Review : ASUS VivoBook 15 X512DA โน้ตบุ๊กสายทำงาน กับดีไซน์สุดล้ำและการออกแบบที่บางเบาสุดๆ
สวัสดีครับเพื่อนๆชาว TechXcite ทุกคน วันนี้ก็มาพบกับการรีวิวโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ที่สายทำงานต้องติดตามให้ดีกับโน้ตบุ๊กจาก ASUS รุ่น VivoBook 15 ซึ่งมาพร้อมการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามเฉพาะตัว สามารถพกพาออกไปทำงานข้างนอกได้สบายๆ ด้วยน้ำหนักที่เบาและขนาดที่กะทัดรัด และด้วยเทคโนโลยีที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีอย่าง NanoEdge ที่จะทำให้หน้าจอบางเบาและกว้างขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี ErgoLift บานพับแบบพิเศษที่ช่วยให้การใช้งานของผู้ใช้ในการกดคีย์บอร์ดและสลับมองจอง่ายสบายขึ้น แต่จะมีอะไรที่น่าสนใจอีกนั้นเรามาดูกันต่อเลยดีกว่า !!
ดีไซน์สวยหรู หน้าจอขอบบางที่พัฒนาให้ทำงานได้ดีสุดๆ
ด้วยการออกแบบที่ใช้เทคโนโลยี NanoEdge มาช่วยทำให้หน้าจอของ VivoBook 15 มีความบางขึ้นจากรุ่นก่อนๆ กับมีการแสดงผลที่ไม่ตกขอบ ทำให้ได้ภาพชัดระดับ Full HD แบบเต็มจอ และแม้ว่าในส่วนของการแสดงผลของจอภาพจะดีขึ้น แต่ทาง Asus ก็ยังคงให้ความสำคัญกับส่วนของกล้องเว็บแคมที่ใส่มาบนหน้าจอ ให้ใช้งานได้ครบครันอีกด้วย
การออกแบบตัวฐานที่ใส่ใจการทำงานจริงๆ
ทุกๆส่วนของ VivoBook 15 ค่อนข้างเน้นไปที่การใช้งานจริง ด้วยความกว้างของหน้าจอที่มีขนาดกะทัดรัด และสัดส่วนของตัวเครื่องที่เล็กลง ทำให้ภาพรวมของเครื่องดูเล็กลงไปด้วย แต่ก็ไม่ได้ย่อทุกอย่างโดยไม่จำเป็น อย่างคีย์บอร์ดของ VivoBook 15 ที่ให้มาเป็นแบบ Full Keyboard ก็มีขนาดที่ใหญ่สมส่วน พร้อมใช้งาน ทำให้การทำงานที่ต้องใช้การพิมพ์รู้สึกสบาย ไม่อึดอัด
ตัวเครื่องที่บางเบาและหน้าจอขอบบางขนาด 15.6 นิ้ว
การออกแบบในส่วนของหน้าจอนั้นถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ อย่างในส่วนของขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่บางเพียง 5.7 มม ทำให้การยกฝาเปิดทำได้ง่ายสบายแทบไม่ต้องออกแรงเลย จอภาพมาพร้อมเทคโนโลยี NanoEdge Display จอแสดงผลอยู่ที่ 1920×1080 ความละเอียดแบบ Full HD กับอัตราส่วน 16:9 และหน้าจอยังไม่สะท้อนแสงอีกด้วยเหมาะกับการนำไปใช้งานข้างนอกจริงๆ
ทางตัวเครื่องก็บางเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กทั่วไป ซึ่งทำให้น้ำหนักโดยรวมมีความเบาอยู่ที่ 1.6 กิโลกรัม สะดวกสบายทั้งการพกพาและการเก็บ นอกจากนนี้ยังเเถมกระเป๋าสะพาย Asus สุดเก๋ให้พกพาไปไหนมาไหนมาอีกด้วย !!
