แกะกล่องและดีไซน์
Review: Vivo S1 Pro สมาร์ทโฟนกล้องเลนส์ 4 เซลฟี่แจ่ม RAM 8GB
มาพร้อมดีไซน์ฝาหลังสวยเก๋แบบใหม่ เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน
สวัสดีเพื่อนๆ ที่ติดตามรีวิวจากพวกเรา TechXcite เสมอมา กู๊ดดรีม มาส่งรีวิวและภาพสวยๆ ให้ทุกคนได้เสพกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในรีวิวตัวนี้มาเอาใจสาวๆ ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป หรือหนุ่มๆ ที่อยากจะเอาใจแฟน กับสมาร์ทโฟนกล้องมากถึง 4 ตัว และกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียดถึง 32 ล้านพิกเซล อย่าง Vivo S1 Pro ซึ่งก่อนหน้านี้ดรีมก็ได้รีวิวตัว S1 ตัวธรรมดาไปแล้ว ถึงคิวรุ่น Pro กันบ้าง นอกจากกล้องสวย เซลฟี่แจ่มแล้ว Vivo S1 Pro ตัวนี้จะมีทีเด็ดอะไรซ่อนอยู่อีกบ้าง ลงไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย
แกะกล่อง
- เครื่อง Vivo S1 Pro
- เคสใส
- คู่มือการใช้งาน
- หูฟัง Jack 3.5
- สายชาร์จ USB-C
- Adaptor
- เข็มจิ้มถาดซิม
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องค่อนข้างครบครันเลยทีเดียวตามสไตล์ Vivo ตัวเคสใสมีความยืดหยุ่นสูงแต่ก็แข็งแรงทนทาน สายชาร์จเป็นแบบ USB-C และสายหูฟัง Jack 3.5 เพื่อการเสียบฟังเพลงผ่านพอร์ทได้เลย ไม่ต้องใช้สายแปลงอีกที
ดีไซน์
Vivo S1 Pro มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.38 นิ้ว FHD+ แบบ Super AMOLED จอกว้างสุดขอบ มีติ่งหยดน้ำเล็กๆ เป็นตำแหน่งของกล้องหน้า เหนือกล้องคือลำโพงสนทนาวางซ่อนเล็กๆ ในแนวยาว
ดีไซน์ฝาหลังจัดเรียงกล้องสี่ตัว เป็นทรงสี่เหลี่ยมวางฐานและหัวในมุมแหลมคล้ายเพชร แยกแฟลชไว้ด้านล่างสุด ถือว่าเป็นการจัดวางกล้องในแนวใหม่ที่ออกมาดูทันสมัย เก๋ไก๋ดีมาก ส่วนโลโก้วางยาวในแนวนอน วัสดุฝาหลังเป็นพลาสติกมันวาว จับแล้วใส่สัมผัสที่ดี เล่นลวดลายของแสงในแนวตั้งเมื่อสะท้อนกับแสงแดดหรือแสงไฟ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ฝาหลังสวยงามมาก
ด้านบนเป็นตำแหน่งของพอร์ทเพื่อเสียบสายหูฟัง ซึ่งในบางรุ่นนั้นตัดทิ้งไปแล้วเพื่อความสวยงาม แต่ก็มีหลายคนซึ่งดรีมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่รู้สึกว่าการมีพอร์ทแจ๊ค 3.5 ไว้มันสะดวกกว่ามาก
ด้านล่างเป็นพอร์ทชาร์จ USB-C อย่างที่หลายคนต้องการ ข้างกับลำโพงทางขวา ซึ่งข้อดีของการวางลำโพงในลักษณะนี้คือนิ้วเราจะไม่บังเสียงลำโพงตอนเล่นเกมส์ ที่จะต้องถือโทรศัพท์ในแนวนอน
ด้านซ้าย เป็นถาดซิมแบบรองรับการใช้งานนาโนซิม และถ้าใครจำได้ก็จะเอ๊ะขึ้นมาว่าปุ่มเพื่อเรียกใช้งาน Google Assistance นั้นหายไปแล้ว อันนี้ต้องบอกก่อนว่าหลายคนรู้สึกว่าการมีปุ่มนี้มันทำให้เรียกใช้งานผู้ช่วย Google ได้สะดวกขึ้น แต่บางคนก็รู้สึกว่าปุ่มนี้มันเซ้นซิทีฟเหลือเกิน โดนนิดโดนหน่อยก็เข้าโหมด Google Assistance ซึ่งดรีมก็เป็นจำนวนคนที่คิดว่าปุ่มนี้มันเกะกะ ฮ่าๆ เอาออกไปแล้วรู้สึกแฮปปี้มากกว่า
ด้านขวาเป็นปุ่ม เปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง วางในตำแหน่งที่สามารถควบคุมได้ง่ายด้วยนิ้วโป้ง
สเปคการใช้งาน
- หน้าจอขนาด 6.38 นิ้ว FHD+ Super AMOLED
- CPU Qualcomm Snapdragon 665 octa-core
- Android 9.0 Pie ครอบด้วย Funtouch OS
