Review : เลนส์ Sony FE 35mm F1.4 Carl Zeiss Distagon T* เลนส์เกรดโปรระยะยอดนิยม
นับเป็นอีกหนึ่งเลนส์ในระยะยอดนิยมของนักถ่ายภาพ เพราะไม่ว่าจะเป็นสาย Street สาย Portrait หรือสายท่องเที่ยว ต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่าระยะเลนส์ 35mm นั้นตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างดีทีเดียว เพราะสามารถถ่ายภาพได้หลากหลายแนว เป็นเลนส์อเนกประสงค์ที่ใช้งานสะดวก และวันนี้เราจะมาชมรีวิวของเลนส์ระยะ 35mm ของชาว Sony กับเลนส์ Sony FE 35mm F1.4 Carl Zeiss Distagon T*
สำหรับเลนส์ตัวนี้ เป็นเลนส์ในตระกูล Zeiss ของ Sony มีทางยาวโฟกัสที่ 35mm สามารถใช้งานได้กับกล้อง Sony Full Frame Mirrorless ได้ เพราะเป็นรหัส FE และเมื่อใช้งานกับกล้องเซ็นเซอร์ APS-C จะได้ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 52.5mm ในส่วนของรูปร่างหน้าตาของเลนส์ Sony FE 35mm F1.4 Carl Zeiss Distagon T* ดูแล้วมีขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับบอดี้กล้อง ขนาดตัวเลนส์ 7.85 x 11.2 เซนติเมตร มีน้ำหนัก 630 กรัม ใช้ฟิลเตอร์ขนาด 72mm ตัวเลนส์ประกอบด้วยชิ้นเลนส์จำนวน 12 ชิ้น 8 กลุ่ม ให้ค่ารูรับแสงกว้างสุดที่ f1.4 และแคบสุดที่ f16 กลีบรูรับแสง 9 ใบ จากการได้สัมผัสเลนส์ตัวนี้พบว่ามีความประณีตทั้งงานประกอบ วัสดุที่ใช้ก็ดูพรีเมียม สมกับเป็นเลนส์ในตระกูล Zeiss
ความพิเศษของเลนส์ Sony FE 35mm F1.4 Carl Zeiss Distagon T* คือมีวงแหวนปรับรูรับแสงที่ตัวเลนส์ ซึ่งการออกแบบในลักษณะนี้มีประโยชน์ในการใช้งานเมื่อถ่ายวีดีโอ เพราะสามารถปรับค่ารูรับแสงได้จากตัวเลนส์โดยตรง ซึ่งสะดวกกว่าการปรับค่าที่ตัวกล้อง ส่วนมอเตอร์โฟกัสที่ใช้ในเลนส์เป็นแบบ DDSSM (Direct Drive Super Sonic wave Motor) ที่ช่วยให้โฟกัสชิ้นเลนส์ใหญ่ๆ ได้เร็วขึ้นและเงียบมาก
สำหรับการใช้งานวีดีโอก็มีสวิตซ์เลือก Click เป็น On-Off ให้ คือเมื่อต้องการใช้งานวีดีโอและไม่ต้องการให้มีเสียงคลิกรวมถึงหมุนปรับค่ารูรับแสงได้สะดวกก็ปรับเป็น Off ไป จะได้หมุนได้ลื่น และแน่นอนว่าตัวเลนส์มีการซีลป้องกันละอองน้ำและฝุ่น ตัวเลนส์มาพร้อมกับฮูดให้ในกล่องเลย
พอประกบเข้ากับตัวกล้องแล้วก็ถือว่าตัวเลนส์มีขนาดใหญ่นิดนึง แต่เมื่อใช้งานกับกล้อง Sony A7R III ที่ติดกริปแล้วจะจับได้ถนัด เต็มไม้เต็มมือให้บาลานซ์ในการจับถือที่ดีกว่าเลนส์เล็กๆ เพราะต้องอย่าลืมว่าตอนนี้เองทาง Sony ก็มีอีกสองตัวเลือกสำหรับเลนส์ในระยะ 35mm คือ Sony Planar T* FE 35mm f/2.8 ZA ที่เป็นเลนส์ในตระกูล Zeiss เหมือนกัน แต่มีขนาดเล็กมากๆ เพียงแต่ค่ารูรับแสงเริ่มต้นอยู่ที่ f2.8 ซึ่งหลายคนบอกว่ายังไม่สว่างพอนัก ส่วนอีกตัวคือ Sony FE 35mm f1.8 ที่มีขนาดเล็กและเบาอีกตัว แต่ได้รูรับแสงเป็น f1.8 จึงกลายเป็นเลนส์ยอดนิยมอย่างมากอีกตัว ทีนี้ถามว่าเลือกตัวไหนดี ก็อยู่ที่งบประมาณและความต้องการในการใช้งานแล้วล่ะ เพราะแต่ละตัวก็มีลักษณะแตกต่างกันออกไป ถ้าอยากได้เล็กๆเบาๆ ไม่ซีเรียสเรื่องรูรับแสงก็เลือกตัว f2.8 แต่ถ้าอยากได้บบคุ้มค่าคุ้มราคาก็เลือก f1.8 ส่วนตัว f1.4 ตัวนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่เรียกว่าตัวจบ เพราะตอบโจทย์การทำงานได้หลากหลายที่สุดทั้งเรื่องค่ารูรับแสงกว้าง f1.4 และวงแหวนปรับรูรับแสงสำหรับใช้งานวีดีโอ
ทีนี้มาดูเรื่องคุณภาพของเลนส์ตัวนี้กันบ้างดีกว่า สำหรับ Sony FE 35mm F1.4 Carl Zeiss Distagon T* มีชิ้นเลนส์พิเศษคือ ชิ้นเลนส์ Aspherical 3 ชิ้น และชิ้นเลนส์ Advanced Aspherical (AA) 1 ชิ้น จัดเต็มสมกับเป็นเลนส์เกรดโปรในระยะนี้ สามารถโฟกัสได้ใกล้สุดที่ 30 เซนติเมตร เมื่อนำไปทดสอบถ่ายภาพเพื่อดูความคมชัดก็ต้องบอกว่า ในช่วงกลางภาพที่ f1.4 นั้นทำได้น่าพอใจ มีความชัดค่อนข้างดีแต่ก็อาการฟุ้งให้เห็น ในขณะที่ขอบภาพนั้นคุณภาพความคมชัดจะลดลงมา และจะให้ความคมชัดที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และดูดีมากๆในช่วงรูรับแสงที่ f4 เป็นต้นไป
จากภาพด้านบนลองครอปภาพให้เห็นรายละเอียดแบบ 100% ทั้งบริเวณกลางภาพและขอบภาพ จะสังเกตได้ว่าที่เมื่อหรี่รูรับแสงลงจะได้ภาพที่คมชัดมากขึ้น อาการฟุ้งที่ f1.4 หายไป
ลองทดสอบถ่ายภาพบุคคลที่ f1.4 พบว่ามีความฟุ้งให้เห้น ไม่ได้คมกริบไปซะทีเดียวแต่การละลายฉากหลังสร้างมิติภาพได้ดีตามสไตล์เลนส์รูรับแสงกว้าง ส่วนสีสันและคอนทราสต์นั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ไม่ถึงกับจัดจ้านมากนัก เอาไว้ใช้ถ่าย Portrait ก็ถือว่าเข้าท่า มีลักษณะ 3D Pop เด้งมีมิติ และให้ Skin Tone ของผิวที่สวยงาม
ลองย้อนแสงจังๆกันต่อเลย ทดสอบกันแบบโหดๆพบว่ามีแสงแฟลร์เกิดขึ้นง่ายเหมือนกัน ตรงนี้ก็ผิดหวังนิดหน่อยเพราะคิดว่าน่าจะคุมแสงแฟลร์ได้ดีกว่านี้ แต่ที่ชอบก็คือสีสันและคอนทราสต์ที่ยังสดใสอยู่แม้ถ่ายภาพในลักษณะย้อนแสง ตรงนี้ก็ว่ากันไปตามจริงว่ามีจุดเด่นจุดด้อยตรงไหนบ้าง จะได้เป็นแนวทางการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกใช้งานเลนส์ตัวนี้
ลองย้อนแสงกันอีกสักภาพเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า เกิดอาการ Ghost ออกมาให้เห็นง่ายเหมือนกัน แต่ความฟุ้งของแสงน้อย สีสีนและคอนทราสต์ทำได้ดีมากๆ กลายเป็นว่าเลนส์ตัวนี้สู้แสงแฟลร์ไม่ค่อยได้ แต่กลับไม่เกิดอาการแสงฟุ้งจนเสียคอนทราสต์และความสดใสของภาพ
