Huawei เปิดตัวชิปเซ็ต 5G ระดับแฟลกชิปรุ่นแรกของโลก
ก่อนประเดิมสมรรถนะครั้งแรกกับสมาร์ทโฟน HUAWEI Mate 30 ซีรีส์ !

มร. ริชาร์ด หยู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ได้ขึ้นกล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ “Rethink Evolution” ที่งาน IFA พร้อมเปิดตัวชิปเซ็ตระดับแฟลกชิปรุ่นล่าสุดในตระกูล Kirin 990 ซึ่งมาทั้งในรุ่นมาตรฐานและรุ่น 5G

“Kirin 990 (5G) เป็นชิปเซ็ต 5G รุ่นแรกของโลกที่พร้อมมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G ที่เหนือกว่า ในขวบปีแรกของยุคเครือข่าย 5G เพื่อการพาณิชย์” มร. ริชาร์ด กล่าว “ชิปเซ็ต Kirin 990 (5G) ได้รับการพัฒนาให้พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในยุค 5G ด้วยสมรรถนะและความประหยัดพลังงานที่เหนือชั้น ศักยภาพเต็มเปี่ยมสำหรับการใช้งาน AI และการถ่ายภาพ จึงสามารถยกระดับการใช้งานสมาร์ทโฟนไปอีกขั้น”
ส่วนชิปเซ็ต Kirin 990 รุ่นมาตรฐาน ซึ่งเปิดตัวพร้อมกับรุ่น 5G ก็พร้อมมอบประสิทธิภาพเต็มพิกัด ควบคู่ไปกับการประหยัดพลังงาน สมรรถนะด้าน AI และการถ่ายภาพเช่นกัน จึงพร้อมมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน 4G ทั่วไป
ชิปเซ็ต 5G ระดับแฟลกชิปรุ่นแรก เร็วเต็มพิกัดบนเครือข่าย 5G
ชิปเซ็ต Kirin 990 (5G) ของหัวเว่ย เป็นชิปเซ็ต 5G รุ่นแรกของโลก ทั้งยังเป็นชิปเซ็ตที่มีขนาดเล็กที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน 5G ด้วยกระบวนการผลิตสุดล้ำแบบ 7 nm+ EUV พร้อมด้วยโมเด็ม 5G ที่ติดตั้งมาในตัว ซึ่งทำให้ขนาดของชิปเซ็ตเล็กลง ทั้งยังใช้พลังงานน้อยลงอีกด้วย นอกจากนี้ Kirin 990 (5G) ยังเป็นชิปเซ็ต 5G รุ่นแรกที่รองรับการเชื่อมต่อครบครันทั้งในแบบ non-standalone (NSA) ซึ่งใช้งานคลื่นความถี่ 4G และ 5G ร่วมกัน และแบบ standalone (SA) ซึ่งเป็นการใช้เครือข่าย 5G เต็มรูปแบบ ทั้งยังใช้งานได้กับคลื่นความถี่ทั้งแบบ TDD และ FDD จึงตอบโจทย์ในทุกสภาวะเครือข่าย ด้วยนวัตกรรมการเชื่อมต่อ 5G สุดเหนือชั้นจากชิปโมเด็ม Balong 5000 ชิปเซ็ต Kirin 990 (5G) จึงทำความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2.3 Gbit ต่อวินาที และอัพโหลดข้อมูลได้ที่ 1.25 Gbit ต่อวินาที เหนือกว่าทุกประสบการณ์ 5G ในปัจจุบัน
สถาปัตยกรรม NPU ล้ำยุค เติมสมรรถนะเต็มเปี่ยมให้ AI ในยุค 5G
Kirin 990 (5G) เป็นชิปเซ็ตระดับแฟลกชิปรุ่นแรกที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์แบบคู่ (dual-core NPU) ซึ่งพัฒนาขึ้นจากสถาปัตยกรรม Da Vinci โดยประกอบไปด้วยคอร์ประมวลผล NPU ขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่ทำงานร่วมกัน โดยคอร์ขนาดใหญ่จะมอบประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม พร้อมด้วยการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า สำหรับกรณีการประมวลผลที่ต้องการสมรรถนะสูง ขณะที่คอร์ขนาดเล็ก ซึ่งนำมาใช้งานเป็นครั้งแรกของโลก ก็พร้อมรับมือการประมวลผลที่ใช้พลังงานน้อย จึงทำให้มอบประสิทธิภาพการประมวลผล AI ได้เต็มที่ ภายใต้สถาปัตยกรรม NPU ที่ล้ำยุค