- GPU Adreno 610
- RAM 8GB
- ROM 128GB
- รองรับหน่วยความจำได้สูงสุด 256GB
- กล้องหลัง 48 MP + Wide 8MP + Bokeh 2MP + Macro 2MP
- กล้องหน้า 32MP
- สแกนลายนิ้วมือใต้จอ และสแกนใบหน้า
- Battery 4500 mAh รองรับ Dual-Engine Fast Charging
คะแนน Antutu
เมื่อลองเช็คคะแนน Antutu Benchmark อยู่ที่ 179086 คะแนน ก็ถือว่าไม่น้อยนะ สำหรับ CPU Snapdragon 665 ไปทดสอบเล่นเกมส์กันเลยดีกว่า
การเล่นเกมส์และการดูหนังฟังเพลง
การเล่นเกมส์
เริ่มที่เกม ROV ซึ่งเป็นเกมที่กราฟฟิกสูง ใช้การประมวลผลค่อนข้างมาก ก่อนเริ่มเกมทำการปรับตั้งค่าทุกอย่างสูงสุด ภาพ HD เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมแบบเต็มสตรีม ว่าภาพจะหน่วง กระตุก หลุดรึเปล่า ซึ่งจากการทดสอบระหว่างเล่นเกมส์ เล่นได้ไหลลื่นดีมาก ในจังหวะเข้าปะทะ ก็ไม่เกิดอาการค้างหรือกระตุกเลย เฟรมเรทยังคงนิ่งไปจนจบเกมส์
มาต่อกันที่เกมส์ Call of Duty อีกหนึ่งเกมส์ยอดนิยมใช้การประมวลผลสูงไม่แพ้กัน ก็ยังคงทำได้ดี ซึ่งจังหวะต้องระวังของการเล่นเกมส์นี้คือจังหวะของการซูมเข้าออก ซึ่งจะเป็นส่วนที่จะทำให้เกิดอาการกระตุกได้ง่าย แต่ไม่เป็นกับ S1 Pro เล่นได้ไหลลื่นจนจบเกมส์เช่นเดียวกัน ถือว่าสมรรถนะของ CPU และ RAM ทำงานร่วมกันดีมาก
การดูหนังฟังเพลง
หน้าจอเต็มพื้นที่ ภาพสีสวยคมชัด ระบบเสียงอาจจะไม่ได้ดังกระหึ่มอะไรมากมาย แต่ลำโพงข้างเดียวก็ถือว่าเพียงพอ และก็เอาอยู่สำหรับการใช้งานทั่วไปนะ
ซอฟต์แวร์ และฟีเจอร์การใช้งาน
Vivo S1 Pro ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 pie เพื่อการทำงานที่ไหลลื่น และรวดเร็ว หน้าตาของ UI เป็นไอคอนสี่เหลี่ยมลากนิ้วจากด้านล่างเพื่อเรียกใช้งานการตั้งค่าทางลัด
การสแกนลายนิ้วมือและใบหน้า
Vivo S1 Pro สามารถสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอได้ โดยแถบสแกนลายนิ้วมือที่มักอยู่ด้านหลังถูกถอดออกไป ส่วนการตั้งค่านั้นเข้าไปตั้งค่าได้ใน Setting การตั้งค่าลายนิ้วมือและใบหน้า โดยทำการตั้งรหัสผ่านเพื่อความปลอดภัยก่อนการบันทึกลายนิ้วมือ เช่นเดียวกับการสแกนใบหน้า ที่สามารถทำได้รวดเร็วดีมาก
การแคปหน้าจอ
สามารถทำได้โดยการกดปุ่มพาวเวอร์และปุ่มลดเสียงพร้อมกันซึ่งไฟล์ภาพนั้นจะไปอยู่ในคลังแกลอรี่
กล้อง
ประกอบด้วยกล้องหลังมากถึง 4 เลนส์
- กล้องหลัง 48 MP
- Wide 8MP
- Bokeh 2MP
- Macro 2MP
- กล้องหน้า 32MP
มาดูตัวอย่างภาพในแต่ละเลนส์กันเลยดีกว่าว่าคุณภาพเมื่อนำไปถ่ายแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
ไฟล์ภาพจากเลนส์ความละเอียด 48MP เมื่อลองถ่ายภาพย้อนแสง ไฟล์ภาพจะถูกดึง HDR ออกมาเพื่อให้ฉากหลังยังคมชัด ในขณะที่ตัวแบบก็สว่างขึ้นมาเช่นกันไม่ได้ถูกกลบไปกับเงาแสง อีกทั้งยังทำให้ภาพดูสีสันสดใสขึ้นมาอีกด้วย
สำหรับเลนส์ Wide 8 ล้านพิกเซลนั้นเป็นเลนส์มุมกว้าง เพื่อเก็บองค์ประกอบภาพที่ครบถ้วนมากกว่าเดิม ซึ่ง Wide ของ Vivo S1 Pro นั้นให้มุมมองกว้างที่ดูเป็นธรรมชาติ มีความโค้งของขอบที่ไม่ได้ผิดสัดส่วนจนดูแปลกเกินไป อีกทั้งยังทำให้ภาพดูมีมิติมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
