Apple เปิดตัว AirPods Max นวัตกรรมหูฟังไร้สายที่นำความมหัศจรรย์ของ AirPods มาสู่ดีไซน์แบบครอบหู พร้อมคุณภาพเสียงที่คมชัด AirPods Max ผสานดีไซน์แบบอคูสติกที่ได้รับการปรับแต่งเข้ากับ ชิพ H1 และซอฟท์แวร์อันล้ำสมัย เพื่อเสริมพลังของระบบเสียงที่ได้รับการประมวลผล มอบสุดยอดประสบการณ์การฟังด้วย EQ แบบปรับแต่งได้ เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน โหมดฟังเสียงภายนอก และระบบเสียงตามตำแหน่ง AirPods Max มีห้าสีสวยให้เลือกได้แก่ สีสเปซเกรย์, สีเงิน, สีสกายบลู, สีเขียว และ สีชมพู
“AirPods เป็นหูฟังที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ด้วยความง่ายในการตั้งค่า คุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยม และดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ AirPods Max นำความมหัศจรรย์ของ AirPods มาสู่ดีไซน์แบบครอบหูที่สวยงาม พร้อมคุณภาพเสียงที่คมชัด” Greg Joswiak รองประธานอาวุโส ฝ่ายการตลาดทั่วโลกของ Apple กล่าว “AirPods Max ผสานดีไซน์แบบอคูสติกที่ได้รับการปรับแต่งเข้ากับ ชิพ H1 และซอฟท์แวร์อันล้ำสมัย เพื่อเสริมพลังของระบบเสียงที่ได้รับการประมวลผล มอบสุดยอดประสบการณ์การฟังเพลงส่วนบุคคลแบบไร้สาย”
AirPods Max มาพร้อม ที่ครอบหูหุ้มด้วยผ้าทอที่ระบายอากาศได้ดี สายคาดที่ยืดได้ ช่วยกระจายนำ้หนักและลดการกดทับ AirPods Max มาในสีสเปซเกรย์, สีเงิน, สีสกายบลู, สีเขียว และ สีชมพู
ดีไซน์แบบอคูสติกที่ได้รับการปรับแต่ง
จากที่ครอบหูจนถึงโฟมนุ่ม ทุกชิ้นส่วนของ AirPods Max ได้รับการผลิตด้วยความใส่ใจเพื่อมอบคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ใช้งานแต่ละคน ที่ครอบหูหุ้มด้วยผ้าทอที่ระบายอากาศได้ดี สายคาดที่ยืดได้ ช่วยกระจายนำ้หนักและลดการกดทับ กรอบสแตนเลสสตีลของสายคาดเพิ่มความแข็งแรง ยืดหยุ่น และสวมใส่สบายสำหรับศรีษะหลากรูปทรงและขนาด สายคาดแบบปรับระยะได้ช่วยให้สวมใส่สบายและกระชับ
ที่ครอบหูแต่ละข้างที่ติดอยู่กับสายคาดใช้กลไกที่ปฏิวัติวงการสร้างความสมดุลและกระจายแรงกด สามารถปรับให้เข้ากับรูปทรงของศรีษะของผู้ใช้แต่ละคน ที่หุ้มผลิตจากโฟมนุ่มที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เก็บเสียงได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการมอบเสียงที่เต็มอิ่มสมจริง Digital Crown ได้รับแรงบันดาลใจจาก Apple Watch ช่วยให้ควบคุมระดับเสียงได้อย่างแม่นยำ สามารถใช้สั่งให้เล่น หรือหยุด ข้ามแทร็ค รับ หรือวางสายโทรศัพท์ รวมทั้งสั่งงาน Siri ได้
ประสบการณ์การฟังที่เหนือชั้น
