เปรียบเทียบ
Galaxy S20 Ultra 5G vs OPPO Find X2 Pro | 5G
เรือธงแอนดรอยด์ท็อปสุดตอนนี้
เลือกอะไรดี !?
สวัสดีเพื่อน ๆ TechXcite ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความเปรียบเทียบกับ เฮียแม็พ. TechXcite อีกเช่น วันนี้เรามี 2 เรือธงรุ่นล่าสุดฝั่งแอนดรอยด์ที่กำลังร้อนแรงที่สุดในตอนนี้กับ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G กับ OPPO Find X2 Pro | 5G มาเปรียบเทียบเพื่อประกอบการตัดใจเพื่อน ๆ กันหน่อย ว่าถ้าจะจัดรุ่นท็อปสุดสักรุ่นในตอนนี้ ระหว่าง 2 รุ่นนี้เราควรเลือกรุ่นไหนกันดี !? มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ :D
ดีไซน์
Galaxy S20 Ultra 5G - บอดี้กระจกหน้า - หลัง Gorilla Glass 6, เฟรมอลูมิเนียม, ขนาดตัวเครื่อง 166.9 x 76 x 8.8 มม., น้ำหนัก 220 กรัม, กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
OPPO Find X2 Pro | 5G - หน้าจอกระจก Gorilla Glass 6, ฝาหลังเซรามิก, เฟรมอลูมิเนียม, ขนาดตัวเครื่อง 165.2 x 74.4 x 8.8 มม., น้ำหนัก 207 กรัม, กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
เริ่มกันที่รูปลักษณ์ดีไซน์กันก่อนเลยละกัน ทั้งคู่มาพร้อมดีไซน์ที่สวยโดดเด่นต่างกันชัดเจน เริ่มจากวัสดุฝาหลัง Galaxy S20 Ultra 5G นั้นจะมาพร้อมกับฝาหลังกระจกโค้ง Gorilla Glass 6 พร้อมโมดูลกล้องขนาดใหญ่ที่ด้านหลัง ส่วน OPPO Find X2 Pro | 5G นั้นจะใช้ฝาหลังแบบเซรามิกขัดลายเพิ่มความสวยงามให้ด้านหลังด้วยลายเส้น ตัวโมดูลกล้องจะวางเรียงไว้ที่มุมซ้ายบน ทั้งคู่มีตัวเลนส์ที่ยื่นออกมาพอ ๆ กันเนื่องจากตัวเลนส์ Periscope ครับผม ขนาดตัวเครื่องถือว่าทำได้ใกล้เคียงกันครับ ตัว S20 Ultra 5G จะใหญ่กว่าหน่อยและหนักกว่าด้วยน้ำหนัก 220 เทียบกับ 207 กรัมของ OPPO Find X2 Pro | 5G ซึ่งตรงนี้ OPPO จะได้เปรียบกว่าครับ
ทั้งคู่มาพร้อมหน้าจอโค้งเหมือนกัน แต่บน S20 Ultra 5G จะโค้งแบบ 2.5D แทน ต่างจากบน OPPO Find X2 Pro | 5G ที่ยังคงแบบ 3D ซึ่งทั้งคู่มีขอบหน้าจอที่บางเฉียบมาก มีกล้องหน้าเจาะรูเหมือนกันแต่วางคนละตำแหน่งครับ S20 Ultra 5G อยู่ตรงกลางส่วน Find X2 Pro | 5G จะอยู่ที่มุมซ้ายบนครับ รองรับมาตรฐานกันน้ำที่ IP68 ทั้งคู่ หมายความว่าสามารถกันน้ำได้ที่ระดับความลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาทีครับ ตรงนี้ได้มาเท่ากัน ไม่มีใครเด่นกว่ากันเนอะ
สรุปในเรื่องของดีไซน์ทั้งคู่ก็โดดเด่นแตกต่างกัน มีความหรูหราทั้งคู่ ตรงนี้คงตัดสินได้ยากเพราะแล้วแต่รสนิยมน่ะเนอะ อันนี้เลยเสมอกันไปก่อน :D
หน้าจอ
Galaxy S20 Ultra 5G - หน้า Dynamic Amoled 2X 6.9", แสดงผล 8bit (16.7 ล้านสี, Contrast 2,000,000:1), ความละเอียด WQHD+ (3200 x 1440), อัตราส่วน 20:9, Refresh Rate 120Hz (ใช้ได้เฉพาะบนความละเอียด FHD+)
