HUAWEI เปิดตัว HUAWEI Mate40 Series อย่างเป็นทางการเรียบร้อย จัดเต็มฟีเจอร์กล้องและคุณสมบัติที่ครบครันระดับเรือธงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ, ระบบเสียง รวมถึงดีไซน์ที่เป็นแบบใหม่ทั้งหมด รอบนี้ยังคงเปิดตัวมาด้วยกันมากถึง 3 รุ่นประกอบด้วย HUAWEI Mate40, HUAWEI Mate40 Pro และ HUAWEI Mate40 Pro+ ครับ รายละเอียดของแต่ละรุ่นก็ตามนี้เลย

HUAWEI Mate40

เริ่มต้นที่ HUAWEI Mate40 กันก่อน รุ่นนี้จะเป็นรุ่นเริ่มต้นแต่จัดเต็มมาไม่น้อยเลย มาพร้อมหน้าจอแบบโค้ง Flex OLED แบบ 3D ขนาด 6.5" มีมุมโค้ง 68 องศา ใช้ดีไซน์แบบ Punch-Hole Display หรือจอเจาะรูแต่รุ่นนี้จะเป็นรูเดียวอยู่ที่มุมซ้ายบนครับ

และหน้าจอจะมีค่า refresh rate สูงสุดที่ 90Hz ค่า Touch Sampling rate 240Hz ตอบสนองลื่นไหล รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอด้วย

สำหรับดีไซน์ HUAWEI Mate40 ก็ใช้ดีไซน์แบบใหม่หมด ด้านหลังมีวงแหวนพร้อมเลนส์กล้อง 4 ตัวอยู่ภายใน ยึดหลักดีไซน์แบบ Symmetry หรือความสมาตรอยู่เหมือนเดิมครับ มีให้เลือก 5 สีด้วยกันคือฝาหลังกระจก Black, White, Mystic Silver และฝาหลังแบบหนังเทียมสี Green และ Yellow ใหม่

HUAWEI Mate40 Pro | Pro+

ส่วน HUAWEI Mate40 Pro และ 40 Pro+ จะมาพร้อมหน้าจอแบบ Horizon Display เหมือนกับตอน Mate30 Pro คือมีจอโค้งแบบ Waterfall 88 องศา ขนาดใหญ่ถึง 6.76" ใช้จอ Flex OLED ความละเอียดสูง 2772 x 1344 พิกเซล และมีค่า refresh rate ที่ 90Hz และ Touch Sampling Rate 240Hz เช่นเดียวกับรุ่นปกติ HUAWEI ให้เหตุผลว่าความลื่นไหลระดับนี้เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว และยังคงความละเอียดไว้ที่ระดับสูงสุดได้ด้วย

นอกจากนี้บนหน้าจอก็ยังมีกล้อง 2 ตัวและเซ็นเซอร์สำหรับปลกล็อคหน้าจอแบบ 3D คู่กับระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจออีกด้วยครับ

สำหรับสีสัน HUAWEI Mate40 Pro มีให้เลือก 5 สีเหมือนกับ Mate40 รุ่นปกติคือ ฝาหลังกระจก Black, White, Mystic Silver และฝาหลังแบบหนังเทียมสี Green และ Yellow ครับ

ส่วน Mate40 Pro+ รุ่นท็อปก็จะเหมือนตอน P40 Pro+ ครับคือมี 2 สีวัสดุฝาหลังเป็นเซรามิก มี 2 สีคือ Ceramic White และ Ceramic Black ครับ

HUAWEI Mate40 Series ทั้ง 3 รุ่นรอบนี้จะได้ลำโพงคู่ Stereo มาใช้งานแล้ว หลังจากที่ติดปัญหาเรื่องลำโพงมาตั้งแต่ P30 Pro ทาง HUAWEI เคลมว่าพลังเบสดีขึ้นถึง 150% เลยด้วยครับ

กล้อง HUAWEI Mate40 Series

ในเรื่องกล้องก็อัปเกรดขึ้นมาอีกขั้น ทั้งในเรื่องซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ โดยกล้องจะแตกต่างกันไปทั้ง 3 รุ่นเลยครับ

กล้อง HUAWEI Mate40

สำหรับกล้องของ HUAWEI Mate40 จะให้มาทั้งหมด 3 ตัวเหมือนกล้องชุดเดียวกับ P40 ประกอบด้วย

