สรุป! 10 มือถือที่เปิดตัวเดือนสิงหาคมทั้งในไทยและต่างประเทศ
สวัสดีวันสิ้นเดือนนะคะ ก่อนจะเริ่มต้นเดือนใหม่ในเดือนกันยายน เราจะมาสรุปเหตุการณ์ในเดือนสิงหาคมว่ามีมือถือเปิดตัวรุ่นอะไรออกมาบ้าง เดือนนี้ก็เป็นอีกเดือนที่มีมือถือเปิดตัวเยอะมากๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ที่สำคัญมีรุ่นเรือธงอย่าง Samsung Galaxy Note 20 เปิดตัวในเดือนนี้อีกด้วย เมื่อรวบรวมแล้วมีมือถือเปิดตัวถึง 10 รุ่นด้วยกัน จะมีอะไรบ้างนั้นวันนี้เรารวบรวมทั้งหมดมาให้แล้ว
Samsung Galaxy Note 20 / Note 20 Ultra
เปิดตัวมา 2 รุ่นเริ่มต้นกันที่ Note 20 ธรรมดา มาพร้อมหน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรทหน้าจออยู่ที่ 60 Hz ตัวกล้องให้มาอยู่ที่ 3 เลนส์ความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 64 MP หน่วยประมวลผลสูงสุด RAM 8GB หน่วยความจำ ROM 256GB ให้แบตเตอรี่มาที่ 4,300 mAh รองรับการชาร์จไวสูงสุดที่ 25W
ส่วน Samsung Galaxy Note 20 Ultra มาพร้อมรูปแบบหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาดใหญ่ถึง 6.9 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรทหน้าจออยู่ที่ 120 Hz ความละเอียดกล้องหลังสูงสุดถึง 108mp ในขณะที่หน่วยประมวลผลสูงสุด RAM 12GB ROM 512 GB แบตเตอรี่ 4,500Ah รองรับชาร์จไวสูงสุดที่ 25W โดยสเปคที่เหมือนกันของทั้ง 2 รุ่น คือ ชิปเซ็ตประมวลผล Exynos 990 รองรับ 5G และกล้องหน้าความละเอียด 10 MP ส่วนราคาเปิดตัวในไทย
- Galaxy Note20 รุ่น 4G LTE (256GB) = 29,990 บาท
- Galaxy Note20 รุ่น 5G (256GB) = 33,990 บาท
- Galaxy Note20 Ultra รุ่น 4G LTE (8GB + 256GB) = 38,990 บาท
- Galaxy Note20 Ultra รุ่น 4G LTE (8GB + 512GB) = 42,990 บาท
- Galaxy Note20 Ultra รุ่น 5G (12GB + 256GB) = 42,990 บาท
- Galaxy Note20 Ultra รุ่น 5G (12GB + 512GB) = 46,990 บาท
OnePlus Nord
สำหรับ OnePlus Nord เป็นมือถือรุ่นแรกของ OnePlus ที่ทำออกมาในรุ่นประหยัดรองรับ 5G ละขนสเปคมาแบบคุ้มค่ามากๆ เริ่มต้นกันที่หน้าจอเป็น FluidAMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว อัตรา refresh rate หน้าจออยู่ที่ 95Hz ประมวลผลเป็น Snapdragon 765G มาพร้อมกับหน่วยความจำสูงสุด RAM 12GB และ ROM 256GB กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 48 MP กล้องหน้าเลนส์คู่ 32 MP + 8 MP ส่วนแบตเตอรี่ให้มาที่ 4,115 mAh รองรับ WarpCharge 30T โดยเปิดราคา 2 ขนาดอยู่ที่
- OnePlus Nord (8GB + 128GB) = 14,990 บาท สีฟ้า Blue Marble, สีเทา Gray Onyx
- OnePlus Nord (12GB + 256GB) = 17,990 บาท วางจำหน่ายเฉพาะสีฟ้า Blue Marble
Xiaomi Mi10 Ultra
เป็นมือถือเรือธงที่หลายคนให้สมญานามว่านี่เป็นมือถือที่สเปคดีสุดๆ โดย Xiaomi Mi10 Ultra มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.67 นิ้ว อัตรารีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120Hz ด้วยดีไซน์หน้าจอแบบเจาะรู โดยกล้องหลังให้มาอยู่ที่ 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 48 MP กล้องหน้าความละเอียด 20 MP มาดูส่วนของชิปเซ็ตกันบ้าง Xiaomi Mi10 Ultra ใช้ Snapdragon 865 รองรับ 5G หน่วยความจำสูงสุด RAM 16GB ROM 512GB มีระบบระบายความร้อน LiquidCool 2.0 อีกหนึ่งจุดเด่นแบตเตอรี่ให้มาที่ 4,500 mAh รองรับชาร์จไวถึง 120W video สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% แค่ 23 นาทีเท่านั้น โดยราคาวางจำหน่ายอยู่ที่