OPPO Find X2 Pro | 5G - หน้าจอ Amoled 6.78", แสดงผล 10bit (1 พันล้านสี, Contrast 5,000,000:1), ความละเอียด QHD+ (3168 x 1440), อัตราส่วน 19.8:9, Refresh Rate 120Hz
เข้าสู่เรื่องหน้าจอที่เชื่อว่าทั้งคู่มีทีเด็ดไม่แพ้กันเลย ทั้งคู่ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอยอดเยี่ยมที่สุดในตลาดตอนนี้ เพราะได้คะแนนจาก Display Mate ในระดับ A+ เท่ากัน แต่…ถ้าดูตามสเปคอย่างเดียวทาง OPPO Find X2 Pro | 5G ได้เปรียบกว่าอย่างเห็นได้ชัด ด้วยหน้าจอแบบ 10bit ที่แสดงผลได้ถึง 1,000,000,000 ล้านสี แถมได้คอนทราสมากถึง 5,000,000:1 ซึ่งเมื่อเทียบกับ Galaxy S20 Ultra 5G ที่ใช้หน้าจอแบบ 8bit มาตรฐานเดิมคือแสดงผลได้ที่ 16.7 ล้านสีและมีคอนทราสสูงสุดที่ 2,000,000:1 ครับ มองด้วยตาเปล่าเอาจริง ๆ ก็ถือว่าใกล้เคียงกันครับ ทั้งคู่ทำได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ
ขนาดหน้าจอตรงนี้ทาง S20 Ultra 5G นั้นได้เปรียบกว่าด้วยขนาด 6.9" เทียบกับ 6.78" ของ Find X2 Pro | 5G แต่จุดที่ทำให้ความแตกต่างเห็นชัดชั้นอีกหน่อยก็คือความโค้งของหน้าจอที่ของ S20 Ultra 5G นั้นจะน้อยกว่าเรียกว่าแทบจะเป็นจอแบนไปแล้ว แต่ Find X2 Pro | 5G นั้นเป็นจอโค้งทำให้ถ้ามองกันตรง ๆ การแสดงผลของ S20 Ultra 5G จะมากกว่าหน่อย และอัตราส่วนหน้าจอก็แตกต่างกันนิดหน่อยที่ 20:9 vs 19.8:9 ครับผม
ความละเอียดหน้าจอ QHD+ เหมือนกัน ดูจากตัวเลขแล้วความละเอียดของทั้งคู่นั้นเรียกว่าเป็นระดับเดียวกันเลยคือ 2K+ แสดงผลได้สวยงามมาก ๆ มี Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz เท่ากันด้วย แต่ ! สำหรับ S20 Ultra 6G นั้นจะถูกล็อคความละเอียดอยู่ที่ FHD+ เมื่อเปิด 120Hz ในขณะที่ OPPO Find X2 Pro | 5G นั้นได้ที่ QHD+ และ 120Hz เลยครับ
ถ้าเทียบแล้ว OPPO Find X2 Pro | 5G จะชนะไปด้วยการที่แสดงผลความสวยงามได้สวยกว่า (จอ 10bit QHD+ 120Hz ได้) แต่ S20 Ultra 5G จะได้เปรียบกว่าในเรื่องของขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าและหน้าจอที่แบนกว่า (หลายคนอาจจะชอบมากกว่า)
สเปค
Galaxy S20 Ultra 5G - หน่วยประมวลผล Exynos 990, แรม 12GB (LPDDR5), ความจุภายใน 128GB (UFS3.0), รองรับ micro-SD สูงสุด 1TB, รองรับ 5G
OPPO Find X2 Pro | 5G - หน่วยประมวลผล Snapdragon 865, แรม 12GB (LPDDR5), ความจุภายใน 512GB (UFS3.0), ไม่รองรับ micro-SD, รองรับ 5G
อีกเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของสเปค ทั้งคู่จัดเป็นระดับเรือธงท็อปสุดเหมือนกัน ให้สเปคมาจัดเต็มมาก ๆ แล้ว ทั้งรองรับ 5G แรม 12GB LPDDR5 หน่วยความจำภายในแบบ UFS3.0 อีกต่างหาก แต่จุดที่แตกต่างกันหลัก ๆ เลยคือหน่วยประมวลผลบน S20 Ultra 5G จะใช้ Exynos 990 ตัวล่าสุดของ Samsung ประสิทธิภาพสูงมาก !
