กลุ่มทรู ชนะการประมูลคลื่น 5G ย่าน 2600MHz และ 26GHz ย้ำภาพเครือข่ายที่เร็
กลุ่มทรู ขอบคุณสำนักงานกสทช. ที่นำคลื่นความถี่ที่ใช้บริการ 5G มาจัดสรรเพื่อให้ประเทศไทยมีบริการ 5G ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสร้างประโยชน์ให้แก่คนไทย เตรียมพร้อมนำคลื่นความถี่ทั้งย่าน 2600MHz จำนวน 9 ชุด หรือ 90 เมก และคลื่นความถี่ย่าน 26GHz จำนวน 8 ชุดหรือ 800 เมกที่กลุ่มทรูได้ชนะการประมูลครั้งนี้ เร่งพัฒนาเครือข่าย 5G ที่ดีที่สุด เพื่อให้บริการแก่คนไทยโดยเร็ว
มั่นใจด้วยจุดเด่นทั้งเรื่องความครบครันและครอบคลุมของคลื่นความถี่ที่กลุ่มทรูมีอยู่ทั้งย่านความถี่ต่ำและย่านความถี่สูงทั้งหมด รวมถึงความพร้อมจากการทดสอบให้บริการ 5G มาแล้วกับทุกภาคส่วนและทุกภูมิภาคทั่วไทยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ผนวกกับความแข็งแกร่งของพันธมิตร ไชน่าโมบายล์ที่มีประสบการณ์ในการเปิดให้บริการ5G ด้วยคลื่น 2600MHz รวมถึงดิจิทัลแพลทฟอร์ม และคอนเทนต์ของกลุ่มทรูที่เป็น Ecosystem ที่สำคัญของบริการ 5G จะตอกย้ำความมุ่งมั่นของกลุ่มทรูที่จะพัฒนาบริการ 5G ที่ดีที่สุด เป็นผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับผู้บริโภคชาวไทยและประเทศไทยได้อีกครั้ง
นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การชนะการประมูลคลื่นย่านความถี่เพื่อให้บริการ 5G ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งไมล์สโตนที่สำคัญของกลุ่มทรู ที่จะเดินหน้ารักษาความเป็นผู้นำบริการดิจิทัลที่ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนานวัตกรรมบริการต่างๆ ให้ชาวไทยได้ก้าวทันทุกเทรนด์เทคโนโลยีของโลก ซึ่งการชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 2600MHz และ 26GHz ในครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่จะเป็นเครือข่ายที่ดีที่สุด ซึ่งต้องเติมเต็มคลื่นความถี่ในปริมาณที่มากขึ้นให้เพียงพอรองรับทุกการเปลี่ยนแปลง และมีครบทั้งย่านความถี่ต่ำและย่านความถี่สูง โดยเฉพาะคลื่นความถี่ย่าน 2600MHz ที่ชนะการประมูลครั้งนี้ นับเป็นคลื่นความถี่หลักที่จะสร้างความได้เปรียบในการให้บริการ 5G ของกลุ่มทรูได้อย่างโดดเด่นและเหนือชั้น เพราะนอกจากจะเป็นคลื่นความถี่ที่เหมาะสมกับการให้บริการ 5G มี Ecosystem ทั้งอุปกรณ์โครงข่าย สมาร์ทโฟนพร้อมรองรับในตลาดแล้วทั่วโลก ยังเป็นคลื่นความถี่ในย่านเดียวกันกับบริการ 5G ของไชน่าโมบายล์
คอนเทนต์ IoT ที่เป็น Ecosystem ที่สำคัญของบริการ 5G ไม่ว่าจะเป็น ทรูไอดี, และ Vertical Solutions ต่างๆ นำมาต่อยอดเพื่อเติมเต็มบริการ 5G ให้ตอบสนองทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล และตอบโจทย์การใช้งานของภาคธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วกว่า
สำหรับมูลค่าการประมูลคลื่น 5G ในครั้งนี้ เป็นไปตามที่บริษัทได้ประเมินไว้ ซึ่งได้ศึกษามาแล้วอย่างรอบคอบพร้อมกับมีบริษัทที่ปรึกษาช่วยพิจารณาประเมินราคาที่เหมาะสมทางธุรกิจ ทำให้บริษัทได้ถือครองคลื่นความถี่ในย่านที่เหมาะสมและคุ้มค่าในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยทันทีที่บริษัทฯได้รับใบอนุญาตจากกสทช.จะสามารถนำคลื่นความถี่ที่ประมูลได้มาเพิ่มศักยภาพการให้บริการ 4G ในปัจจุบันได้ทันที โดยจะช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้บริการดาต้าที่ดียิ่งขึ้น ตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้าที่ต้องการความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัโดยพลิกโฉมวงการโทรคมนาคมไทย เข้าสู่การให้บริการในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริงและเป็นโอกาสที่สำคัญที่ทำให้กลุ่มทรูจะเป็นผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลง ให้ประเทศไทยอีกครั้งเพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ใช้บริการที่ดีที่สุดทั้งนำเทคโนโลยีและบริการ 5G ”นายอาณัติ กล่าวสรุป