- Mi 10 Ultra (8GB + 128GB) = 5299 หยวนหรือประมาณ 23,700 บาท
- Mi 10 Ultra (8GB + 256GB) = 5599 หยวนหรือประมาณ 25,000 บาท
- Mi 10 Ultra (12GB + 256GB) = 5999 หยวนหรือประมาณ 26,900 บาท
- Mi 10 Ultra (16GB + 512GB) = 6999 หยวนหรือประมาณ 31,300 บาท
realme C12
เป็นมือถือรุ่นประหยัดพี่ให้สเปคมาแรงราคากล้องหลังจัดเต็มถึง 3 ตัว พร้อมจุดเด่นแบตเตอรี่สุดอึดถึง 6,000 mAh โดยหน้าจอให้มาที่ขนาด 6.5 นิ้ว เป็นรูปแบบ IPS LCD กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 13 + 2 + 2 MP และกล้องหน้า 5MP ชิปเซ็ตประมวลผลเป็น Mediatek Helio G35 SoC หน่วยความจำ RAM 3GB ROM 32GB ระบบปฏิบัติการ realme UI บนพื้นฐาน Android 10 แล้วยังรองรับ micro SD card อีกด้วย
- realme C12 ประมาณ 4,000 บาท
Black Shark 3S
สำหรับรุ่นนี้เป็นมือถือ gaming ที่เปิดตัวมาด้วยสเปคสุดจัดเต็ม มีอัพเกรดตัวเครื่องหลายจุดจาก Black Shark 3 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว รูปแบบ AMOLED รองรับอัตรารีเฟรชเรทหน้าจอที่ 120Hz ตัวชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 865 หน่วยความจำสูงสุด RAM 12GB ROM 128GB กล้องหลังความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 64 MP กล้องหน้า 20 MP แบตเตอรี่ 4,729 mAh รองรับชาร์จไว 65W สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ภายในระยะเวลาแค่ 38 นาทีเท่านั้น เปิดราคามาอยู่ที่
- Black Shark 3S 4,000 หยวน ประมาณ 18,000 บาท
Redmi K30 Ultra
Redmi K30 Ultra เป็นมือถือ 5G ระดับเรือธง มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว อัตรารีเฟรชหน้าจออยู่ที่ 120Hz ชิปเซ็ตประมวลผลเป็น Mediatek Dimensity 1000+ 5Gซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่เร็วแรงไม่แพ้ Snapdragon 865 เลยก็ว่าได้ หน่วยความจำสูงสุด RAM 8GB ROM 512GB กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 64 MP กล้องหน้า 20 MP แบบ pop up โดยให้แบตเตอรี่มาที่ 4,500 mAh รองรับชาร์จไวที่ 33 วัตต์ ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 1,999 หยวน หรือประมาณ 9,000 บาท
- Redmi K30 Ultra 6+128GB 1,999 หยวน ประมาณ 9,000 บาท
- Redmi K30 Ultra 8+512GB 2,699 หยวน ประมาณ 12,000 บาท
Google Pixel 4a
เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยหลังจากมีข่าวหลุดมานานนับเดือน ซึ่งสโลแกนของ Google Pixel 4a ก็จะเน้นความเรียบง่ายไม่ซับซ้อนขายสเปคเดียว ความจุเดียวแล้วก็สีเดียวไปเลย หน้าจอเป็น OLED ขนาด 5.81 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ punch hole display ความละเอียดกล้องหลังสูงสุด 12.2 MP กล้องหน้า 8MP chipset ประมวลผลเป็น Snapdragon 730 ความจุเดียวคือ RAM 6GB ROM 128GB ให้แบตเตอรี่มาที่ 3140 mAh รองรับชาร์จไว 18W ตัวเครื่องเรียบๆสเป็คก็เรียบๆ เปิดราคามาอยู่ที่