AirPods Max ใช้ไดร์เวอร์แบบไดนามิกขนาด 40 มิลลิเมตรที่ออกแบบโดย Apple ให้เสียงที่เต็มอิ่ม เบสที่ลึก เสียงกลางที่ถูกต้อง คมชัด เสียงในช่วงความถี่สูงที่ชัดเจน จึงได้ยินครบทุกตัวโน้ต มอเตอร์วงแหวนแม็กเน็ตนีโอไดเนียมคู่ที่ไม่เหมือนใครช่วยให้ AirPods Max มีโอกาสเกิดเสียงเพี้ยนน้อยกว่า 1 เปอร์เซนต์ในทุกระดับเสียง แม้เปิดเสียงดังสุด1 ในหูฟังแต่ละข้างประกอบด้วยชิพ H1 ที่ออกแบบโดย Apple มาพร้อมดีไซน์แบบอคูสติกที่ได้รับการปรับแต่ง และซอฟท์แวร์อันล้ำสมัย AirPods Max ใช้ระบบเสียงที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อมอบประสบการณ์การฟังที่มีคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยชิพแต่ละตัวให้พลังถึง 10 คอร์ ทำงานในอัตรา 9 ล้านครั้งต่อวินาที พลังเสียงจากการประมวลผลเสริมพลังให้ประสบการณ์ในการฟังที่เหนือชั้น รวมถึง EQ แบบปรับแต่งได้ เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน โหมดฟังเสียงภายนอก และระบบเสียงตามตำแหน่ง
AirPods Max ในดีไซน์แบบอคูสติกที่ได้รับการปรับแต่งใช้ไดร์เวอร์แบบไดนามิกขนาด 40 มิลลิเมตรและ มอเตอร์วงแหวนแม็กเน็ตนีโอไดเนียมคู่
- EQ แบบปรับแต่งได้: AirPods Max ใช้ EQ แบบปรับแต่งได้เพื่อปรับเสียงให้พอดีกับหูฟังโดยวัดสัญญาณเสียงที่ส่งออกมาและปรับความถี่ต่ำและกลางแบบเรียลไทม์ ทำให้ได้เสียงที่เต็มอิ่มครบทุกรายละเอียด
- เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ: AirPods Max มอบเสียงที่เต็มอิ่มสมจริงด้วยเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ ผู้ใช้จึงสามารถจดจ่อกับสิ่งที่กำลังฟัง หูฟังแต่ละข้างประกอบด้วยไมโครโฟนที่รับเสียงด้านนอก 3 ตัวเพื่อจับเสียงรบกวนโดยรอบในขณะที่ไมโครโฟนด้านในหูฟังแต่ละข้างตรวจจับเสียงที่มาถึงหูของผู้ฟัง จากนั้นระบบเสียงที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ การตัดเสียงรบกวนแบบต่อเนื่องจะปรับให้พอดีกับหูฟังและการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์
- โหมดฟังเสียงภายนอก: ด้วย AirPods Max ผู้ใช้สามารถสลับไปใช้โหมดฟังเสียงภายนอกเพื่อฟังเพลงไปพร้อม ๆ กับฟังเสียงโดยรอบ จึงมั่นใจได้ว่าทุกเสียงไม่ว่าจะเป็นเสียงของผู้ใช้เอง หรือเสียงธรรมชาติจะได้ยินอย่างครบถ้วนในขณะเล่นเพลง การสลับไปมาระหว่างโหมดตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ และโหมดฟังเสียงภายนอกสามารถทำได้ด้วยการกดปุ่มควบคุมเสียงเพียงหนึ่งครั้ง
- ระบบเสียงตามตำแหน่ง: AirPods Max ใช้ระบบเสียงตามตำแหน่งร่วมกับการแทร็คเสียงแบบไดนามิกเพื่อวางเสียงแบบเสมือนจริงทุกที่ในบรรยากาศ จึงมอบเสียงที่เต็มอิ่มสมจริง คล้ายประสบการณ์การฟังในโรงละคร สำหรับคอนเท้นท์ที่บันทึกในระบบ 5.1, 7.1 และ Dolby Atmos ไจโรสโคปและเครื่องวัดความเร่งในการเคลื่อนที่ใน AirPods Max และ iPhone หรือ iPad จะทำให้ระบบเสียงตามตำแหน่งจับการเคลื่อนไหวของศรีษะของผู้ใช้และอุปกรณ์มาเปรียบเทียบข้อมูลการเคลื่อนไหว และปรับเสียงให้เหมาะสมแม้ในยามที่ผู้ใช้ขยับศรีษะไปมา
