แกะกล่องและดีไซน์
Review: Vivo V17 มือถือจอรูเล็กสุดในปฐพี พร้อมกล้องหน้าและหลังแบบจัดเต็ม!!
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนค่า กู๊ดดรีม TechXcite จะมาส่งท้ายรีวิวปลายปีก่อนจะเริ่มศักยราชใหม่ ซึ่งรีวิวตัวสุดท้ายของปีนี้ดรีมอยู่กับ Vivo V17 ถ้าใครจำได้ ตัวรุ่นพี่อย่าง V17 Pro ก็เพิ่งวางขายสร้างความฮือฮาระลอกหนึ่งแล้ว ถึงคราวตัวธรรมดาจะออกมาฉายแสงกันบ้าง ซึ่งรุ่นนี้ต้องบอกว่ามีหลายส่วนเหมือนกับ V17 Pro และก็มีหลายส่วนที่โดดเด่นขึ้นมาจากตัวโปรเหมือนกัน หน้าตาจะเป็นอย่างไรเราลงไปแกะพร้อมกันเลยดีกว่า
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
- ตัวเครื่อง Vivo V17
- เคสใส
- คู่มือการใช้งาน
- สาย USB Type-C
- อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ (18W)
- หูฟัง
- เข็มจิ้มถาดซิม
สำหรับอุปกรณ์ในกล่องก็ให้มาครบครัน ดรีมชอบดีไซน์ของหูฟังที่แตกต่างออกไปจากรุ่นก่อนๆ ดีไซน์โค้งรับเข้ากับใบหู มีโลโก้ Vivo อยู่ด้านนอกใส่มาในกล่องอย่างดี ต่างจากรุ่นอื่นๆ และ V17 Pro ที่ม้วนมาในห่อพลาสติก รูปแบบนี้ดูน่าใช้กว่าเดิมมาก
ส่วนสายชาร์จก็มาเป็น USB-C ตามที่หลายคนเรียกร้อง ชาร์จง่าย หัวไม่หลวม หาซื้อสายชาร์จได้ง่าย
มาดูดีไซน์รอบๆ ตัวเครื่องกัน
กรอบตัวเครื่องจะใช้วัสดุเป็น Polycarbonate ผิวด้าน มีเพิ่มลวดลายเป็นเส้นช่วยให้สัมผัสได้ดีขึ้น ฝาหลังเป็นเหมือนกระจกมันเงาคล้ายไข่มุก เล่นมิติของแสงและเงาเมื่อโดนแสงแดด ดีไซน์สวยมากๆ สามารถใช้งานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
ตำแหน่งของกล้องวางในแนวดิ่ง 3 ตัววางเรียงกันและอีกหนึ่งตัววางแถวเดียวกับแฟลช เป็นดีไซน์ที่แตกต่างจาก V17 Pro อย่พอสมควร ส่วนตัวอักษรต่างๆ ถูกจัดวางในแนวนอนอยู่ด้านซ้าย ดีไซน์สวยงามทันสมัย แต่แอบชอบดีไซน์การวางเรียงกล้องตรงกลางซะมากกว่า
หน้าจอเป็น Super AMOLED Ultra O Screen เป็นหน้าจอแบบใหม่ และเป็นครั้งแรกของ Vivo กับหน้าจอรูซึ่งเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าตอบโจทย์การใช้งานพื้นที่บนหน้าจอได้คุ้มค่าดี
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหากใครไม่ชอบรอยติ่ง หยดน้ำ รอยบาก และกล้อง Pop up หน้าจอรูก็ถือว่าไม่เกะกะสายตาดีนะ
ด้านซ้ายมือจะมีช่องใส่ซิมการ์ดโดยถาดซิมเป็นแบบ Triple Slot ใส่ได้ทั้ง nano-SIM 2 ซิมและ micro-SD ด้วย
อีกหนึ่งจุดต่างของ V17 และ V17 Pro คือ ปุ่ม Google Assistance ที่หายไป ใน V17 Pro ยังมีอยู่ แต่ตัวล่าสุดอย่าง V17 ปุ่มนั้นหายไปแล้ว ซึ่งข้อดีข้อเสียก็แล้วแต่ความชอบและความสะดวกของแต่ละคนนะ
ด้านขวาเป็นปุ่มพาวเวอร์ และปุ่ม Volume เพิ่มลดเสียง
ด้านบนเป็นไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
พอร์ตการเชื่อมต่ออยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่องทั้งหมด มีช่องหูฟัง 3.5 มม. มาให้ พอร์ตการเชื่อมต่อหลักจะเป็น USB Type-C และลำโพงหลักของตัวเครื่อง
โดยรวมของดีไซน์ เรื่องการเล่นสีและเล่นมิติของแสงยังคงเหมือนกับ V17 Pro แต่ใช้การจัดวางรูปแบบของกล้องที่แตกต่างกันออกไป น้ำหนักเบาดีนะ จับถือสะดวกง่าย ยิ่งตรงช่วงขอบวีโว่เขาดีไซน์เส้นรอบ ๆ ตัวเครื่องขึ้นมาเพื่อช่วยในการจับถือไม่ให้ลื่นออกแบบมาได้ดีมาก
และส่วนสำคัญของหน้าจอที่ไม่พูดถึงไม่ได้อย่างจอ Super AMOLED Ultra O Screen กับเทคโนโลยีกล้องรูครั้งแรกของ Vivo ทำออกมาได้ดี รบกวนพื้นที่การใช้งานหน้าจอน้อย เพราะแทรกอยู่แค่ตรงมุมเล็กๆ ของหน้าจอเท่านั้น
สเปคการใช้งาน
สเปค Vivo V17
- หน้าจอ Super Amoled Ultra O Screen 6.44" FHD+
- อัตราส่วน 20:9
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 675 Octa-core 2GHz
- แรม 8GB
- ความจุ 256GB
- รองรับ micro-SD
- แบตเตอรี่ 4500mAh
- รองรับชาร์จไว 18W
- กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล f/2.45
- กล้องหลัง 48 + 8 + 2 + 2 ล้านพิกเซล
- รัน Android 9.0 Pie ครอบด้วย FunTouchOS 9.2
คะแนน Antutu
หลังจากทดสอบคะแนน Antutu แล้วอยู่ที่ 228562 ส่วน Ranking อยู่อันดับที่ 48 มีคะแนนมากกว่า V17 Pro ที่มีคะแนน 174842 ชัดเจนเรื่องของการอัปเกรด CPU ให้ดีขึ้นกว่าตัว Pro อยู่นิดนึง
การเล่นเกมส์และการดูหนังฟังเพลง
ROV
แน่นอนว่าเทส Antutu กันมาแล้วก็มาเทสเข้าเกมส์กันโลด เริ่มประเดิมกันที่เกมส์สุดฮิตอย่าง ROV ซึ่งเป็นเกมที่กราฟฟิกสูง ใช้การประมวลผลค่อนข้างมาก ก่อนเริ่มเกมทำการปรับตั้งค่าทุกอย่างสูงสุด ภาพ HD เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมแบบเต็มสตรีม ว่าภาพจะหน่วง กระตุก หลุดรึเปล่า
ซึ่งหลังจากได้ทดลองเล่นไม่เจอปัญหาเลยนะ เล่นได้ไหลลื่น ในจังหวะเข้าไฟต์หรือจังหวะบวกก็ไม่มีอาการกระตุกให้ได้เห็น ส่วนเครื่องเมื่อปรับตั้งค่าสูงสุดเล่นไปนานๆ อาจจะทำให้เครื่องร้อนได้ แนะนำว่าให้ปรับค่าทุกอย่างในเกณฑ์ที่เครื่องแนะนำ จะทำให้การเล่นเกมส์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ภาพก็ยังสวยเหมือนเดิม
Call of Duty
สำหรับเกมนี้จะหัวร้อนน้อยลงมาหน่อย แต่ถ้า CPU ประมวลผลไม่ดีก็เผาหัวได้เหมือนกัน เกมนี้จุดที่น่าสนใจและช่วงสำคัญคือจังหวะของการเคลื่อนที่และการซูม ซึ่ง V17 ก็ทำออกมาได้ดีเคลื่อนไหวได้พริ้วไหว แถมจังหวะการซูมก็มีไม่หน่วง ไม่กระตุก เล่นเกมส์ได้ดีทั้งสองเกมเลย
การดูหนังฟังเพลง
หน้าจอเต็มพื้นที่ ภาพสีสวยคมชัด ไม่รอยติ่งให้อึดอัดใจ รูกล้องหน้าแทบไม่สร้างปัญหาในการใช้งานหน้าจอ
ระบบเสียงอาจจะไม่ได้ดังกระหึ่มอะไรมากมาย แต่ลำโพงข้างเดียวก็ถือว่าเพียงพอ และก็เอาอยู่สำหรับการใช้งานทั่วไปนะ เวลาเล่นเกมส์ที่ต้องใช้ทักษะการฟังเสียงฝีเท้าของศัตรูก็ชัดเจนดีมาก
ซอฟต์แวร์ และฟีเจอร์การใช้งาน
สำหรับซอฟต์แวร์ของ Vivo V17 จะมาพร้อมกับ FunTouchOS 9.2 เวอร์ชั่นล่าสุด ครอบอยู่บน Android 9.0 Pie ทำงานได้อย่างลื่นไหล
ความปลอดภัย