ส่วน OPPO Find X2 Pro | 5G ใช้ Snapdragon 865 ตัวท็อปสุดของ Qualcomm เช่นกัน ทั้งคู่ใช้สถาปัตยกรรมแบบ 7nm เหมือนกัน ในเรื่องคะแนนการทดสอบคงต้องยอมรับว่าบน Snapdragon 865 นั้นทพตัวเลขได้สูงกว่าชัดเจน
แต่ในการใช้งานจริง รวมถึงเล่นการเล่นเกมด้วยแล้ว เท่าที่สัมผัสมาทั้ง 2 รุ่นนั้นใกล้เคียงกันมาก เรียกว่าไม่ได้แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดขนาดนั้น เล่นเกมจริง ๆ สเปคของทั้ง 2 รุ่นก็เล่นได้อย่างลื่นไหล แต่จะมีจุดที่ Snapdragon 865 ทำได้ดีกว่าตรงการตั้งค่าบางอย่างในเกมที่ GPU Adreno 650 นั้นทำได้ดีกว่าเล็กน้อย (อาทิ การปรับตัวเลือกลลบรอยหยักในเกม Call of Duty) ส่วนถ้าพูดถึงประสิทธิภาพแล้ว ทั้งคู่ทำได้ไม่ต่างกันครับ เร็วแรงสมกับเป็นเรือธงทั้งคู่
แต่ ! อีกเรื่องที่ OPPO Find X2 Pro | 5G นั้นเด่น S20 Ultra 5G ก็คือเรื่องความจำภายในที่ให้มาต่างกันเยอะเลยที่ 512GB (Find X2 Pro) กับ 128GB (S20 Ultra) ซึ่ง Samsung ยังใจดีให้เราได้เพิ่ม micro-SD ได้ถึง 1TB แทนที่หน่วยความจำที่ให้มา 128GB ได้ครับ ในขณะที่ของ OPPO จะไม่สามารถเพิ่มมาได้
ในหัวข้อสเปคจริง ๆ แล้วใกล้เคียงกันมากครับ ในการใช้งานจริงก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน แต่ในหัวข้อนี้เราขอยกให้ OPPO Find X2 Pro | 5G ชนะไปด้วยความจุภายในที่เยอะกว่าแบบมหาศาลรวมถึง Snapdragon 865 ที่แอบได้เปรียบกว่าในการเล่นเกมนิดหน่อยด้วย ครับ
กล้อง
Galaxy S20 Ultra 5G - กล้องหลัง 4 ตัว
- กล้องหลัก: 108MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.33" f/1.8 PDAF OIS
- เลนส์ Ultra Wide: 12MP, f/2.2 มุมกว้าง 120 องศา
- เลนส์ Periscope 4x: 48MP, PDAF, OIS, (รองรับ Optical Hybrid Zoom 10x, Digital Zoom 100x และ VDO Zoom 20x)
- กล้อง Depth Vision: ToF 3D
OPPO Find X2 Pro | 5G - กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 48MP เซ็นเซอร์ Sony IMX689 1/1.43" f/1.7 PDAF OIS
- เลนส์ Ultra Wide Angle: 48MP เซ็นเซอร์ IMX586 f/2.2 120 องศา
- เลนส์ Periscope 5x: 13MP (รองรับ Hybrid Zoom 10x, Digital Zoom 60x, และ VDO Zoom 30x)
มาสู่เรื่องกล้องที่น่าจะเป็นจุดสนใจของทุกคนเกี่ยวกับ 2 รุ่นนี้ เพราะทั้ง 2 รุ่นนี้ให้สเปคกล้องพร้อมพลังซูมมาแบบจัดเต็มมาก ๆ ซึ่งฟีเจอร์การใช้งานก็เพียบ ๆ เช่นกัน มาพร้อม 3 ช่วง 3 ระยะคือ Ultra Wide + Normal + Tele แต่สเปคจะแตกต่ากันอยู่ชัดเจนดังนี้
Galaxy S20 Ultra 5G จะมาพร้อมกล้องหลังความละเอียดสูงสุดที่ 108MP และเลนส์ Ultra Wide 12MP ส่วนตัวซูมโหดก็เป็น Periscope 48MP เริ่มต้นที่ 4x แบบ Optical Zoom และรองรับ Hybrid Zoom ที่ 10x สูงสุดแบบ Digital ที่ 100x ครับ เรียกว่าสเปคจัดเต็มมาก ๆ
ในขณะที่ OPPO Find X2 Pro | 5G นั้นจะเป็น 48MP ทั้งเลนส์หลักและเลนส์ Ultra Wide Angle ส่วนตัวซูม Periscope นั้นเป็น 13MP เริ่มต้นที่ 5x แบบ Optical Zoom รองรับ Hybrid ที่ 10x เหมือนกันและสูงสุดที่ 60x ครับ
