หาก Apple เดินหน้าโครงการรถยนต์ไฟฟ้า EV จริง ทางด้าน Volkswagen หรือ VW อาจไม่กังวลกับเรื่องนี้มากนักครับ โดยตามรายงานของรอยเตอร์ นาย Herbert Diess หัวหน้าของ VW ให้สัมภาษณ์ว่า บริษัท "ไม่กลัว" รถ Apple เลย เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ใช่ภาคเทคโนโลยีที่คุณสามารถเข้าครอบครองได้ในจังหวะเดียว ไม่ว่า Apple จะนำอะไรมาสู้ก็ตาม เขาเชื่อว่าจะไม่สามารถครองตำแหน่งได้ในแบบ "ชั่วข้ามคืน" แน่นอน
Diess กล่าวว่า มันก็ดูจะสมเหตุสมผลดีสำหรับ Apple ที่จะลงสู่สนามเนื่องจากมีทักษะด้านแบตเตอรี่ การออกแบบ และซอฟต์แวร์ที่ดี โดยตามข่าวลือก่อนหน้านี้บอกว่า Apple กำลังวางเดิมพันด้วยการออกแบบแบตเตอรี่ที่ "ล้ำหน้า" ซึ่งจะทำให้ได้ระยะทางการวิ่งที่มากกว่า อาจจะปลอดภัยกว่าเช่นกัน และอาจเน้นด้านจริยธรรมมากขึ้นด้วยการเลิกใช้โคบอลต์ (ซึ่งมีข้อโต้แย้งกันอยู่ตอนนี้ครับ เนื่องจากบางครั้งขุดโดยใช้แรงงานเด็ก) รวมถึงยังมีเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ LiDAR และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่สนับสนุนการขับขี่ด้วยตนเอง หรือ autonomous ไร้คนขับได้
ภาพจาก Ralph Orlowski / REUTERS
อย่างไรก็ตาม Apple เผชิญกับอุปสรรคมากมายในการนำรถยนต์เข้าสู่การผลิต ซึ่งนอกจากจะเจอความท้าทายในการสร้าง EV ขั้นสูงที่มีอิสระแล้ว ยังต้องจัดหาพันธมิตรเพื่อผลิตรถยนต์ หรือส่วนประกอบด้วยตัวเอง ซึ่งทางฮุนไดได้บอกแล้วว่าจะไม่พูดคุยกับ Apple เกี่ยวกับการรวมทีมอีกต่อไป และอย่างไรก็ตามเป้าหมาย Apple Car ในปี 2024 ที่รายงานไว้ยังคงอยู่ห่างออกไปหลายปี และเทคโนโลยีใดๆ ที่ปฏิวัติวงการในตอนนั้นก็อาจจะมีน้อยลงแล้ว
และถ้ายังจำกันได้ ตอนนี้ Apple มีข่าวว่าจะเปิดตัวมือถือใหม่ๆ ในตอนนั้นทาง CEO ของ Palm เคยพูดคล้ายกับ VW เหมือนกันครับ คือประมาณว่า "ในตลาดมือถือมันไม่ใช่ของง่ายๆ ที่ใครจะมาลุยได้ง่าย" ซึ่งตอนนี้คงไม่ต้องบอกนะครับว่า Palm เป็นอย่างไร เพราะเท่าที่เห็น Apple ในปัจจุบันลงตลาดไหน ก็ค่อนข้างสร้าง impact ได้พอสมควรทีเดียว และแม้ว่า VW จะมีเทคโนโลยี Electric Vehicles ดีกว่า Palm ที่รู้เรื่องสมาร์ทโฟนมากเพียงใด ก็น่าสนใจว่าเมื่อ Apple Car เปิดตัวแล้ว ระหว่าง Apple หรือ VW จะอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่ากัน
source: engadget