Vivo V17 รองรับการสแกนลายนิ้วมือและใบหน้า โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ใน Setting การสแกนลายนิ้วมือทำได้ผ่านหน้าจอ ประมวลผลได้ไวและแม่นยำดีมาก
การแคปหน้าจอ
ทำได้โดยการกดปุ่มพาวเวอร์พร้อมกับปุ่มลดเสียง และอีกหนึ่งรูปแบบคือการใช้สามนิ้มลากหน้าจอจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน โดยไฟล์ภาพจะไปอยู่ในแกลอรี่
หน้าจอแยก
สำหรับในโหมดนี้มีมาใส่ในหลายรุ่นของ Vivo แล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าในบางแอปพลิชั่น สามารถตั้งหน้าจอแยกเป็นสองจอได้ โดยหน้าจอหนึ่งสามารถเปิดแอปเฟสบุ๊ค พร้อมกับการใช้งานหน้าจอหลัก วิธีการใช้งาน เข้าไปที่การตั้งค่าทางลัดแล้วเลือกโหมดหน้าจอแยก จากนั้นเข้าไปหน้าแอปที่ต้องการแล้วทำการใช้สามนิ้วลากจอจากด้านบนลงล่าง ตรงข้ามกับการแคปหน้าจอเพื่อเริ่มต้นใช้งานสองหน้าจอ
กล้อง
กล้องหลัง 4 ตัว 48 + 8 + 2 + 2 ล้านพิกเซล
- เลนส์หลัก 48MP
- เลนส์ Wide 8MP ถ่ายภาพมุมมองกว้าง
- เลนส์ Depth 2MP ถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลาย
- เลนส์ Macro 2MP ถ่ายภาพในมุมมองที่ใกล้
ฟีเจอร์กล้องก็เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของ Vivo V17 เพราะให้มามากถึง 4 ตัว ซึ่งเลนส์แต่ละตัวก็มีคุณสมบัติและให้มุมมองของภาพที่แตกต่างกัน ลองมาดูตัวอย่างภาพถ่ายเมื่อนำไปใช้งานกัน
ความประทับใจของดรีมคือความสามารถในการดึง HDR ของภาพออกมาได้สีสดคมชัดแม้ว่ากำลังถ่ายย้อนแสง ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งประสิทธิภาพของ AI ที่ต้องยอมรับว่า Vivo ค่อนข้างทำได้ดี ดึงแสง ลบเงาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แทบไม่ต้องไปเข้าแอปเสริมแอปแยก
สำหรับเลนส์ Wide ดรีมจะเห็นข้อเปรียบเทียบในหลายๆ รุ่นจากหลายๆ รุ่น ข้อที่เด่นชัดมากๆ ก็คือ เลนส์ Wide ของ Vivo V17 สามารถดึง HDR ให้ภาพสีสดคมชัดได้ดีไม่แพ้กล้อง 48 ล้านเลย แล้วยังให้มุมมองภาพกว้างที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งในหลายๆ รุ่นดรีมมักจะจะเจอปัญหากล้องเลนส์ Wide ทำภาพซีดเบลอ แต่ V17 ยอมรับว่าทำออกมาได้ดีจริงๆ
เลนส์ Depth ทำหน้าชัดหลังละลายในตัว Vivo V17 ดรีมว่ามันยังมีความผิดพลาดของการตัดขอบตัวแบบกับฉากหลังอยู่นิดนึง ไม่ได้แม่นยำ 100 เปอร์เซนต์ ซึ่งถ้ามองภาพรวมก็อาจจะไม่เห็นรอยต่อที่ถูกตัดออกจากฉากหลัง แต่ถ้าซูมภาพเข้าไปก็จะเห็นชัดเจนถึงการตัดเบลอแบบหลุดขอบ ถามว่ามันเป็นปัญหามากมั้ยดรีมคิดว่าคนส่วนใหญ่ที่ถ่ายรูปด้วยมือถือ ส่วนมากก็อัปโหลดลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งสุดท้ายก็จะถูกทำให้ความละเอียดต่ำลงจนแทบไม่เห็นรอยต่อ หรือไม่ได้เป็นจุดสังเกตขนาดนั้น ถ้าไม่ได้มีการนำภาพไปขยายใหญ่อะไร เรื่องนี้ก็ไม่ถือเป็นปัญหา
สำหรับเลนส์ Depth นั้นส่วนใหญ่มีไว้เพื่อการถ่ายภาพ Portrait ถ่ายคน ถ่ายสิ่งของที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อเน้นให้วัตถุเด่นขึ้นมา ไฟล์ภาพจะเป็นอย่างไรมาดูกัน
