ชมตัวอย่างภาพถ่ายแรกของ Galaxy S20 ทั้งซูม 30x และ Night Mode
ก่อนงานเปิดตัวคืนนี้ !!
Galaxy S20 เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในคืนนี้แล้ว ล่าสุดก็ยัฃมีข้อมูลออกมาไม่หยุดหย่อน รอบนี้เป็นตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Galaxy S20+ ที่โชว์ให้เห็นการซูมระดับ 30x พร้อมกับภาพ Night Mode เปรียบเทียบกับ Galaxy S10 ด้วยครับ
Ok. First photo is out of the main sensor and second is 30X zoom. Both from the S20+. https://t.co/YQLgusmdhE pic.twitter.com/nEEhhPhFiz
— Max Weinbach, enemy of Samsung (@MaxWinebach) February 10, 2020
โดยคนปล่อยภาพชุดนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น พี่ Max Weinbach จาก XDA Developers คนเดิมที่เคยปล่อยภาพหลุดตัวเครื่องพร้อมข้อมูลอีกมากมายนี่แหละ ซึ่งภาพชุดแรกจะเป็นการซูม 30x ที่พี่แกทวีตผ่าน Twitter ส่วนตัว พร้อมแคปชั่นสั่นว่า “OK ภาพแรกคือภาพจากกล้องหลักนะ และภาพที่ 2 ก็คือภาพซูม 30x, ทั้ง 2 ภาพถ่ายจาก S20+ จ้ะ”
ซึ่งจากในภาพจะเห็นว่าระยะซูมนั้นใกล้เข้าไปที่กล่อง SEGA Genesis อย่างชัดเจน และดูเหมือนการซูมระดับ 30x นี้จะเป็นแบบ Digital Zoom ครับ รายละเอียดต่าง ๆ มีความไม่คมชัดเหมือน Optical Zoom น่ะเนอะ
WELL I'M GLAD YOU ASKED.
— Max Weinbach, enemy of Samsung (@MaxWinebach) February 10, 2020
First 2 are S10, second 2 are S20. https://t.co/gjQTdpQcWr pic.twitter.com/PGuayLBMHM
นอกจากนี้ยังมีการทวีตภาพ Night mode เพิ่มเติมด้วย โดยเป็นการเปรียบเทียบระหว่างภาพจากกล้องของ S10 และ S20 ให้เห็นความต่าง โดยจากภาพเปรียบเทียบนี้จะเห็นว่าความสว่างและโทนสีของ S20 นั้นดีขึ้นมากเลยทีเดียว ความคมชัดนั้นดีขึ้น รวมถึงโทนสีออกไปทางโทรเย็นต่างจาก S10 ที่ออกอมเหลืองและความคมชัดน้อยกว่าชัดเจน
1 S10
— Max Weinbach, enemy of Samsung (@MaxWinebach) February 10, 2020
2 S20 https://t.co/Zdhc4kZqh4 pic.twitter.com/Vgf4QhHUSx
และแถมให้อีกนิดกับภาพเปรียบเทียบในสภาพแสงในห้องระหว่าง S10 และ S20 (ภาพกล่อง Genesis เหมือนเดิม) ครับ
ก็ถือว่าหลุดจนหยดสุดท้ายจริง ๆ สำหรับ Galaxy S20 ในรอบนี้ แต่นี่เป็นเพียงแค่ข้อมูลของ Galaxy S20 รุ่นปกติเท่านั้น เรายังไม่ได้เห็น S20 Ultra ที่ว่ากล้องเทพสุด ๆ ของซีรีส์หลุดออกมาบ้างเลย ยังไงรอติดตามข้อมูลทางการในคืนนี้ (เวลาตี 2) ได้เลย ทาง Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy S20 Series อย่างเป็นทางการแล้วครับ :D
ที่มา : Sammobile, Max Weinbach[1][2][3]