ความมหัศจรรย์ของ AirPods
AirPods Max เสริมทัพครอบครัว AirPods ที่มอบระบบเสียงไร้สายที่ไม่มีใครเทียบเคียง ไม่ว่าผู้ใช้จะฟังเพลง คุยโทรศัพท์ ดูรายการทีวีโชว์และภาพยนตร์ เล่นเกม หรือตอบโต้กับ Siri การตั้งค่าด้วยวิธีการอันแสนอัศจรรย์ที่ลูกค้าต่างหลงรักใน AirPods และ AirPods Pro ก็สามารถใช้งานได้บน AirPods Max เช่นกันด้วยการกดเพียงหนึ่งครั้ง ตามด้วยการเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติกับทุกอุปกรณ์ที่ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี iCloud เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น iPhone iPad iPad touch Mac Apple Watch และ Apple TV
AirPods Max จะรู้ได้ทันทีเมื่อผู้ใช้สวมบนศรีษะด้วยเซ็นเซอร์ออพติเคิลและตำแหน่ง เมื่ออยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม AirPods Max จะเล่นเพลง และหยุดเมื่อผู้ใช้ถอดออก หรือยกหูฟังข้างหนึ่งขึ้น การโทรศัพท์และสั่งงาน Siri ผ่าน AirPods Max ให้เสียงที่คมชัดด้วยไมโครโฟนที่มีโฟมหุ้มตัดเสียงรบกวนจากภายนอก และรับเสียงผู้ใช้เท่านั้น
แบตเตอรี่และประสิทธิภาพ
AirPods Max มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมงสำหรับการฟังเสียงที่คมชัด คุยโทรศัพท์ หรือดูภาพยนตร์ด้วยเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีพ และใช้งานระบบเสียงตามตำแหน่ง2
AirPods Max มาพร้อม Smart Case ที่นุ่มและบาง สามารถเก็บ AirPods Max ในโหมดใช้พลังงานต่ำ ช่วยประหยัดแบตเตอรี่เมื่อไม่ใช้งาน
ฟีเจอร์อื่น ๆ
- การสลับอุปกรณ์เชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ใช้สลับไปมาระหว่าง iPhone iPad และ Mac ได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ เมื่อฟังเพลงบน Mac ผู้ใช้สามารถรับโทรศัพท์บน iPhone ได้อย่างง่ายดาย และ AirPods Max จะสลับการเชื่อมต่อให้โดยอัตโนมัติ
- การแชร์เสียงช่วยให้สามารถแชร์เสียงระหว่าง AirPods 2 ชุด บน iPhone iPad iPod touch หรือ Apple TV 4K ได้อย่างง่ายดายเพียงแค่นำ AirPods Max มาใกล้กับอุปกรณ์และเชื่อมต่อด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว3
- สามารถสั่งงาน Siri ให้เล่นเพลง โทรออก ควบคุมระดับเสียง บอกทาง และอื่น ๆ อีกทั้ง Siri ยังสามารถอ่านข้อความที่ได้รับด้วยฟีเจอร์ Announce Messages ด้วย Siri
ราคา และความพร้อมในการวางจำหน่าย
- AirPods Max ราคา 19,900 บาท
- AirPods Max สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 14.3 หรือใหม่กว่า, iPadOS 14.3 หรือใหม่กว่า, macOS Big Sur 11.1 หรือใหม่กว่า, watchOS 7.2 หรือใหม่กว่า หรือ tvOS 14.3 หรือใหม่กว่า
ที่มา : Apple