สรุปข้อมูลก่อนเปิดตัว งาน Apple Event 2020 เราจะได้เห็นอะไรบ้างในงานนี้ iPad Air 4, Apple Watch Series 6 และ iPhone 12 มาไหม !?
Apple ประกาศจัดงานอีเว้นท์ใหญ่ Apple Event 2020 ในวันที่ 15 กันยายนนี้ตามเวลาบ้านเราก็คือช่วงเที่ยงคืนพอดี ครั้งนี้หลายคนคาดหวังกันไว้หลายอย่างเลยทีเดียวว่า Apple จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์อะไรใหม่บ้าง และข้อมูลก็มีออกมาหลายแบบเหลือเกิน ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วเราขอมาสรุปข้อมูลก่อนเปิดตัวของ Apple Event ครั้งนี้กันหน่อยว่าเราจะได้เห็นอะไรกันบ้าง
iPad Air ใหม่
อย่างแรกที่ลือกันหนาหูและมีมูลมากที่สุดคงหนีไม่พ้น iPad รุ่นใหม่อย่าง iPad Air 4 เพราะก่อนหน้านี้เราได้เห็นข้อมูลจากหลายแหล่งมาก ๆ และการที่ Apple จัดงานใหญ่ครั้งนี้ อุปกรณ์หลักก็คงหนีไม่พ้นเจ้า iPad Air 4 ตัวนี้ด้วย
iPad Air 4 ดีไซน์ใหม่
ซึ่ง iPad Air 4 จะมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่หมด ยกเอาดีไซน์จาก iPad Pro มาเลย คือหน้าจอที่ชิดขอบมากขึ้น ตัดปุ่มโฮมออกไปเรียบร้อย ใช้พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C แล้ว ตัวหน้าจอของ iPad Air 4 จะเขยิบขึ้นมาจากเดิมที่ 10.5” มาเป็น 10.8” ใกล้เคียงกับ iPad Pro 11 เข้าไปอีกครับ
รองรับ Touch ID
แม้ iPad Air 4 จะไม่มีปุ่มโฮมแล้ว แต่ก็ยังมาพร้อมระบบ Touch ID หรือสแกนลายนิ้วมืออยู่ด้วย จากข้อมูลของเอกสารคู่มือระบุว่า iPad Air 4 นั้นจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่บนปุ่ม Power ที่ด้านบนตัวเครื่องแทนครับ
ชิปเซ็ตใหม่ Apple A14
ในส่วนของสเปคก็แน่นอนว่ารุ่นใหม่อัปเกรดไฉไลเลย iPad Air 4 จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A14 ตัวเดียวกับที่จะใช้บน iPhone 12 เลย ประสิทธิภาพจัดเต็มขึ้นไปอีก และที่ตัวเครื่องก็จะมี Smart Connector ที่ช่วยให้เชื่อมต่อกับเคสคีย์บอร์ดอย่าง Magic Keyboard ได้ด้วย
iPad 8th Gen
นอกจาก iPad Air 4 แล้ว คาดว่า Apple จะเปิดตัว iPad 8th Gen มาด้วยครับ ซึ่งจะเป็นการปรับสเปคภายในให้แรงยิ่งขึ้น แต่ยังมาในรูปทรงเดิมคือหน้าจอขนาด 10.2” มีปุ่มโฮมและพอร์ตการเชื่อมต่อเป็น Lightning
ส่วนสเปคภายในก็จะใช้ชิปเซ็ต Apple A12X มาให้เลย เพิ่มความแรงขึ้นจาก 7th Gen ที่ใช้ A10 อยู่หลายระดับกันเลยครับ
Apple Watch ใหม่
ต่อมาก็คือ Apple Watch ที่จะถึงคราวที่จะเปิดตัวรุ่นใหม่กันอีกแล้ว โดยตามข่าวลือคือรอบนี้ Apple จะเปิด Apple Watch ด้วยกัน 2 รุ่นคือ Watch Series 6 ตัวหลักและ Watch SE รุ่นราคาประหยัดที่มาแทนที่ Series 3 ในปัจจุบันครับ
Apple Watch Series 6