• 50MP กล้องหลัก Super Sensing Wide เซ็นเซอร์ RYYB, f/1.9
• 16MP เลนส์ Ultra Wide f/2.2
• 8MP เลนส์ Tele 3x f/2.4, OIS

กล้อง HUAWEI Mate40 Pro

ส่วนกล้องของ Mate40 Pro ก็จะอัปเกรดขึ้นไปอีก ทั้งเลนส์ Ultra Wide และ เลนส์ซูมที่เปลี่ยนมาใช้เป็นเลนส์ Periscope แทนครับ มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้

• 50MP กล้องหลัก Super Sensing Wide เซ็นเซอร์ RYYB, f/1.9
• 20MP เลนส์ Ultra Wide Cine f/1.8
• 12MP เลนส์ Periscope 5x f/3.4, OIS

ทั้งคู่มาพร้อมกล้อง ToF สำหรับการจับระยะวัตถุได้แม่นยำมากขึ้นด้วย

กล้อง HUAWEI Mate40 Pro+

และรุ่นท็อปสุดกฌจัดเต็มด้วยกล้อง 5 ตัว สเปคเทพสามารถซูมได้แบบ Optical ตั้งแต่ Ultra Wide ไปจนถึงซูมแบบฮาร์ดแวร์เต็ม ๆ ได้ที่ระยะ 17x กันเลยทีเดียวครับ มีสเปคกล้องทั้ง 5 ตัวดังนี้

• 50MP กล้องหลัก Super Sensing Wide เซ็นเซอร์ RYYB, f/1.9
• 20MP เลนส์ Ultra Wide Cine f/1.8
• 12MP เลนส์ Tele 3x f/2.4, OIS
• 8MP เลนส์ Periscope 10x, f/4.4, OIS
• กล้อง ToF

ในส่วนของฟีเจอร์กล้อง HUAWEI Mate40 Pro และ Mate40 Pro+ จะรองรับการถ่ายภาพมุมกว้างแบบ Ultra Wide ทั้งคู่หน้า-หลังในมุมมองที่กว่าระดับ 100 องศาบวก 

กล้องวิดีโอเก่งขึ้นรองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ 4K 60fps สามารถถ่ายวิดีโอ Slow motion ได้มากถึง 1080p 480fps และยังมีโหมด Super Slow motion 3840fps ให้เลือกใช้เหมือนเดิม รองรับวิดีโอกันสั่นเทพที่เหนือกว่ารุ่นก่อน ๆ ด้วย

ชิปเซ็ตใหม่ Kirin 9000 5G

และขุมพลังของ HUAWEI Mate40 Series ในปีนี้ก็ใช้ชิปเซ็ต Kirin 9000 5G บนรุ่น Pro และ Pro+ ในขณะที่รุ่น Mate40 ปกติจะใช้เป็น Kirin 9000E แทนครับ HUAWEI เคลมว่าชิปเซ็ต Kirin 9000 5G นี้เป็นชิปเซ็ตตัวแรกของโลกที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมแบบ 5nm ที่มีโมเด็ม 5G ในตัวด้วย รองรับ WiFi 6+ และมีความเร็วอยู่ที่ 3.13GHz ครับ ส่วน Kirin 9000E ของ Mate40 จะมีความแตกต่างกันที่ CPU ที่มี Big-Core 1 Core (Kirin 9000 มี Dual-Core) และ GPU ที่ลด Core ลงมาเหลือ 22 Core ในขณะที่ของ Kirin 9000 5G ได้ 24 Core ครับ

ในเรื่องแรม HUAWEI Mate40 และ Mate40 Pro จะมีแรมที่ 8GB ในขณะที่ Mate40 Pro+ ได้แรม 12GB ครับ และความจุรุ่นรุ่น Mate40 จะได้มา 128GB ในขณะที่รุ่น Pro และ Pro+ ได้มา 256GB มีความจุเดียวเลยครับรอบนี้

แบตเตอรี่ Mate40 ให้ความจุมาที่ 4200mAh รองรับชาร์จไว SuperCharge 40W เท่าเดิม ส่วนรุ่น Mate40 Pro และ Mate40 Pro+ ได้แบต 4400mAh รองรับระบบชาร์จไวใหม่ SuprtCharge 66W และรองรับระบบชาร์จไร้สายที่ 50W อีกด้วย