Huawei มีหวัง! อังกฤษเผยแบน 5G Huawei ด้วยเหตุผลทางการเมือง
รอลุ้นเลือกตั้งสหรัฐฯ ปลายปีนี้ว่าทรัมป์จะอยู่หรือไป!!

เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีข่าวออกมาเปิดเผยว่าอังกฤษได้ทำการแบน 5G ของ Huawei โดยยกเหตุผลเรื่องของความปลอดภัยและการแทรงแซงข้อมูลผ่านอุปกรณ์ของ Huawei จนเกิดเป็นคำสั่งให้ถอนอุปกรณ์ 5G ทั้งหมดออกจากอังกฤษภายในปี 2027 แต่ล่าสุดอังกฤษได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่าการบอยคอตในครั้งนี้เกิดจากเรื่องของการเมือง! และคำสั่งแบนอาจจะมีเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับอนาคตของอเมริกาและอนาคตของทรัมป์ในเดือนพฤศจิกายนนี้!

ก่อนหน้านี้เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สถานการณ์ดีระหว่าง Huawei และสหรัฐอเมริกาซึ่งเกิดเป็นความลุกลามใหญ่โตจนเกิดเป็นการบอยคอตในหลายประเทศพันธมิตรของสหรัฐ ไม่เว้นแม้กระทั่งอังกฤษที่มีคำสั่งออกมาแล้วเมื่อไม่นานนี้ โดยยกเหตุผลว่าการบอยคอตนั้นเป็นข้อกังวลที่มาจาก NCSC หรือคณะกรรมการด้านความมั่นคงและความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่ได้ออกมาแสดงความไม่มั่นใจต่ออุปกรณ์ 5G ใน Huawei ที่ทางสหรัฐแสดงความกังวลมาก่อนหน้านี้ ซึ่งการตัดสินใจของอังกฤษครั้งนี้ก็ได้รับคำชื่นชมจากทรัมป์ด้วย พร้อมกล่าวว่าจะพยายามโน้มน้าวประเทศอื่นด้วยเช่นกัน ซึ่งหลังจากนั้นก็มีรายงานว่าผู้บริหารของ Huawei ก็ได้ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชนว่ารู้สึกผิดหวังและต้องการให้อังกฤษทบทวนต่อการตัดสินใจอีกครั้ง

แต่ล่าสุดมีแนวโน้มว่าคำสั่งอาจจะมีเปลี่ยนแปลงหลังอังกฤษได้ออกมาเปิดเผยว่าการแบนในครั้งนี้เป็นปัญหาทางการเมือง ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งนอกจากมันจะชี้ชะตาอนาคตของสหรัฐแล้ว มันยังชี้ชะตาอนาคตของ Huawei ด้วยเช่นกันว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน หากทรัมป์ไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้ นี่อาจจะเป็นผลดีต่อ Huawei แต่ถ้าผลออกมาในทางกลับกันชะตากรรมของ Huawei ก็คงจะไม่ต่างจากที่ผ่านมาสักเท่าไหร่

สถานการณ์ระหว่าง Huawei และสหรัฐในครั้งนี้ ดูจะเป็นเหมือนหนังไตรภาค ที่มีเรื่องราวซับซ้อนและเชื่อมโยงไปยังหลายส่วน ส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของความไม่มั่นใจในความปลอดภัยต่ออุปกรณ์ อีกส่วนหนึ่งที่อาจจะส่วนใหญ่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องของการเมือง เพราะในบางคำที่อังกฤษได้ออกมาเปิดเผยนั้น มีการเชื่อมโยงถึงความมั่นคงในระยะยาว ซึ่งนั่นอาจตีความได้ว่าการเลือกเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ จะส่งผลดีต่อประเทศในระยะยาวได้มากกว่า แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ก็ยังคงเป็นแค่เพียงการคาดการณ์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกก็เป็นได้ เอาเป็นว่ารอติดตามข่าวสารกันต่อไปถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะนำมาอัพเดทกัน

Source: gizchina, bcc