การถ่าย Portrait และเลนส์โบเก้ 2 ล้านพิกเซล เพื่อการสร้างภาพหน้าชัดหลังละลาย จะทำให้ตัวแบบดูโดดเด่นขึ้นมา ซึ่ง Vivo S1 Pro สามารถเลือกปรับค่า f ได้ต่ำสุดถึง f/0.95 และสูงสุดคือ f/16 แต่ดรีมแนะนำว่าสัก f/1.6 – 2.2 กำลังเป็นค่าที่ละลายอย่างเป็นธรรมชาติ
และเลนส์ตัวสุดท้ายของกล้องหลังกับเลนส์ Macro 2 ล้านพิกเซล เพื่อการสร้างมุมมองของภาพที่ดูแปลกตาออกไป ใช้เพื่อการถ่ายภาพมุมมองที่ใกล้มากๆ แล้วยังคงเก็บรายละเอียดได้ชัดเจน ซึ่งในเลนส์ปกติจะไม่สามารถทำได้ ลองดูตัวอย่างกัน
กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
เดินทางมาถึงกล้องหน้าเซลฟี่กันบ้าง ซึ่งนี่เป็นจุดแข็งของ Vivo มาโดยตลอด ในรุ่นนี้ใส่ฟีเจอร์มาให้เล่นมากมายเลย ทั้งการสามารถเลือกปรับความบิวตี้ของใบหน้าได้ถึง 100 ระดับ!! พูดละเหมือนเวอร์ แต่สามารถปรับได้จริงๆ โดยที่ใบหน้าของเราก็ไม่ได้ดูหลอกหรือเกินธรรมชาติไป
นอกจากนี้ยังมี AR Sticker เพื่อให้ใช้งานเล่นได้อย่างสนุกสนาน จะลงสตอรี่ หรือสร้างวีดีโอน่ารักๆ ก็จัดไปได้เลย ซึ่งในโหมด AR Sticker สามารถใช้ได้กับทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ทั้งภาพนิ่งและก็วีดีโอเลยด้วย
ฟิลเตอร์ก็มีมาให้แต่งเสร็จสรรพในตัว ไม่ต้องโหลดแอปมากมายมาให้เปลืองพลังงานกายและพลังงานเครื่อง เพราะฟิลเตอร์และโปรดปรับแต่งภาพใน Vivo S1 Pro สามารถใช้งานได้จริงๆ ใช้ได้ดีไม่แพ้แอปเสริมเลยด้วย คอนเฟิร์ม
สำหรับ Night Mode ที่หลายคนชื่นชอบกำลังจะมีอัปเดทเร็วๆ นี้ ใครอ่านรีวิวดรีมแล้วกำลังตามหาโหมดนี้อยู่ รออีกสักครู่ตัวอัปเดทก็จะมาแล้วจ้า แว่วๆ มาว่าจะเป็น Night mode ที่ใช้ได้กับทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยด้วยนะ ยืนรองามๆ
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
แบตเตอรี่
Vivo S1 Pro ก็จัดว่าเป็นมือถือแบตเตอรี่อึดพอสมควรเลยนะ เพราะให้แบตเตอรี่มาถึง 4500 mAh เท่านั้นไม่พอยังรองรับ รองรับ Dual-Engine Fast Charging แบตอึดแล้วยังชาร์จเร็วอีก ซึ่งจากการใช้งานจริง ดรีมเอาไปถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ ใช้งานกันทั้งวัน แถมยังเปิด Always On ไว้อีก แบตก็ยังเพียงพอไม่ต้องคอยหา Power Bank ให้เหนื่อยหน่ายใจ มาพร้อมสายชาร์จแบบUSB-C ตามที่หลายคนเรียกร้อง จัดว่าโดดเด่นในเรื่องแบตเตอรี่ด้วยจริงๆ
สรุปการใช้งาน
Vivo S1 Pro เป็นมือถือที่ตอบโจทย์คนทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะสายกล้อง สายถ่ายภาพ สายเซลฟี่ ก็มีเลนส์งามๆ มาให้ใช้งานกันถึง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ก็จัดว่าเป็นความละเอียดของกล้องหน้าที่สูงในตลาด คนที่ชอบเล่นเกมส์ CPU Snapdragon 665 ก็เอาอยู่เล่นเกมส์หนักๆ กราฟิกจัดๆ ได้สบาย แถมแบตเตอรี่ยังอึด ชาร์จไวได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งรุ่นคุ้มค่าที่อยากให้ทุกคนได้ลองสัมผัสกัน ในราคาแค่ 9,999 บาทเท่านั้น เริ่มเปิดจองได้ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. - 28 พ.ย. 2562 ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
จุดเด่น
- ดีไซน์สวย
- แบตเตอรี่อึด
- รองรับ Dual-Engine Fast Charging
- กล้องหลังมากถึง 4 ตัว
- สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- RAM มากถึง 8GB
จุดสังเกต
- เครื่องหนักไปนิด