มองจากตรงนี้แล้วค่อนข้างสูสีครับ ทั้ง 2 รุ่นนั้นโดดเด่นไม่แพ้กัน Find X2 Pro | 5G จะได้เปรียบกว่าในเรื่องของเลนส์ Ultra Wide Angle, ส่วน S20 Ultra 5G ได้ซูมไกลกว่าและคุณภาพในการซูมที่ดีกว่าครับ
นอกจากนี้ในเรื่องยิบย่อยอย่างฟีเจอร์เรื่องกล้องยังมีอีกเพียบ ทั้งโหมดวิดีโอกันสั่นหรือวิดีโอความละเอียดสูง รวมถึงหล้องหน้าอีกด้วย ตรงนี้เรามองว่าเสมอกันอยู่ แต่เดี๋ยวไว้จะมีบทความเปรียบเทียบในเรื่องกล้องให้ชมกันชัด ๆ เพิ่มเติมอีกทีว่า 2 รุ่นนี้ใครทำได้ถูกใจมากกว่าเนาะ :D
แบตเตอรี่
Galaxy S20 Ultra 5G - 5000mAh, รองรับชาร์จไวสูงสุด 45W (ซื้อเพิ่ม), รองรับ Wireless Charge
OPPO Find X2 Pro | 5G - 4260mAh, รองรับชาร์จไวสูงสุด 65W (แถมมาให้ในกล่อง), ไม่รองรับ Wireless Charge
อีกเรื่องทีเรา ๆ ให้ความสำคัญก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของแบตเตอรี่ มองจากตัวเลขแล้วชัดเจนเลยว่า S20 Ultra 5G นั้นนำไปเลยด้วยความจุแบตฯที่เยอะกว่ามาก 5000mAh เทียบกับ 4260mAh ของ Find X2 Pro | 5G แต่จากการใช้งานจริงเปรียบเทียบกันแล้ว ความจุแบตฯที่ห่างกันขนาดนี้แต่ผลลัพธ์อยู่ในเกณฑ์ที่ใกล้เคียงกันครับ ไม่ต่างกันมากอย่างที่คิดไว้
ส่วนเรื่องระบบชาร์จอันนี้ OPPO Find X2 Pro | 5G ก็กินขาดไปเหมือนกันให้ระบบชาร์จไว SuperVOOC 2.0 65W มาเลยในกล่อง พร้อมชาร์จไวแบบ 38 นาทีเต็ม 100% ในขณะที่ S20 Ultra 5G นั้นให้ 25W มาในกล่องแต่จริง ๆ แล้วรองรับสูงสุดถึง 45W เลยด้วยนะ แต่โดยรวมก็ยังชาร์จได้ช้ากว่าอยู่ดีด้วยแบตเตอรี่ที่เยอะกว่ากันน่ะนะ
แต่ยังมีอีกเรื่องที่ S20 Ultra 5G ได้เปรียบกว่า Find X2 Pro | 5G ก็คือเรื่องระบบชาร์จไร้สายที่สามารถใช้งานได้ รวมถึงสามารถปล่อยไฟให้กับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้ด้วยระบบ PowerShare ด้วยครับ
ในเรื่องของแบตเตอรี่คงต้องยกให้เสมอกันไปอีก ! ด้วยความสามารถที่ให้มาแตกต่างกัน ในเรื่องความจุแบตฯถึงแม้จากตัวเลขจะแตกต่างกันมาก แต่การใช้งานจริงถือว่าใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น S20 Ultra 5G ก็ยังอึดกว่าเล็กน้อย แต่เรื่องชาร์จ OPPO ก็กินขาดไปแล้ว และก็มาเสมอกันที่ฟีเจอร์พวกชาร์จไร้สายนี่แหละครับ
ราคา
Galaxy S20 Ultra 5G - 39,900 บาท
OPPO Find X2 Pro | 5G - 40,990 บาท
ปิดท้ายกันที่ราคา ใกล้เคียงกันมากจริง ๆ ต่างกันราว 1,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าเป็น 2 รุ่นที่ถ้าอยากได้เรือธงแอนดรอยด์ตอนนี้ก็คงต้องมองมาที่พวกนี้แหละ ถ้าตามจุดเด่นหลัก ๆ ที่เรายกมาเปรียบเทียบแล้วก็ถือว่าสมราคาทั้งคู่ ต้องลองชั่งน้ำหนักกันดูเลยครับว่าจุดที่ช่วยให้ตัดสินใจจริง ๆ คือเรื่องอะไร ความจุภายในไหม ? เอ…หรือเรื่องกล้อง ? เรื่องหน้าจอด้วยรึเปล่า ? ครับ !