การถ่าย Portrait ทั่วไป
Super Macro เป็นเลนส์เพื่อการถ่ายภาพในระยะใกล้ เพื่อสร้างมุมมองที่แตกต่าง โดยถ่ายห่างออกจากวัตถุประมาณ 4 ซม. เพื่อให้ได้ระยะของภาพที่โฟกัสได้ง่ายที่สุด
Night Mode เป็นโหมดเพื่อการถ่ายภาพกลางคืน สามารถปรับแสง ดึง HDR ออกมาได้สวย ภาพคมชัด ไม่แตก ไม่เสียความละเอียด
กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
เป็นความละเอียดของกล้องหน้าที่สูงที่สุดแล้ว ซึ่งตัวเลข 32 นี้ก็ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะให้ภาพเซลฟี่ที่คมชัด ซึ่งแน่นอนว่าสาวๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการความคมชัดละเอียดทุกพื้นผิวจากกล้องหน้า แต่เราต้องการความฟรุ้งฟริ้งที่ดูธรรมชาติ หนุ่มๆ อาจจะงง แต่สาวๆ เก็ตแน่นอน และ V17 ก็ไม่ทำให้สาวๆ ผิดหวัง เพราะใส่ AI Face Beauty เพื่อการปรับแต่งภาพอัตโนมัติ ให้ภาพเซลฟี่ที่คมชัด แต่เนียนใสแบบเป็นธรรมชาติ สามารถปรับระดับได้ถึง 100 ระดับกันไปเลย
นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นมาให้แต่งภาพอีกเพียบแบบพร้อมใช้งาน ไม่ต้องไม่เข้าแอปแยกให้เสียเวลาเลย ทั้ง Filter และ Light Effect แต่งจบครบในที่เดียว
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
แบตเตอรี่ 4500 mAh
ปริมาณแบตเท่านี้ดรีมว่าเยอะแล้วนะ เพียงพอต่อการใช้งานทั้งวันแถมยังรองรับเทคโนยีชาร์จเร็ว 18W เท่านี้ก็สบายใจแล้ว ซึ่งพอร์ทชาร์จก็เป็นไปตามที่ทุกคนเรียกร้อง Type C มีสายชาร์จมาให้ในกล่องพร้อม อแดปเตอร์
สรุปการใช้งาน
ถ้าจะให้คำนิยามของ Vivo V17 ดรีมว่ามันคือมือถือที่ครบ ครบทั้งหน้าจอที่พัฒนาให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่มากยิ่งขึ้นโดยการพัฒนากล้องหน้าแบบหน้าจอรู ครบทั้งดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย RAM ที่ให้มามากจุใจพร้อม CPU ที่เอาอยู่ทุกแอปพลิเคชั่น ไฮไลท์เรื่องของกล้องก็ไม่ทำให้ผิดหวังจัดมาเต็มๆ เน้นๆ 4 ตัว ถ่ายภาพครอบจักรวาล ให้คุณภาพไฟล์ที่ดีเกินคาด ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 4500 mAh รองรับการใช้งานทั้งหลายทั้งปวงที่อึดพอตัวแล้วยังชาร์จเร็ว 18W เป็นอีกหนึ่งรุ่นของ Vivo ที่น่าสนใจมากๆ โดยจะเปิดวางจำหน่ายวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ในราคา 11,999 บาท
สามารถกดสั่งซื้อได้ที่นี่ สั่งซื้อ Vivo V17 Lazada
นอกจากนี้ยังสามารถเป็นเจ้าของ Vivo V17 ได้แล้ววันนี้ที่ AIS , TRUE , Dtac ในราคาเริ่มต้นเพียง 6,999 บาท เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AIS Shop , Telewiz Shop , True Shop , Dtac Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ
ข้อดี
- ใช้งานหน้าจอได้เต็มพื้นที่มากยิ่งขึ้น
- กล้องหลัง 4 ตัว
- แบตเตอรี่ใช้งานทนทาน
- RAM เยอะจุใจ
- ดีไซน์สวยเริ่ด
จุดสังเกต
- หน่วยประมวลผลอาจจะน้อยไปเมื่อเทียบกับราคา