเกมได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่ต้องกังวลเรื่องความหน่วงและอาการเฟรมดรอปเลยล่ะ
สเปคการใช้งาน
- หน้าจอ Amoled 6.7 นิ้ว QHD+
- Refresh Rate 120Hz 240 Touch Sampling 10Bit
- หน้าจอ 10bit แสดงผล 1,000,000,000 สี รองรับ HDR10+
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 888 รองรับ 5G
- แรม 12GB LPDDR5
- ความจุ 256GB UFS3.0
- แบตเตอรี่ 4500mAh
- รองรับชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0
- กล้องหน้า 32MP
- กล้องหลัง 4 ตัว
- Wide 50MP
- Ultra Wide 50MP
- Microlens 60x 5MP
- Telephoto 13MP
- กันน้ำ IP68
- รัน Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 11.2
แบตเตอรี่
OPPO Find X3 Pro 5G ให้ปริมาณแบตเตอรี่มาอยู่ที่ 4500 mAh ที่รองรับความเร็วในการชาร์จสูงถึง 65W SuperVOOC 2.0 แบบชาร์จผ่านสาย 30W AirVOOC Wireless Flash Charger สำหรับการชาร์จไวแบบไร้สาย และ 10W Reverse Wireless Charging เพื่อการชาร์จให้อุปกรณ์อื่นๆ
สรุปหลังลองจับ
แรกสัมผัสประทับใจในเรื่องความสวยงามของดีไซน์ น้อยแต่มากที่แท้จริง การออกแบบค่อนข้างพิถีพิถันบางเบา การใช้งานจับถือคล่องตัวดี ในเรื่องของหน้าจอที่นับว่าเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ ให้ความคมชัดสีสันสดใสเนียนตาไม่ผิดหวังสมกับความเป็นหน้าจอ 10 bit ซึ่งรุ่นนี้ไม่ใช่แค่หน้าจอที่แสดงผลถึง 1 พันล้านสีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกล้องที่สามารถถ่ายและประมวลผลได้มากถึงหนึ่งพันล้านสีเช่นเดียวกัน ให้คุณภาพไฟล์ที่มีความละเอียดสูงสุด
ในเรื่องของสเปคก็จัดตัวท็อปกันมาแบบเน้นๆ ทั้ง Snapdragon 888 และการรองรับความเร็วในการชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 ส่วนคุณภาพไฟล์และรายละเอียดลงลึกหลังจากนี้ ต้องรอติดตามกันในรีวิวเต็ม เร็วๆนี้
Promotion
สำหรับคนที่สั่งจองล่วงหน้าในวันที่ 1 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ถึง 17 มีนาคม 2564 เวลา 23.59 น. รับของสมนาคุณสุดพิเศษ Exclusive Blind Booking มูลค่ารวม 19,497 บาท
- OPPO AirVOOC Wireless Charger 45W
- KEVLAR Case
- Premium Card
เริ่มยืนยันสิทธิ์ผ่านทางอีเมลตั้งแต่วันที่18 - 23 มีนาคม และสามารถรับเครื่องได้ในวันที่ 27 มีนาคม ตั้งแต่ 10.00 น. – 17.00 น. ที่ลาน Atrium 3 ชั้น 3 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
เท่านั้นยังไม่พอ!! รับหูฟังไร้สาย OPPO Enco X หูฟังแฟล็กชิพที่สร้างสรรค์ร่วมกับ Dynaudio เพื่อมอบประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุดที่มาพร้อมคุณสมบัติมากมายไปอีกตัวด้วย!!
- ระบบเสียง DBEE 3.0 Sound System
- การส่งผ่านแบบไร้สาย LHDC™
- ระบบลดเสียงรบกวนที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ 4 รูปแบบ
- ระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่นานถึง 25 ชั่วโมงเมื่อชาร์จในเคสชาร์จเพียงครั้งเดียว
ดีไซน์เรียบหรูน่าใช้งาน พกพาสะดวกแถมยังกันน้ำ กันฝุ่น IP54 ใส่ออกกำลังกายกันเหงื่อได้สบายเลย ใครสนใจพลาดไม่ได้เลยเพราะเขาแถมฟรีไปให้สำหรับผู้ที่สั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น นอกจากจะได้เป็นเซ็ต Exclusive Blind Booking แล้วยังรับ OPPO Enco X ไปใช้งานกันอีกฟรีๆ พลาดไม่ได้แล้ว! ส่วนราคาวางจำหน่ายของ OPPO Find X3 Pro 5G รอติดตามกันในวันที่ 18 มีนาคมนี้!