มาแนะนำ! การเลือกไมโครโฟนสำหรับการทำ LIVE , VLOG หรือ Video Content ควรเลือกอย่างไร
ยุคนี้จะทำ LIVE ทำ VLOG หรือทำ Video Content ให้โดน ให้ปัง นอกจาต้องมีความครีเอทีฟแล้ว เรื่องคุณภาพของวีดีโอและเสียงก็ช่วยให้งานออกมาน่าดูไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเรื่องของเสียงนั้น หากเสียงออกมาไม่ดี ผู้ชมก็คงไม่อยากฟัง หรือฟังไม่รู้เรื่องจนอาจปิดหนีไปเลยก็ได้ ดังนั้นอุปกรณ์เสริมที่สำคัญในเรื่องเสียงที่จะช่วยให้เสียงพูดของเราออกมาชัดเจน ไม่มีเสียงรบกวน จึงต้องอาศัยไมโครโฟนดีๆช่วย แล้วจะเลือกไมโครโฟนมาใช้งานจะเลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับงาน วันนี้ BIG Camera มีคำแนะนำมาฝากกัน
1. เลือกให้ถูกประเภทการใช้งาน อย่างแรกสำหรับการเลือกใช้งานไมโครโฟนก็คือ เลือกไมโครโฟนให้ถูกกับการใช้งานเป็นหลัก โดยไมโครโฟนที่ใช้สำหรับงาน Live , VLOG หรือ Video Content มีอยู่ 3 ประเภทหลักๆได้แก่
- ไมโครโฟนแบบ Lavalier ลักษณะเป็นไมโครโฟนขนาดเล็ก สามารถเหน็บกับเสื้อได้ ช่วยบันทึกเสียงพูดได้ดี ตัดเสียงรบกวนได้ เหมาะสำหรับการ Live สด หรือทำคลิปวีดีโอสัมภาษณ์ ข้อเสียคือมีสายระโยงระยาง เกะกะ
- ไมโครโฟนแบบไร้สาย เป็นไมโครโฟนที่คล้ายแบบ Lavalier แต่สะดวกตรงที่ไม่มีสายเกะกะ แต่ราคาค่อนข้างสูง และต้องใช้ตัวรับและตัวส่งสัญญาณ
- ไมโครโฟนแบบ Shotgun มีลักษณะเป็นไมโครโฟนขนาดใหญ่ใช้ติดกับตัวกล้อง ข้อดีของไมโครโฟนชนิดนี้คือใช้งานได้สะดวก เน้นการรับเสียงจากด้านหน้าเป็นหลัก แต่ก็ยังสามารถรับเสียงบรรยากาศรอบข้างได้ เหมาะสำหรับการ Live แบบมีผู้พูดหลายๆคนพร้อมกันหรือใช้งานทั่วไป แต่ข้อเสียคือ หากรอบข้างมีเสียงดังหรือพูดห่างจากไมโครโฟน จะมีเสียงรบกวนเข้ามาได้
2. งบประมาณที่ตั้งไว้ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นประเด็นตัดสินใจของหลายๆคน แน่นอนว่าไมโครโฟนคุณภาพสูงขึ้น จะมีราคาที่แพงขึ้นตามไปด้วย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าต้องลงทุนกับไมโครโฟนแพงๆเสมอไป เพราะต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่า เช่น อาจจะเลือกไมโครโฟนแบบ Shotgun ซึ่งใช้งานได้ทั้งแบบพูดคนเดียวและพูดหลายๆคน แม้ว่าจะมีเสียงรบกวนล้างหากนำไปใช้นอกสถานที่ที่มีเสียงดัง แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการซื้อมาใช้งาน ไม่ต้องซื้อหลายตัว หลายแบบ
3. ความสะดวกในการใช้งาน ลองดูว่าความสะดวกในการใช้งานมีมากน้อยแค่ไหน ต้องการเคลื่อนที่บ่อย หรืออยากได้ไมโครโฟนที่มีขนาดเล็กหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น หากจำเป็นต้องใช้งานนอกสถานที่และมีการเคลื่อนที่บ่อย อาจจะต้องเลือกความสะดวกด้วยไมโครโฟนแบบไร้สายเพื่อให้เกิดความคล่องตัว การมีสายเกะกะ อาจทำให้แจ็คไมโครโฟนหลุดหรือเสียหายได้ เป็นต้น
4. การใช้งานกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย ด้วยความที่ไมโครโฟนแต่ละรุ่นนั้นส่วนใหญ่ออกแบบมาให้ใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่แตกต่างกันไป เช่น หากต้องการใช้งานได้ทั้งกับกล้องและสมาร์ทโฟน ก็ควรเลือกแบบที่มีสายเปลี่ยนหัวแจ็คได้ เพราะแจ็คไมโครโฟนของกล้องและสมาร์ทโฟนมีรูปแบบแตกต่างกัน เป็นต้น
5. การรับประกัน เพราะไมโครโฟนเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนี่ง การมีการรับประกันก็ช่วยให้เราอุ่นใจได้ว่าสินค้านั้นๆสามารถส่งซ่อมหรือเคลมสินค้าได้หากมีปัญหา หากเลือกซื้อไมโครโฟนจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ก็อาจจะไม่มีการรับประกันสินค้าได้