แล้วตกลงเลือกอะไรดีล่ะ !?
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะมีคำตอบในใจอยู่บ้างแล้วว่าเราเหมาะกับเรือธงตัวไหนมากกว่ากัน แต่ถ้าใครที่ยังเลือกไม่ได้งั้นเอาแบบนี้ละกันครับ…
เลือก Galaxy S20 Ultra 5G ถ้า…
อยากได้สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นท็อปสุดของ Samsung ตอนนี้ ชอบการดีไซน์และฟีเจอร์โดยรวม อยากได้สมาร์ทโฟนหน้าจอสวยสุดในแบบ 2.5D ไม่โค้งแบบก่อน ๆ แล้ว อยากได้การทำงานที่ลื่นไหลทุกแอปประมวลผลต่าง ๆ ไม่ซีเรียสเรื่องการเล่นเกม ความจุ 128GB พอใช้แล้วไม่พอก็เพิ่มเม็มเอา และที่สำคัญชอบกล้องที่โดดเด่นตามสไตล์ Samsung ถ่ายง่ายถ่ายสวยและซูมได้สุดพลังถึง 100x ไปเลย ถ้าความต้องการของเพื่อน ๆ คือแบบนี้ก็จัด Galaxy S20 Ultra 5G ไปได้เลยไม่ต้องลังเลครับ !
เลือก OPPO Find X2 Pro | 5G ถ้า…
อยากลองเทคโนโลยีแบบขั้นสุดในทุกมิติ ทั้งหน้าจอ 10bit แสดงผลดีที่สุดในตลาดตอนนี้ รับได้ถ้าหน้าจอเป็นแบบโค้งไม่ซีเรียส อยากได้ประสิทธิภาพขั้นสุดในทุกด้าน ประมวลผลเร็ว เล่นเกมลื่นพร้อมตัวเลือกครบ และความจุสะใจ 512GB ใช้กันไปเลยยาว ๆ อยากลองกล้องตัวใหม่ที่ความละเอียดสูงทั้งตัวหลักและ Ultra Wide Angle ซูมแค่ 60x ก็พอแล้ว และไม่ชอบชาร์จแบตฯนาน ๆ อยากได้แบบไวที่สุดในโลก OPPO Find X2 Pro | 5G นั้นจะตอบโจทย์แบบที่หาไม่ได้จากรุ่นไหนแล้วครับ !
ทั้งนี้ทั้งนั้นนี่ก็เป็นเพียงการให้ข้อมูลของเราประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเรือธงแจ่ม ๆ สักเครื่องเท่านั้น ทั้ง 2 รุ่นมีความโดดเด่นในแบบของตัวเอง จะมีบางอย่างที่รุ่นหนึ่งทำได้ดีกว่า บางอย่างที่อีกรุ่นหนึ่งทำได้ดีกว่า แต่สุดท้ายแล้วอะไรที่เราต้องการดีที่สุด ก็คงต้องมาหาคำตอบกันอีกทีเนาะ เพราะแต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกัน หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อยนะครับ สำหรับวันนี้ เฮียแม็พ. TechXcite คงต้องลาไปก่อน ไว้พบกันใหม่บทความหน้าครับ :D
บทความโดย : เฮียแม็พ. TechXcite