Google กับ Apple ถูกจับได้ว่าแอบดักฟังผู้ใช้งาน !!!
โปรแกรม Siri และ Google Assistant เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้การทำงานหรือใช้ชีวิตง่ายขึ้นจากการใช้เสียงซึ่งเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้วในแต่ละคนและยังใช้ได้ระหว่างอะไรก็ตาม ซึ่งความส่วนตัวของโปรแกรมรับฟังเหล่านี้คือเราโต้ตอบกับ AI ไม่ใช้บุคคลผู้ให้บริการ แต่ดูเหมือนว่าความส่วนตัวที่เราพอใจอาจกลายเป็นเครื่องมือในการนำไปทำธุรกิจเมื่อมีข่าวหลุดว่าผู้ให้บริการระบบที่สั่งการด้วยเสียงอย่าง Google กับ Apple แอบบันทึกการสนทนาผู้ใช้งาน
เรื่องนี้เริ่มแดงเมื่อมีผู้ใช้งานระบบสั่งการด้วยเสียง Siri ที่พัฒนาด้วย Apple ว่าพวกเขารู้สึกว่าการอัปเดตของแอปนั้นไม่ใช่การเพิ่มฟังก์ชั่นต่างๆให้โปรแกรมที่ดูเป็นแนวทางของผู้พัฒนาแต่กลายเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานมักพูดถึง ซึ่งต่อมาทาง Apple ก็ได้ยอมรับว่าแอบฟังผู้ใช้งาน ซึ่งอีกเจ้านึงที่เคยมีข่าวเรื่องการดักฟังก็คือ Google
ทาง Apple เองก็ได้มีการออกมายอมรับว่ามีการ”ดักฟัง”จริงโดยได้กล่าวเสริมว่า”สิ่งที่เราทำไปนั้นก็เพื่อที่จะให้ได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดกับลูกค้าโดยที่ข้อมูลส่วนตัวจะไม่หลุดออกไป" โดยจะยกเลิกการดักฟังไปชั่วคราว ขณะที่ทาง Google เองก็ได้ออกมายอมรับเรื่องดังฟังเช่นกันโดยจะหยุดดักฟังไป 3 เดือนตามนโยบายของ EU
หน่วยงานดูแลคุ้มครองข้อมูลของเยอรมันได้ออกมาแสดงความคิดเรื่องนี้ถึง ระบบสั่งการด้วยเสียงของ Google, Apple และ Amazon นั้นมีความอันตรายเป็นอย่างสูงในเรื่องของความปลอดภัย ที่ไม่ใช่แค่ที่ตัวผู้ใช้งานแต่รวมถึงผู้ที่อยู่ใกล้เคียงอย่างสถานที่ในบ้านหรือที่ทำงาน โดยมีข้อมูลของ Guardian ที่ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่ามีข้อมูลมากมายที่หลุดจากการใช้ระบบสั่งด้วยเสียงไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลการรักษา การค้าขายยาเสพติด จนถึงเพศสัมพันธ์
และดูเหมือนว่าปัญหานี้จะยังคงอยู่ต่อเพราะทางบริษัทยักษ์ใหญ่หลายยังคงถกเถียงกันในเรื่องของการพิจารณาส่วนได้สวนเสียที่อาจเสียเปรียบบริษัทฝั่งตรงข้ามได้โดยเฉพาะ Apple ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้าว่าจะหาทางออกอย่างอื่นได้หรือไม่อย่างการบอกให้ชัดเจนว่าอาจมีเก็บข้อมูลจากการใช้ระบบสั่งเสียงหรือทำให้ลูกค้ามั่นใจได้จริงๆว่าข้อมูลจะมีความปลอดภัยและไม่ถูกนำไปใช้ประโยชน์
หลายๆครั้งมีคนพูดว่า Facebook หรือ Search engine ต่างๆมักจะเก็บข้อมูลของเราแล้วนำไปแสดงในสิ่งที่เราต้องการ บางทีการถูกดักดูบทสนทนาหรือสิ่งที่ดูอาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่คิด
ที่มา : thenextweb