หลุดภาพเรนเดอร์ชุดใหญ่ Galaxy Tab S7 และ Tab S7+ พร้อมสเปคแบบครบถ้วนที่นี่ !!

Galaxy Tab S7 Series ก็เป็นอีกรุ่นที่หลายคนจับตามองไม่แพ้ Galaxy Note 20 Series เลย และแน่นอนว่าเป็นอีกรุ่นที่มีข้อมูลหลุดมาก่อนเปิดตัวเช่นกัน ล่าสุดทาง Winfuture ได้โพสต์ภาพเรนเดอร์ของทั้ง 2 รุ่นแบบครบทุกมุมพร้อมสเปคแบบเต็ม ๆ ออกมาแล้วด้วยครับ !!

ดีไซน์บางเฉียบ

โดยภาพเรนเดอร์ชุดใหม่นี้จะแสดงให้เห็นดีไซน์ขอบหน้าจอและตัวเครื่องที่บางเฉียบมาก ๆ รอบนี้ Galaxy Tab S7 จะมีด้วยกัน 2 รุ่นคือ Tab S7 และ Tab S7+ ทั้งคู่มีดีไซน์ทรงเดียวกัน

รุ่นTab S7 บางเพียง 6.34 มม. ในขณะที่ Tab S7+ บาง 5.7 มม. เท่านั้น

จอ 120Hz แล้ว รุ่นเล็กเป็น LCD !?

ในเรื่องของหน้าจอ จะแบ่งเป็นรุ่นจอใหญ่และจอใหญ่มาก ซึ่งสเปคหน้าจอจะแตกต่างกัน รุ่นปกติ Tab S7 จะมาพร้อมหน้าจอ 11” แบบ LTPS LCD ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล ในขณะที่รุ่นท็อป Tab S7+ จะใช้จอ 12.4” แบบAMOLED ความละเอียด 2800 x 1752 พิกเซล ทั้ง 2 รุ่นจะรองรับ Refresh rate 120Hz และ S Pen ที่ 9ms เช่นเดียวกับNote 20 Ultra ด้วยครับ

ในส่วนของดีไซน์ด้านหลังจะเห็นว่ามีการวางกล้องคล้ายกับตอน Tab S6 แต่รอบนี้จะมีแถบแม่เหล็กคาดเป็นสีเด่นขึ้นมากว่าเดิม บอดี้ยังคงเป็น Unibody

สเปคจัดเต็มมี 5G ด้วย

สำหรับสเปค Galaxy Tab S7 Series ก็อัดชิปเซ็ตตัวท็อปสุดอย่าง Snapdragon 865+ มาเลย มีรุ่นรองรับ 5G ด้วย พร้อมหน่วยความจำภายในเริ่มต้นที่ 6GB + 128GB มีลำโพง 4 ตัวรองรับระบบเสียง Dolby Atmos 

ให้กล้องหลังมา 2 ตัว 13MP + 5MP เลนส์หลักกับเลนส์ Ultra Wide และเซลฟี่ความละเอียด 8MP ครับ

Galaxy Tab S7 และ Tab S7+ รองรับระบบ Wireless DeX ฟีเจอร์ใหม่ด้วย

แท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่นนี้มาพร้อม 3 สีคือ Mystic Black, Mystic Bronze และ Mystic Silver ครับ

สเปค Samsung Galaxy Tab S7 | Tab S7+

• หน้าจอ LCD 11” 2560 x 1600 Refresh Rate 120Hz (Tab S7)
• หน้าจอ AMOLED 12.4” 2800 x 1752 Refresh Rate 120Hz (Tab S7+)
• หน่วยประมวลผล Snapdragon 865+
• แรม 6GB
• ความจุ 128GB
• แบตเตอรี่ 7040mAh (Tab S7) | 10090mAh (Tab S7+)
• กล้องหน้า 8MP
• กล้องหลังคู่ 13MP + 5MP
• รัน Android 10 (OneUI 2.5)
  

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ข้อมูลหลุดมาพร้อมก่อนวันเปิดตัว ส่วนฟีเจอร์เด่นอื่น ๆ ของรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร เราคงทราบได้จากในงาน Galaxy Unpacked วันที่ 5 ส.ค.นี้ล่ะครับ ยังไงรอติดตามได้เลย

ที่มา : Sammobile