อาถรรพ์ Spider-man ฮีโร่อาภัพผู้ไปได้ไม่เกินสามภาค เมื่อ Sony กับ Disney ดีลไม่ลงตัว
สไปเดอร์แมนเป็นหนังที่มีการฉายมานานไม่ว่าจะเป็นยุคของ Tobey Maguire ผู้แสดงในหนัง Spider-Man ครั้งแรกในปี 2002 ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ต่อด้วยการรีจักรวาลแมนผ่านนักแสดงหนุ่ม Andrew Garfield ในปี 2012 ในชื่อ The Amazing Spider-Man ที่พบปัญหาพอสมควร และล่าสุด Tom สปอยบท เอ้ยไม่ใช่ Tom Holland ที่ได้เข้ามาแสดงบทบาทสไปเดอร์แมนเป็นการปูทางตัวละครสู่จักรวาล Marvel ก็ประสบความสำเร็จเหมือนรุ่นแรก แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครไปเกินภาค 3 ซะที แล้วดูเหมือนหนุ่ม Tom ก็อาจจะต้องเจอแบบรุ่นพี่เช่นเดียวเมื่อดีลของ Sony กับ Disney ไม่ลงตัว
ไม่นานมานี้มีข่าวที่สร้างความโกลาหลที่อาจส่งผลต่อ Phase 4 ของจักรวาล Marvel เลยเมื่อ Sony อาจดึงลิขสิทธ์ Spider-man กลับมาจาก Disney เหตุผลนั้นคือหลังสัญญาหมดทาง Disney ได้ยืนข้อเสนอทำต่อโดยให้ร่วมลงทุนกันโดยลงเงินคนละ 50/50 แต่ว่าทาง Sony ได้ปฎิเสธข้อเสนอนี้ และหากทาง Disney ยังยืนยันที่จะทำแบบนี้ย่อมหมายความว่าทาง Sony สามารถนำหนุ่ม Tom ที่ยังมีสัญญาอยู่ด้วย 2 ภาคหนังมาแสดงหนังโดยไม่กล่าวถึงทุกอย่างที่มีสัมพันธ์กับ Marvel ได้ทันที่ (คนที่อยากเห็น Venom ปะทะ Spider-man อาจถูกใจสิ่งนี้) และทาง Marvel ก็ต้องดำเนินจักรวาลหนังต่อไปโดยต้องไม่กล่าวถึงสไปเดอร์แมนเช่นกัน
หลายคนอาจสงสัยหรือมีคำถามหลากๆอย่างว่า งานนี้ใครถูกใครผิดเรามาดูประเด็นรวมกันดีกว่า ว่าที่ผ่านมาเกิดอะไร
- ข้อแรกสัญญาเก่าของทาง Sony นั้นคือทาง Sony จะเป็นผู้ลงทุนในด้านการทำหนังให้ Disney แสงสีเท่าไหร่บอกมา Disney ทำในส่วนของ Creative คิดเนื้อเรื่องพอ โดยทาง Disney จะได้เงิน 5% จากหนังที่เหลือ Sony เอาไป ตรงนี้ถ้าตัดสินจากผลงานของ Marvel ทาง Sony ดูหน้าเลือดมากเลยทีเดียวจากความสำเร็จที่ Marvel ทำให้ แต่เรามาดูข้อต่อไปกันต่อ
- ข้อสองทาง Disney นั้นสามารถเอา Spider-man ไป”ทำอะไรก็ได้”มากกว่าการให้หนุ่ม Tom ไปโชว์โหดให้พวกเราดู เพราะสิ่งที่ Disney ซื้อคือ ลิขสิทธ์ ที่นำไปแปรรูปเป็นอะไรก็ได้ทั้งหนัง สินค้าทุกอย่าง สากกะเบือยันเรือรบก็ใส่ลาย Spider-man ได้หมด และทาง Disney ก็ยังมี Disney Land ที่สามารถสร้างรายได้อีกมหาศาลจากการสร้างเครื่องเล่นอะไรสักอย่างแล้วติดหน้า Spider-man ลงไปประกอบ
- ข้อสามแน่นอนมาเมื่อ Sony ปล่อยสิขสิทธ์ให้ Disney ทาง Sony ก็เอารายได้จาก Spider-man ที่ตนเป็นเจ้าของแค่สัญญา Spider-man ที่เป็นภาพยนตร์ในจักรวาล Marvel ซึ่งแน่นอนว่าถ้าทาง Disney จะขอลงทุน 50/50 แลกกับรายได้ 50% ทาง Sony ย่อมไม่ยอมแน่นอนจากรายได้โดยรวมที่ Disney ได้จาก Spider-man
- ข้อสี่หลายคนบอก Sony เอา Spider-man ไปก็มีแต่จะเอาไปตายเปล่าๆจากความเจ๊งของหนังของ Sony Picture ที่มากมายซะเหลือเกิน อย่าลืมว่า Spider-man ที่อยู่กับ Sony ก็ทำเงินได้เยอะอยู่ ถึงหนัง Spider-man จะทำราย 1,000 $ล้าน ซึ่งถือเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดของ Sony แต่ Sony ก็เคยทำหนัง Spider-man ได้เงินถึง 800-700 $ล้าน ในสมัยก่อน และยังมี หนัง venom ที่บางคนชอบบางคนไม่ชอบ แต่ก็ทำเงินได้ 856 $ล้าน และยังมี Spider-Man: Into the Spider-Verse ที่ได้รับรางวัลออสการ์ไปนี้ยังไม่นับเครื่อง Playstation ที่ Sony ทำเกมที่มี Spider-man ไม่ค่อยผิดหวังแฟนเกมซะด้วย
แน่นอนว่าหลายๆคนอย่าพึ่งเครียดหรือไป #BoycottSony เพราะข้อตกลงในปัจจุบันคือไม่มีใครยอมใคร แต่การทำข้อตกลงเกิดขึ้นในอนาคตได้เรื่อยๆ เพราะบางทีข้อตกลงแบบ Disney ได้เงินจากหนังอาจเพิ่มเป็น 10%-20% จาก 5% โดยรับประกันความสำเร็จของหนังที่จะสร้างรายได้เพิ่มให้กับ Sony ก็เป็นทางออกที่หลายๆคนอยากให้เป็นเพราะไม่งั้นทั้งสองฝ่ายมีแต่แย่กับแย่และกับทุกคนที่กำลังตามเนื้อเรื่องจักรวาล Marvel แน่นอน
ที่มา : cbr