OPPO ประกาศแผนการเปิดตัวสมาร์ทโฟนแฟล็กชิพในงาน Snapdragon Tech Summit Digital 2020 กับแผนการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Find X Series รุ่นใหม่ล่าสุด ที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 1 ปี 2021 ซึ่งจะเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟน 5G ซีรีส์แรกที่ขับเคลื่อนโดยชิปประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ 888 5G Mobile Platform นอกจากนี้ OPPO จะยังคงความร่วมมือกับ Qualcomm Technologies และพันธมิตรด้านเทคโนโลยีชั้นนำอื่นๆ ทั่วโลกเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการรองรับการใช้งาน 5G ที่ครอบคลุมอยู่ทั่วโลก รวมไปถึงยกระดับประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานเครือข่าย 5G อีกด้วย
“OPPO และ Qualcomm Technologies มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตลอดมา โดยเราได้แลกเปลี่ยนและแสดงวิสัยทัศน์ที่มีจุดยืนเดียวกันอยู่เสมอ เพื่อค้นหาประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่ล้ำสมัยที่สุด” คุณ Alen Wu, OPPO Vice President และ President of Global Sales กล่าว “ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นทำให้เทคโนโลยี 5G เป็นจริงขึ้นมา และบัดนี้ เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเทคโนโลยี 5G ได้เข้ามามีบทบาทและมีอิทธิพลเป็นวงกว้าง โดยชิปประมวลผล Snapdragon 888 5G Mobile Platform ตัวล่าสุดของ Qualcomm Technologies พร้อมมอบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สู่การสัมผัสประสบการณ์บนเครือข่าย 5G รวมไปถึงการถ่ายภาพและการใช้งาน AI อัจฉริยะในรูปแบบใหม่ เรารู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่นำชิปประมวลผล Snapdragon 888 เข้ามาใช้ในสมาร์ทโฟนที่จะถูกเปิดตัวในไตรมาสแรกของปี 2564 และเรามั่นใจว่าสมาร์ทโฟน OPPO Find X Series รุ่นถัดไปจะมอบประสบการณ์การใช้งานรอบด้านอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนให้แก่ผู้ใช้ทั่วโลก”
ชิปประมวลผล Snapdragon 888 5G Mobile Platform พร้อมผนวกเข้าไว้ด้วยกันในสมาร์ทโฟนเรือธง OPPO Find X Series รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมเผยประสิทธิภาพอันดีเยี่ยมของสมาร์ทโฟน
ชิปประมวลผลนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยกระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตให้มีชิปมีขนาด 5 นาโนเมตรควบคู่ไปกับระบบ Qualcomm® Snapdragon™ X60 5G Modem-RF System โดยชิปชั้นนำของอุตสาหกรรมอย่าง Snapdragon 888 5G Mobile Platform จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้งานบนเครือข่าย 5G ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังครอบคลุมไปถึงการใช้งานด้านการถ่ายภาพ การใช้งาน AI อัจฉริยะ และประสบการณ์การเล่นเกมรูปแบบใหม่บนสมาร์ทโฟนเรือธง OPPO Find X 5G รุ่นต่อไปของ OPPO ยิ่งไปกว่านั้นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่นี้จะมอบขอบเขตการมองเห็นบนจอแสดงผลและกล้องด้วยเทคโนโลยี 10-bit Full-Path Color Management System ที่ใช้ในแอนดรอยด์เป็นครั้งแรก โดยเปิดตัวในงาน OPPO INNO DAY 2020 ที่ผ่านมาจากคุณสมบัติทั้งหมดเหล่านี้ทำให้ OPPO Find X Series เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนเรือธง 5G ในปี 2564 ที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