แล้วเรื่องของอาการขอบม่วง CA (Chromatic aberration) เป็นยังไงบ้างหลังจากที่เจออาการสู้แสงไม่ได้ไปแล้ว เลยลองถ่ายอะไรที่มันมีโอกาสจะเกิดอาการขอบม่วง ปรากฏว่าเห็นชัดอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะช่วง Out Focus ที่เห็นเป็นสีม่วงๆออกมา ตรงจุดนี้ถือว่าทำได้ไม่ดี ต้องตำหนิครับ
ลองดูภาพครอป 100% ที่ไม่ได้มีการแก้ไขเรื่องขอบม่วงใดๆครับ พบว่าอาการที่ปรากฏเป็นสีเหลื่อมเห็นได้ชัด ในขณะที่จุดที่อยู่ในช่วงระยะชัดมีสีเหลื่อมออกเขียวเป็นขอบให้เห็น
ส่วนอาการขอบมืด ลองทดสอบถ่ายภาพออกมาดูพบว่าเลนส์ตัวนี้มีอาการขอบมืดให้เห็นโดยเฉพาะช่วงรูรับแสงกว้างสุดที่ f1.4 วิธีแก้ไขคือต้องใช้โปรแกรมแต่งภาพช่วยหรือไม่ก็ต้องหรี่รูรับแสงลงหน่อย จุดนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่เป็นจุดด้อยของเลนส์เหมือนกัน ดังนั้นถ้าสรุปรวมๆในเรื่องของคุณภาพด้านออพติคของเลนส์ Sony Planar T* FE 35mm f/2.8 ZA ตัวนี้ก็พบว่ามีปัญหาหลายจุดเหมือนกัน ในขณะที่ส่วนที่เด่นๆจะเป็นเรื่องของสีสัน คอนทราสต์
มาดูกันต่อเรื่องการโฟกัสบ้าง เลนส์ตัวนี้สามารถทำงานร่วมกับกล้องได้อย่างรวดเร็ว ลองทดสอบโดยใช้ระบบ AF-C กับ Animal Eye-AF พบว่า ทำงานได้อย่างแม่นยำไม่หลุดโฟกัสวืดวาด สามารถตามติดโฟกัสได้ดี จุดนี้ให้สอบผ่านได้ง่ายๆ
นำเอาภาพถ่ายต่อเนื่องมาให้ชมกัน กล้องสามารถโฟกัสที่ตาของน้องแมวได้แม่นยำ สามารถโฟกัสต่อเนื่องได้เงียบและรวดเร็วมาก เอาไปใช้ถ่ายภาพเด็กๆหรือภาพที่ต้องการการโฟกัสแบบต่อเนื่องถือว่าโอเคเลย หลังจากที่ก่อนหน้านี้โดนติไปเยอะเรื่องของคุณภาพออพติค ยกนี้มาแก้ตัวเรื่องระบบโฟกัสแทนละกัน
แล้วเรื่องโบเก้ล่ะเป็นยังไง มาดูตัวอย่างรูปกันได้เลย สำหรับภาพที่ได้จากเลนส์ตัวนี้ก็พบว่าสามารถสร้างโบเก้ได้กลมเนียน เนื่องจากกลีบรูรับแสง 9 ใบที่ให้มานั้นช่วยในเรื่องของลักศณะโบเก้ที่เป็นทรงกลมสวยอยู่แล้ว
เมื่อนำไปถ่ายภาพบุคคลก็ได้ลักษณะโบเก้ที่กลมสวย แต่วงไม่ใหญ่นักเนื่องจากเป็นเลนส์ที่มีระยะ 35mm ที่มีมุมองศารับภาพค่อนข้างกว้าง โบเก้ที่ได้จะเป็นดวงเล็กๆมากกว่า แต่ก็ระยิบระยับวิบวับได้ง่ายๆด้วยค่ารูรับแสง f1.4
สำหรับระยะทำการของเลนส์ 35mm โดยปกติแล้วก็จะเน้นถ่ายภาพได้หลากหลาย การที่สามารโฟกัสได้ใกล้ประมาณ 30 เซนติเมตร แม้ว่าจะไม่ถึงกับจ่อใกล้ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องถอยออกมาไกลนัก ใช้งานถ่ายภาพพวกวัตถุใกล้ๆจ่อได้ดี พกไว้ไปเที่ยว ถ่ายภาพอาหารหรือจะถ่ายภาพแนวสิ่งของต่างแบบให้มีมิต หน้าชัดหลังเบลอกระจุยกระจายได้ดี
และแน่นอนว่าความที่เป็นเลนส์ที่ถ่ายทอดคอนทราสต์และสีสันได้อย่างยอดเยี่ยมจามที่บอกไปแล้ว ทำให้เลนส์ตัวนี้เอาไปใช้ถ่ายภาพแล้วได้โทนของภาพออกมาสยงามแบบจบหลังกล้องได้ (ถ้าไม่ถึงกับย้อนแสงจังหรือไปถ่ายอะไรที่มีโอกาสเกิดขอบม่วง เช่น วัตถุสีขาวสะท้อนแสง) ภาพที่ได้ออกมาจากเลนส์ตัวนี้ถือว่าใช้ได้ทีเดียว