เริ่มต้นที่ Apple Watch Series 6 ตามข้อมูลระบุว่า ดีไซน์ภายนอกจะเหมือนกับรุ่นก่อน ไม่มีการปรับดีไซน์ใหม่ ใช้หน้าปัดทรงเหลี่ยมมี 2 ไซซ์ 44มม. และ 40มม. เหมือนเดิม แต่จุดที่จะปรับก็คือเรื่องของสเปคและฟีเจอร์ครับ Apple Watch Series 6 จะมาพร้อมชิปเซ็ตใหม่ที่จะช่วยจัดการเรื่องแบตเตอรี่ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าเดิมเป็น 303.8mAh เทียบกับ Series 5 ที่ให้มา 296mAh ครับ
รองรับการตรวจวัดออกซิเจนในเลือด
และฟีเจอร์เด่นของ Apple Watch Series 6 ที่ข้อมูลมาชัดมาก ๆ ก็คือการตรวจวัดออกซิเจนในเลือดได้ด้วยครับ
Apple Watch รุ่นประหยัดมาด้วย
และ Apple Watch รุ่นประหยัดก็ลือกันว่าจะใช้ชื่อว่า Apple Watch SE มี 2 ไซซ์เหมือนกัน จะมีทรงคล้าย Watch Series 4 แต่ตัดเอาฟีเจอร์อย่าง ECG และ Always On Display ออกไปเพื่อให้ราคานั้นถูกลงไปอีก
AirPods Studio หูฟังครอบหูตัวท็อป
อันนี้ลือกันมาสักพักใหญ่สำหรับหูฟังแบบครอบหูของ Apple คาดว่าในงาน Apple Event นี้จะมีหูฟังใหม่มาด้วยในชื่อ AirPods Studio มีระบบเสียงที่ยอดเยี่ยมพร้อมรองรับระบบเสียง Spatial Audio ด้วย
AirTags อุปกรณ์เสริมตามตำแหน่ง
Apple มีข่าวลือออกมานานแล้วครับ ว่ากำลังพัฒนาอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ใช้สำหรับติดตามตำแหน่งได้ผ่านแอป Find My ยกตัวอย่างเช่น ติดไว้กับกุญแจ หรือกระเป๋าตังค์ เพื่อให้สามารถหาได้ง่ายขึ้นผ่าน Bluetooth เป็นต้นครับ
Apple One บริการใหม่
บริการใหม่ก็มี ใน Apple Event ครั้งนี้ Apple จะเปิดตัวบริการใหม่ในชื่อ Apple One ที่จะเป็นการรวมเอาบริการหลักของ Apple ไว้ด้วยกันทั้ง Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade, Apple News, iCloud และเปิดให้สมัครแบบรวมในราคาพิเศษ
OS ใหม่เวอร์ชั่น GM มาแน่
อีกเรื่องที่คิดว่าต้องเปิดตัวและมาแน่ ๆ คือ OS ใหม่ทั้ง iOS 14, iPadOS 14 เวอร์ชั่น Gold Master หรือ GM จะถูกปล่อยให้อัปเดตกันในวันถัดไปและเวอร์ชั่นเต็มเชื่อว่าจะปล่อยให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตกันในสัปดาห์หน้าเลย
iPhone 12 ยังไม่มา...
ปิดท้ายกับเรื่องที่หลายคนคาดหวังกันมากที่สุดในงาน Apple Event อย่าง iPhone 12 ซึ่งหลายแหล่งก็คาดว่าจะมา แต่หลายแหล่งก็บอกว่า Apple น่าจะจัดงานแยกอีกทีในเดือนหน้าแทน เนื่องการสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 นี่แหละ ซึ่งงานนี้เราจะได้เห็น iPhone 12 ด้วยหรือไม่ คงต้องรอลุ้นกันต่อไปเนาะ
สำหรับงาน Apple Event 2020 ครั้งนี้จะจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ ตามเวลาไทยคือ เที่ยงคืนครับผม รอติดตามกับพวกเรา #3Live ไปพร้อม ๆ กันได้ที่เพจ TechXcite, Appdisqus และ Techoffside เวลา 23.30 น. เป็นต้นไปนะจ๊ะ