Ergolift การออกแบบที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน
สิ่งที่ Asus เอาใจใส่ให้กับลูกค้าและหากไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ คือการออกแบบฐานรองให้ใช้งานง่าย ไม่ปวดเมื่อยมือ เมื่อทำการเปิดหน้าจอ จะทำให้เครื่องทำมุม 2 องศา ทำให้การกดคีย์บอร์ดทำได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น ด้านแป้นพิมพ์เองก็มีปุ่ม Numpad ให้ด้วย แต่การที่ปุ่ม Enter ในฝั่งของ Numpad ไปอยู่ข้างล่างตัวเลขสามแทนที่จะเป็นข้างๆแบบเครื่อง PC ทำให้สร้าง ปัญหาสับสน ได้ระหว่างใช้งาน และอีกเรื่องคือ Vivobook 15 ไม่มีไฟ LED ตรงแป้นพิมพ์ หากใช้งานในที่มืดคงลำบากกันหน่อยหล่ะนะ -0-
ข้อมูลสเปค
ASUS VivoBook 15 มาพร้อมกับซีพียู AMD Ryzen 5 3500U ตัวใหม่ ซึ่งท้าชนกับ Intel Core i5-8265U ได้สบายๆ และใช้การ์ดจอ Radeon Vega 8 ซึ่งทำงานได้ดีลื่นไหลเลยทีเดียว\
ทางด้าน Ram ที่ให้มามีขนาด 8 GB ทำให้การเปิดโปรแกรมอะไรเป็นไปได้ดี และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ SSD ที่ช่วยให้การทำงานไวยิ่งขึ้น ความจุมีมาให้ถึง 512GB เหมาะสมในการทำงานผ่านการเปิดโปรแกรมหลายๆอย่างพร้อมกัน และก่อนเราจะทำการทดสอบเกมเรามาดูสเปคโดยรวมของเครื่องกันก่อนดีกว่า
สเปครวมของ ASUS VivoBook 15
- หน้าจอ NanoEdge ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080) 60Hz Anti-Glare Panel with 45% NTSC
- CPU AMD Ryzen 5 3500U
- การ์ดจอ Radeon Vega 8
- แรม 8 GB DDR4 2400MHz
- กว้าง 35.7 ลึก 23.0 สูง 1.99 เซนติเมตร
- SSD 512GB PCIe Gen3
- เชื่อมต่อไร้สาย Dual-band 802.11ac
- บลูทูธ รุ่น 4.1
- ช่องเสียบ USB ขนาด (USB 3.1 Gen 1 Type-C x 1, USB 3.1 Type-A Gen 1 x 2, USB 2.0 x 1, HDMI x 1, Combo audio jack x 1 และ MicroSD card reader x 1)
- แบตเตอรี่ 37Wh 2-cell
- หนัก 1.6 kg
- ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home แถมให้ฟรี
โดยรวมแล้วเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาได้สวยงามและมีความกะทัดรัดไม่หวือหวา แต่ก็มีจุดอ่อนที่มองข้ามไม่ได้อย่าง พัดลมระบายความร้อนที่มีตัวเดียวทำให้การเปิดใช้งานเป็นเวลานานมีปัญหาทำให้เครื่องช้าลง แต่ก็ยังดีที่มีช่องระบายอากาศการมาให้ถึง 2 ช่องเลย ทำให้การระบายความร้อนถ่ายเทออกได้เร็วขึ้น และไม่สะสมความร้อนมากจนเกินไป สำหรับใครที่ชอบวางโน้ตบุ๊กไว้บนตักเวลายกไปทำงานอาจถูกใจสิ่งนี้เป็นกรณีพิเศษ
การใช้งาน