OPPO มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้บุกเบิกและผลักดันเทคโนโลยีบนเครือข่าย 5G มาอย่างยาวนาน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา OPPO ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลายรุ่นที่ขับเคลื่อนโดย Snapdragon 5G mobile platforms ตัวอย่างเช่น OPPO Reno 5G ที่มีชิปประมวลผล Snapdragon 855 และเป็นสมาร์ทโฟน 5G เครื่องแรกที่ออกสู่ตลาดยุโรปในเดือนพฤษภาคม ปี 2562 ต่อมาในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน OPPO ได้ร่วมมือกับ Qualcomm Technologies และ Ericsson จนสามารถคว้ารางวัล “Best 5G Network Development in Europe” ไปครองด้วยผลงานของสมาร์ทโฟน OPPO Reno 5G และในปีนี้ OPPO ได้เปิดตัว OPPO Find X2 Series และ OPPO Reno3 / Reno4 Series ที่รองรับเครือข่าย 5G โดยมีชิปประมวลผล Snapdragon ด้วยเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้นความร่วมมือกันระหว่าง OPPO และ Qualcomm Technologies ได้ขยายกว้างไปสู่ผลิตภัณฑ์ 5G CPE และนาฬิกาอัจฉริยะรวมไปถึงผลิตภัณฑ์อัจฉริยะอื่นๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon ด้วย
ค้นหาสิ่งใหม่เพื่อตอบโจทย์ “Technology for Mankind, Kindness to the World” OPPO จึงร่วมมือกับ Qualcomm Technologies เพื่อค้นหาความเป็นไปได้ของการใช้งาน 5G ในอนาคต
การร่วมมือกันของ OPPO และ Qualcomm Technologies ในเทคโนโลยีเครือข่าย 5G นั้นนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เหนือกว่า เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การใช้งานบนเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ในตลาดโลกในอนาคต โดย OPPO และ Qualcomm Technologies ได้ทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนานด้านการออกแบบโปรแกรมทดสอบ 5G กับผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ทั่วโลก ตัวอย่างเช่น ในเดือนธันวาคม 2562 OPPO เปิดตัวโซลูชัน DSS (Dynamic Spectrum Sharing) ครั้งแรกในอุตสาหกรรม ด้วยความร่วมมือกันของ Ericsson, Qualcomm Technologies, Swisscom และ Telstra นอกจากนี้ ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา OPPO ยังทดสอบการใช้งานระบบ 5G standalone (SA) ในสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรก ด้วยการร่วมมือกันกับพันธมิตรของ OPPO อย่าง Qualcomm Technologies, Ericsson และ Vodafone อีกด้วย
OPPO ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายใหญ่มากกว่า 70 รายทั่วโลก โดยมากกว่า 40 รายได้ร่วมมือกับ OPPO ในการให้บริการเครือข่าย 5G ซึ่งโครงการริเริ่มเหล่านี้ได้นำไปสู่การพัฒนาธุรกิจที่สำคัญในตลาดภูมิภาค เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น และ ละตินอเมริกา โดยความสำเร็จด้านการใช้งานเครือข่าย 5G ในระดับภูมิภาคจะไม่มีทางเกิดขึ้น หากไม่ได้รับความร่วมมือกันกับบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Qualcomm Technologies
นับจากนี้ไป OPPO จะยังคงยึดมั่นในความเชื่อของแบรนด์ด้าน “Technology for Mankind, Kindness to the World” และพร้อมเข้าสู่การร่วมมืออย่างเต็มรูปแบบกับพันธมิตรเพื่อสร้างวิสัยทัศน์และบรรลุเป้าหมายร่วมกันด้วยการร่วมมือกับบริษัท
ชั้นนำด้านอุตสาหกรรมมากขึ้น ดั่งเช่น Qualcomm Technologies เพื่อให้ OPPO สามารถค้นหาสิ่งใหม่ๆ รวมไปถึงความเป็นไปได้ที่มากขึ้นในการใช้งานบนเครือข่าย 5G ในอนาคตและสามารถมอบนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้ทั่วโลกในยุคแห่งการเชื่อมต่อไร้สายได้