ประสิทธิภาพระดับพรีเมียม พร้อมประหยัดพลังงาน สร้างมาตรฐานใหม่เพื่อประสบการณ์ 5G ที่แรงกว่า
สำหรับในส่วนของ CPU หลัก ชิปเซ็ต Kirin 990 มีโครงสร้างแบบสามระดับเพื่อการประหยัดพลังงาน โดยมีคอร์ประมวลผลขนาดใหญ่มาก 2 คอร์ ขนาดใหญ่ 2 คอร์ และขนาดเล็กอีก 4 คอร์ ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 2.86 GHz นอกจากนี้ Kirin 990 ยังมีชิปประมวลผลกราฟฟิกแบบ 16 คอร์ รุ่น Mali-G76 และระบบสมาร์ท แคช (Smart Cache) ที่ช่วยจัดลำดับการทำงานอย่างชาญฉลาดและลดการใช้พลังงานไปพร้อมกัน ส่วนประสิทธิภาพการเล่นเกม ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Kirin Gaming+ 2.0 ซึ่งช่วยให้ฮาร์ดแวร์พื้นฐานและโซลูชั่นต่างๆ ทำงานร่วมกันดียิ่งขึ้น จึงมอบประสบการณ์ความสนุกที่ไหลลื่นและรวดเร็วกว่าใคร
ISP 5.0 รุ่นใหม่ที่ได้รับการอัพเกรดเพื่อรองรับประสบการณ์ถ่ายภาพอันสุดยอด
สำหรับฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพ ชิปเซ็ต Kirin 990 (5G) ยังมาพร้อมกับ ISP 5.0 ตัวใหม่ล่าสุดที่นำเสนอนวัตกรรมบล็อคแมตชิ่งและ 3D ฟิลเตอริ่ง (BM3D) ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์ที่ช่วยลดนอยส์ในภาพถ่าย (Noise Reduction/NR) ระดับมืออาชีพ รวมทั้งช่วยทำให้ภาพคมชัดขึ้น แม้ขณะถ่ายในที่แสงน้อย นอกจากนี้ ISP 5.0 ยังเป็นชิปเซ็ตตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยี ดูอัล โดเมน วิดีโอ NR เพื่อการลดนอยส์ในวิดีโออย่างแม่นยำ ตรงกับภาพจริงที่ตาเห็นมากขึ้น ทั้งยังมีระบบโพสต์โพรเซสซิ่งและการเรนเดอร์ภาพด้วย AI ซึ่งจะปรับสีภาพในแต่ละเฟรม เพื่อมอบภาพวิดีโอที่คมชัดประหนึ่งซีนจากภาพยนตร์

HUAWEI P30 Pro โฉมใหม่ มาพร้อมกับสี Mystic Blue และ Misty Lavender
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้เผยโฉมสมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นที่ขายดีที่สุดอย่าง “HUAWEI P30 Pro” ในรูปลักษณ์ใหม่ ยกระดับการผสมผสานระหว่างงานดีไซน์ตัวเครื่องและเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ล้ำยุคของ HUAWEI P Series ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์ใหม่ในสองโทนสีที่จะมาปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟน โดยตัวเครื่องแบบใหม่จะมาพร้อมกับเทคนิคการพ่นทรายให้พื้นผิวในส่วนล่างของตัวเครื่องเป็นแบบด้าน มีให้เลือกทั้งในสี Mystic Blue ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสีของท้องฟ้าซึ่งสะท้อนจากพื้นผิวน้ำทะเล และสี Misty Lavender ที่คล้ายคลึงกับสีชายหาดภายใต้แสงอาทิตย์อัสดง


นอกเหนือไปจากการอัพเกรดรูปลักษณ์แล้ว P30 Pro น้องใหม่ทั้ง 2 สียังมาพร้อมกับฟีเจอร์การปรับแต่งภาพถ่ายและวิดีโอที่ดีขึ้นไปอีกขั้น ในขณะที่ระบบปฏิบัติการ EMUI 10 ยังช่วยส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด รองรับกับไลฟ์สไตล์สุดสมาร์ทของชีวิตคนเมืองอีกด้วย

HUAWEI FreeBuds 3 หูฟังแบบเปิดที่มาพร้อม Adaptive Noise Cancellation ตัวแรกของโลก
มร. ริชาร์ด หยู ยังได้เผยโฉม HUAWEI FreeBuds 3 ซึ่งเป็นหูฟังไร้สายรุ่นแฟลกชิปของหัวเว่ย โดยหูฟังตัวนี้จะมาพร้อมกับการดีไซน์ที่พิถีพิถัน และกล่องเก็บทรงกลมที่ดูมีเอกลักษณ์ HUAWEI FreeBuds 3 ยังมอบประสบการณ์การสวมใส่ที่สบายหู ทั้งยังกระชับกับใบหูโดยที่ไม่ต้องกลัวหลุด โดยจะมาพร้อมกับ 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีขาวและสีดำ ทั้งนี้ FreeBuds 3 ยังเป็นหูฟังไร้สายตัวแรกที่ใข้ชิปเซ็ต Kirin A1 เป็นขุมพลัง ทำให้สามารถเชื่อมต่อสัญญาณกับดีไวซ์ต่างๆ ได้เร็ว แรง ไม่มีติดขัด และยังมอบคุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยม ควบคู่กับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน จึงถือเป็นหูฟังไร้สายแบบเปิดตัวแรกที่พ่วงฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนมาอย่างเต็มตัว
ในส่วนของสมาร์ทโฟน HUAWEI Mate Series ที่ใช้ขุมพลังของชิปเซ็ต Kirin 990 จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ในเดือนกันยายน โดยผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี 5G และนวัตกรรมอัจฉริยะอีกมากมายได้เร็ว ๆ นี้