- Google Pixel 4a ราคา $349 หรือประมาณ 10,900 บาท
Vivo S7
การเปิดตัวของ Vivo S7 เริ่มต้นจากการสร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว brand spokesperson เป็นน้องลิซ่าจากวง Blackpink สเปคภายในมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.44 นิ้ว AMOLED เน้นดีไซน์บางเฉียบ กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 64 MP กล้องหน้าเลนส์คู่ 44 + 8 MP มาดูเรื่องของชิปเซ็ตประมวลผลกันบ้าง Vivo S7 มาพร้อมกับ Snapdragon 765G รองรับ 5G หน่วยประมวลผลสูงสุด RAM 8GB ROM 256GB ส่วนแบตเตอรี่ก็ให้ความจุมากถึง 4000 mAh รองรับชาร์จไวที่ 33W
- Vivo S7 8GB + 128GB = 2798 หยวนหรือราว 12,500 บาท
- Vivo S7 8GB + 256GB = 3098 หยวนหรือราว 13,900 บาท
Azus Zenfone 7 Series
สำหรับ Azus Zenfone 7 เปิดตัวมาทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันคือ Azus Zenfone 7 และ Azus Zenfone 7 Pro เป็นรุ่นเรือธงที่มาพร้อมกับกล้องพับได้ โดยมีการอัพเกรดกล้องหลัง 3 ตัวที่สามารถพลิกหน้าจอมาเป็นกล้องหน้าได้ ซึ่งทาง Asus การันตีว่าเทคโนโลยีนี้รองรับการพับได้ 100 ครั้งต่อวันหรือถ้าตีเป็นตัวเลขยาวๆก็สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 5 ปี โดยให้กล้องความละเอียดหลักสูงสุดที่ 64 MP ส่วนชิปเซ็ตประมวลผลใน Zenfone 7 จะเป็น Snapdragon 865 ส่วน Zenfone 7 pro คือ Snapdragon 865 + โดยทั้งคู่ให้หน่วยความจำมาเท่ากันสูงสุด RAM 8GB ROM 256GB แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 30W สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มภายในเวลา 34 นาที
- Asus Zenfone 7 ราคา 21,990 ดอลล่าไต้หวัน หรือประมาณ 23,700 บาท
- Asus Zenfone 7 Pro ราคา 23,990 ดอลลาร์ไต้หวันหรือประมาณ 30,000 บาท
IQOO 5 Series
ปิดท้ายกันที่รุ่นที่ 10 กับ IQOO 5 Series ที่มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันคือ IQOO 5 และ IQOO 5 Pro แบรนด์ใหม่รุ่นน้องของ Vivo ที่เปิดสเปคมาได้น่าสนใจสุดๆ โดยทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล 6.56 นิ้ว รูปแบบ AMOLED รองรับอัตรารีเฟรชเรทหน้าจอที่ 120Hz 10 set ภายในขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 865 หน่วยความจำสูงสุด RAM 8GB ROM 256GB เรื่องของกล้องให้มาทั้งหมด 3 เลนส์ความละเอียดสูงสุด 50 MP กล้องหน้า 16MP ส่วนแบตเตอรี่ทั้ง 2 รุ่นนั้นมีความแตกต่างกัน IQOO 5 ให้แบตเตอรี่มาที่ 4,500 mAh รองรับชาร์จไว 55W ในขณะที่ IQOO 5 Pro ให้ความจุแบตเตอรี่มาที่ 4000 mAh น้อยกว่าตัวธรรมดาแต่ให้ความเร็วในการชาร์จสูงสุดถึง 120W
- iQOO 5 เริ่มต้นที่ 3,998 หยวน หรือประมาณ 18,000 บาท
- iQOO 5 Pro เริ่มต้นที่ 4,998 หยวน หรือประมาณ 22,000 บาท
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการสรุปข้อมูลมือถือเปิดตัวใหม่ในเดือนสิงหาคม สิ้นเดือนนี้จัดว่าเปิดตัวกันเยอะและหลากหลายทีเดียวตั้งแต่รุ่นเรือธงตลอดจนรุ่นประหยัด ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้แว่วๆมาว่าก็มีมือถือจ่อคิวเปิดตัวอีกเพียบ จะมีรุ่นไหนน่าสนใจกันบ้าง มารอติดตามกันต่อไปในเดือนหน้านี้