VPN คืออะไร? ย้ายเซิร์ฟไปต่างประเทศก็ได้ถ้าเซิร์ฟไทยโดนแบน
เข้าถึงเนื้อหา!
VPN หรือย่อมาจาก Virtual Private Network เป็นเครือข่ายเสมือนที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวในการใช้งานที่สามารถเข้าถึงเนื้อหาและข้อมูลที่หลากหลาย หลีกเลี่ยงการถูกจำกัดหรือการปิดกั้นเนื้อหาบางอย่างในบางพื้นที่ที่เราต้องการเข้าถึง ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ส่วนใหญ่มักใช้เพื่อการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นที่ถูกแบนในบางประเทศ รวมไปถึงการรับชมเนื้อหาต่างๆอย่างอิสระ ไม่ถูกจำกัดในเรื่องของภูมิภาค
ในปัจจุบันมี application ให้บริการ VPN มากมายทั้งแบบใช้งานฟรีและมีค่าบริการ ซึ่งแน่นอนว่าความแตกต่างก็ขึ้นอยู่กับความปลอดภัยและการเข้ารหัสที่แน่นหนา เพราะความเสี่ยงจากการใช้บริการ VPN ก็มีเรื่องของการถูกแฮกข้อมูลส่วนตัวหากใช้บริการจากแอป VPN ที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่มีการการันตีความปลอดภัย จึงเป็นความแตกต่างระหว่างการใช้บริการฟรีกับมีค่าบริการ
ข้อดีของการใช้งาน VPN
- ข้อแรกเลยก็คือความเป็นส่วนตัวในการใช้งานที่มากกว่าเดิม เพราะเมื่อเราเริ่มเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ VPN แล้ว ข้อมูลที่ถูกส่งออกนั้นจะถูกเข้ารหัสทำให้ไม่สามารถติดตามได้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่ผู้ให้บริการเองก็ตาม
- การใช้บริการ VPN จะช่วยป้อนหมายเลข IP ของผู้ใช้ได้ เมื่อเราเชื่อมต่อเข้ากับเซิร์ฟเวอร์ของ VPN ในภูมิภาคหรือประเทศไหน หมายเลข IP ที่แสดงก็จะขึ้นว่าเราอยู่ในภูมิภาคนั้นๆ
- หลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์เนื้อหาที่ถูกจำกัด ในบางเว็บหรือบาง application จะมีการควบคุมและเซ็นเซอร์เนื้อหาบางอย่างตามความเหมาะสม ซึ่งการเข้ารหัสผ่าน VPN จะช่วยให้เราสามารถดูเนื้อหาโดยไม่มีการเซ็นเซอร์ข้อมูล สามารถเข้าถึงรายการทีวีหรือเกมส์ต่างๆได้อย่างอิสระ ไม่ถูกจำกัดว่าจะต้องอยู่ในประเทศไหน
- VPN จากผู้ให้บริการบางรายสามารถบล็อคไวรัส โฆษณา รวมไปถึงเครื่องมือติดตามต่างๆได้ ช่วยให้เราเข้าถึงเนื้อหาโดยไม่เจอหน้าตา pop up เพื่อโฆษณาเนื้อหาที่เราไม่ต้องการ เหมาะกับการใช้งานบน YouTube ที่จะไม่ถูกขัดจังหวะในการรับชม
ข้อเสียของการใช้งาน VPN
- ทุกอย่างที่มีข้อดีแน่นอนว่าย่อมมีข้อเสียตามมาซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องรู้ถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นหากทำการเชื่อมต่อข้อมูลส่วนตัวเข้ากับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างแรกเลยคือสิ่งที่เราบอกไปตั้งแต่ตอนต้นนั่นคือความปลอดภัยหากเราเลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งส่วนใหญ่มักถูกพบในบริการแบบฟรี ข้อมูลเราอาจจะถูกแฮกไปใช้ในทางที่ไม่ดีได้ เพราะฉะนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆที่เราจะต้องเลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการที่เป็นที่รู้จัก และมีการการันตีเรื่องความปลอดภัยในการเข้ารหัส
ตัวอย่างผู้ให้บริการแอป VPN
Express VPN เป็นผู้ให้บริการที่รองรับ 3,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 94 ประเทศ ใช้งานได้กับ Chrome, Linux, Windows, Android, macOS, iOS, Apple TV สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ มีการรับรองระบบการรักษาปลอดภัยหลายที่เข้มงวด expressvpn
Nord VPN รองรับเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 5,390+ใน 59 ประเทศ ใช้งานได้กับ macOS, Android, iOS, Android TV, Linux, Chrome และ Firefox มีการรักษามาตรฐานความปลอดภัยและการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด ได้รับการปรับให้เหมาะสำหรับการสตรีมและ P2P nordvpn
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการอธิบายเพื่อให้ทุกคนรู้จัก VPN แบบพื้นฐานเข้าใจง่ายถึงการทำงาน ข้อดีและข้อควรระวังหากจะใช้บริการสิ่งนี้ โลกของ VPN ยังมีรายละเอียดอีกมากมายให้ได้ทำความเข้าใจ ใครสนใจอยากสมัครใช้บริการสิ่งนี้แนะนำให้ศึกษาผู้ให้บริการที่เราสนใจก่อนจะเริ่มทำการเชื่อมต่อเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลอย่างแท้จริง
- Source: howtogeek