แล้วก็มาถึงช่วงทดสอบเกมโดยเราจะมาทดสอบกับ “Overwatch” กัน โดยเมื่อทดสอบการเล่นพบว่าได้ Fps ที่ 50-100 แต่มาพร้อมกับอาการกระตุกแต่ไม่ถึงกับบ่อยจนเล่นไม่ได้ ทางอุณภูมิของเครื่องเองก็อุ่นขึ้นมานิดนึงแบบไม่ได้มีอะไรให้น่าเป็นห่วง โดยถ้าปรับภาพให้ไปอยู่ที่ Low หรือ Medium ก็พอเล่นได้ แต่ถ้าปรับเป็น High หรือ Ultra เกมจะมีอาการแลค ไม่แนะนำให้เล่นแบบนี้เด็ดขาด ซึ่งน่าจะเป็นเพราะพื้นฐานของ ASUS VivoBook 15 ออกแบบมาให้เป็นโน้ตบุ๊กทำงาน ไม่ใช่โน้ตบุ๊กเกมมิ่ง
ทางด้านของเครื่องเสียงก็ดีมาก ด้วยลำโพง Asus SonicMaster ทำให้เสียงเวลาเปิดวิดีโอนั้นคมชัดไม่มีแตก เวลาเล่นเกมก็สามารถฟังออกง่ายว่าใกล้ไกล ซ้ายขวาแค่ไหน เวลาเปิดเสียงในห้องเงียบๆก็ฟังแบบลำโพงตั้งเองได้เพลินเลยทีเดียว
แบตเตอรี่ที่แม้จะเป็นแบบ 2 cell แต่ก็ใช้งานได้ประมาณ 8-10 ชั่วโมง เหมาะกับการพกพาออกไปข้างนอก โดยไม่ต้องพก Adapter เลยก็ยังได้
สรุป
หากต้องการโน้ตบุ๊กที่ทำงานได้เป็นเวลานาน Asus VivoBook 15 คือคำตอบที่ตอบโจทย์ได้ดี ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะไม่ได้เป็นแบบที่ซื้อมาแล้วใช้งานได้สมบูรณ์แบบทุกอย่าง ทั้งงาน ทั้งเล่นได้ทุกเกม แต่เครื่อง VivoBook 15 กลบจุดอ่อนนี้ด้วยการเสริมประสิทธิภาพในด้านอื่นๆเช่น ขนาดเครื่องที่เล็กและเบาลง การยกโน้ตบุ๊กไปมาระหว่งเรียนหรือทำงานจึงทำได้สบายสุดๆ ด้านลำโพงก็ดีไม่ว่าจะเป็นการดูคลิปวีดีโอหรือเปิดฟังเพลงเพลินๆก็ไม่มีเสียงเพี้ยน Ergolift เองก็เป็นจุดเด็ดของ VivoBook ที่มีแต่ Asus ที่มอบในองศาการวางมือที่ค่อนข้างสบายในแบบเฉพาะตัว
ด้านราคาต้องบอกว่าเห็นแบบนี้ ราคาแค่ 16,990 บาท เรียกได้ว่าราคาถูกแบบโน้ตบุ๊กทำงาน แต่เอาจริงๆกลับมีหลายๆส่วนที่ทำได้มากกว่าแค่พิมพ์งาน ใครที่ไม่ต้องการใช้เงินซื้อเครื่องไม่เกิน 2 หมื่น แต่ดีพอจะเอาไปเล่นเกม ฟังเพลง ดูหนังได้ไม่น่าเกลียด เครื่องนี้ถือว่าตอบโจทย์ครบเลยทีเดียว
ข้อดี
- ทำงานหลายๆโปรแกรมพร้อมกันได้
- นำหนักเบา
- บางกว่าเครื่องปกติ
- Ergolift เป็นมิตรต่อการทำงาน
- ลำโพงดีเหมาะกับรับฟังและใช้งานอย่างอื่น
- นำไปเล่นเกมได้ในระดับนึง
- สีสันสวยงามเรียบร้อย
ข้อสังเกตุ
- ใช้ไปนานๆเครื่องค่อนข้างร้อน
- ปุ่ม Numpad ไม่ได้เป็นแบบมาตราฐานที่ใช้กันปกติ
ถ้าใครสนใจก็สามารถไปสั่งซื้อได้ที่ พร้อมโปรโมชั่น ส่งฟรีภายใน 3 ชมกับรับประกันถึง 2 ปี !! เลือกได้ 4 สีคือ น้ำเงิน ส้มอมแดง เทาดำ สุดท้าย เทาแบบโปร่งแสง อย่าช้าล่ะเพราะสินค้านี้มีจำนวนจำกัด !!!