จุดเด่นของเลนส์ตัวนี้เลยจากการนำเอาไปทดสอบถ่ายภาพ พบว่าเหมาะกับการเป็นเลนส์ท่องเที่ยว และเลนส์สำหรับการถ่ายภาพแนวสตรีท รวมถึงการใช้เลนส์นี้เพื่อการถ่ายภาพบุคคลที่ต้องการให้เห็นฉากหลัง จะได้รู้ว่าไปเที่ยวที่ไหนมา เพราะด้วยระยะทำการของเลนส์เองบวกกับค่ารูรับแสง f1.4 สร้างความเด้งมีมิติออกมาได้อย่างดีทีเดียว
สำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์นั้นก็ไม่มีปัญหา เพราะเมื่อใช้ค่ารูรับแสงที่แคบลง ปรากฏว่าภาพที่ได้นั้นคมชัดมากๆ บวกกับคอนทราสต์ที่ดีและสีสันที่สดใส ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังที่นำเลนส์ตัวนี้ติดตัวไปถ่ายภาพด้วยจริงๆ
เดี๋ยวลองดูตัวอย่างภาพจากเลนส์ตัวนี้กันว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะนำไปใช้ถ่ายภาพระหว่างท่องเที่ยวมาก่อนที่สถานการณ์ไวรัส COVID-19 จะระบาดเป็นวงกว้างที่ประเทศญี่ปุ่น (เกือบไม่ได้ไปรีวิวแล้ว แถมกลับมาต้องกักตัวอีก 14 วันต่างหาก ซึ่งตอนนี้พ้นระยะแล้วจ้า ปลอดภัยสบายดี) เรียกว่าพกเลนส์ไปรีวิวรอบนี้ก็โชคดีที่ได้รูปสวยๆมาแบบหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาพแนวทิวทัศน์ ภาพแนวสตรีท รวมถึงภาพบุคคล ภาพอาหาร แม้จะเป็นเลนส์ทางยาวโฟกัสเดี่ยว ซูมไม่ได้ แต่กลับรู้สึกว่าองศารับภาพแบบนี้ใช้งานง่ายในหลายๆสถานการณ์โดยไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์
ลองดูตัวอย่างสำหรับงานถ่ายภาพ Portrait กันดูบ้างว่าสามารถสร้างมิติของภาพได้ดีแค่ไหน และอย่างที่บอกไปว่าเป็นเลนส์ที่เน้นถ่ายคนแล้วเก็บฉากหลังไปในตัวได้ง่ายๆ ในขณะที่ก็ยังทำหน้าชัดหลังเบลอได้ดี ยังพอมองรู้ว่าเป็นที่ไหนไม่ถึงกับละลายหาย แต่กลับมีความ 3D Pop ออกมา
และทิ้งท้ายสำหรับเลนส์ Sony FE 35mm F1.4 Carl Zeiss Distagon T* จากการใช้งานก็ต้องให้ความเห็นว่า เป็นอีกหนึ่งเลนส์ที่ให้ภาพสวยจริงๆ ในเรื่องของคุณภาพออพติคที่ทดสอบเมื่อพิจารณาแบบชนิดซูมกันจะๆ ทำให้เห็นข้อบกพร่องบ้าง แต่เมื่อมองภาพรวม เช่นระบบโฟกัส หรือคอนทราสต์และสีสันที่ได้กลับกลายเป็นว่าเลนส์ตัวนี้ทำออกมาได้น่าใช้อยุ่ไม่น้อย ทีนี้ก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของคุณแล้วว่าจะพิจารณาด้านไหนบ้าง
สรุปการใช้งาน
จุดเด่น
- ระบบโฟกัสภาพที่เร็ว เงียบ ทำงานได้ดีมากๆ
- สีสันและคอนทราสต์ที่ยอดเยี่ยม
- คมและโบเก้สวยงาม
- วัสดุและงานและงานประกอบที่ดี
- มีซีลป้องกันละอองน้ำและฝุ่น
จุดสังเกต
- ความคมชัดที่ f1.4 ยังไม่สุด
- แพ้ย้อนแสง และปรากฏให้เห็นขอบม่วงชัดเจนมาก
- ขนาดค่อนใหญ่และน้ำหนักค่อนข้างมาก