วงในเผย iPhone 12 จะแพงกว่า iPhone 11 เพราะต้นทุนแพงขึ้น แม้จะตัดอุปกรณ์ในกล่องออกก็ตาม
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า Apple อาจเปิดตัว iPhone 12 รุ่นประจำปี 2020 นี้ในราคาที่ถูกกว่าตอนเปิดตัว iPhone 11 คืออยู่ที่ $649 (ประมาณ 20,100 บาท) ลดลงราว $50 แต่จากรายงานล่าสุดดูเหมือนว่าฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเติมเข้าไป อาจทำให้ราคาขายไม่ถูกลง แถมจะแพงขึ้นด้วย
ตามรายงานล่าสุดบอกว่า iPhone 12 จะมีราคาขายเริ่มต้นที่ $699 - $749 (ประมาณ 21,700 - 23,200 บาทในต่างประเทศ)
แม้ว่าก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Apple จะตัดอุปกรณ์เสริมบางอย่างในกล่องออก คือ หูฟัง EarPods และที่ชาร์จออกก็ตาม อย่างที่เราเห็นกันมาแล้วใน Apple Watch รุ่นล่าสุด ทำให้แฟนๆ ต่างคาดหวังว่าราคา iPhone 12 Series จะไม่แพงขึ้นจากการขาดหายไปดังกล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนต้นทุนโดยรวมของ iPhone 12 ยังไม่สามารถถูกลงได้ แถมยังเพิ่มขึ้นอีกประมาณ $50 (ราว 1,550 บาท) เมื่อเทียบกับของ iPhone 11 ซึ่งคาดว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นน่าจะมาจากหน้าจอ OLED และเทคโนโลยี 5G ที่เพิ่มเข้ามา ทำให้ราคาเริ่มต้นเพิ่มเป็น $749 (หรือประมาณ 23,200 บาท ซึ่งในไทยก็จะบวกเพิ่มไปอีกจากนี้)
นอกจากนี้แหล่งข่าวเดียวกันยังได้ข้อมูลจากแหล่งการผลิตชิ้นส่วนไอโฟนรุ่นใหม่ ระบุว่ายอดการผลิต iPhone 12 ไม่สามารถทำได้ตามที่ Apple ต้องการ คืออยู่ที่ 80 ล้านเครื่อง โดยสามารถผลิตได้ราว 70 ล้านเครื่องเท่านั้น ทำให้ในช่วงแรกอาจเกิดปัญหาของขาดตลาดได้
iPhone 12 คาดว่าจะมาพร้อมชิปประมวลผล Apple A14 ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ โดยมีผลคะแนน benchmark ทดสอบออกมาแล้วว่า ด้านความแรงอาจไม่ดีขึ้นเท่าไหร่เมื่อเทียบกับ iPhone 11 โดยจุดที่จะถูกเพิ่มเติมเข้ามาก็จะเป็นด้านเซ็นเซอร์กล้อง LiDar ซึ่งไม่แน่ใจว่าฟีเจอร์ใหม่นี้จะซื้อใจคนให้เปลี่ยนไอโฟนเครื่องใหม่ได้มากแค่ไหน
source: phonearena