ชี้ทางสว่าง! 3 เหตุผลที่ควรนำ Windows Server และ SQL Server มาใช้บน Microsoft Azure ตั้งแต่วันนี้ เจ๋งขึ้น คุ้มค่า และปลอดภัยกว่าเดิม

สวัสดีเพื่อนๆชาว TechXcite ทุกคนอีกครั้งนะคะ ในวันนี้เรามาพร้อมข่าวดีกับการบอกต่อความคุ้มค่า สำหรับการใช้งานพื้นที่บน Cloud ให้คุ้มค่าที่สุด ง่ายสุด และปลอดภัยที่สุดอย่าง Microsoft Azure ซึ่งจัดว่าเป็น Cloud ที่ดีที่สุด สำหรับ Windows Server และ SQL Server โดยก่อนการตัดสินใจก็เชื่อว่าทุกๆคนคงอยากรู้ว่าความหมายของคำว่าดีที่สุดนั้นได้มาอย่างไร เมื่อเปลี่ยนมาเป็น Microsoft Azure แล้ว จะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง เรามาดูรายละเอียดพร้อมกัน เริ่มต้นกันที่ข้อดีของการใช้ Microsoft Azure กันก่อนเลย

Microsoft Azure ดีอย่างไร?

ประสบการณ์การใช้งานแบบ Hybrid 

• เสริมความปลอดภัยด้วย Azure Security Center และระบบปฏิบัติการักษาความปลอดภัยแบบ built-in มาให้ผู้ใช้เลย 
• มี Windows Admin Center ซึ่งเป็นศูนย์ให้ความช่วยเหลือแบบครบวงจรในที่เดียวสำหรับการบริหารจัดการ Windows server และ SQL server ของเพื่อนๆ ทั้งที่อยู่บน Cloud และ On premise
• มีการรวบรวมระบบสำรองข้อมูล ระบบการกู้คืนข้อมูล และการบริหารจัดการในรูปแบบที่ผู้ใช้คุ้นเคย ไม่ต้องทำความเข้าใจใหม่ให้ยุ่งยาก

มีคุณสมบัติที่สามารถประสานด้านการจัดการฐานข้อมูลกับ SQL ที่ผู้ใช้เคยมีอยู่ในองค์กร 

• SQL server VM และ SQL DB PaaS บน Microsoft Azure สามารถรองรับ code ของ SQL server เดิม ได้ 100% 
• รองรับการทำงานที่เชื่อมต่อกับ SQL Server เวอร์ชั่นเก่าได้
• มีระบบ Machine learning-based  หรือการประมวลผลอัจฉริยะเพื่อดึงความสามารถ ประสิทธิภาพ และเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับระบบที่ท่านใช้งานอยู่ตลอดเวลา

เป็นระบบที่มีความน่าเชื่อถือสูง

• ได้รับการรับรองมาตรฐานที่สูงที่สุด มากกว่าเจ้าอื่นๆ Data center ของ Microsoft Azure ได้รับการรับรองมาตรฐานมากกว่า 90 แห่งทั้ง ระดับโลก (ISO27001), ระดับภูมิภาค (IDA Singapore) หรือแม้กระทั่งมาตรฐานที่ต้องมีของภาคธุรกิจ (PCI-DSS)
• ลดความยุ่งยากในการติดต่อขอความช่วยเหลือ เพราะเป็น Microsoft Support ทั้งหมด ตั้งแต่ Software จนถึงระบบ Infrastructure
• ลดขั้นตอน ระยะเวลาในการเรียนรู้สกิลและเครื่องมือ เพราะมีลักษณะใกล้เคียงกับรูปแบบเดิมที่ท่านใช้งานอยู่ On premise เดิมซึ่งจะช่วยในเรื่องการบริหารจัดการระบบของทีมงานเพื่อนๆ เป็นเรื่องที่คุ้นเคย Hybrid Infrastructure

มี Workload optimization และ tools ให้ใช้ฟรีบน Azure เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Microsoft Azure เพิ่มโอกาสในการประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากมี Tools ที่ช่วยซับพอร์ทในการ Migration ทั้ง 3 ขั้นตอน ก่อน ระหว่าง และหลังการ Migration หรือทำความเข้าใจง่ายๆก็คือการอัปเกรตนั่นแหละ

• ก่อนการอัปเกรด  ใช้ Azure Migrate เพื่อวิเคราะห์ on-premises environments และ VMs ขนาดที่เหมาะสมตามการใช้งานเดิม และยังมีความสามารถในทำ model savings ด้วย Azure Hybrid Benefit สำหรับลูกค้าที่มี Software Assurance อยู่ 

  ในส่วนนี้จะช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายของค่า VM ทั้ง Windows server และ SQL server
  สำหรับใครที่มี Window server และ SQL server เวอร์ชั่น 2008 ที่กำลังจะหมดอายุ
  ก็สามารถใช้เป็นส่วนลดในการย้ายมาเวอร์ชั่น 2008 มาใช้บน Microsoft Azure ได้
  แถมยังได้รับการขยายเวลาในการรับประกันไปจนถึงปี 2022 ฟรีอีกด้วย

• ระหว่างการอัปเกรด  ใช้เครื่องมือที่ช่วยในการคำนวน cost optimized และ storage options เพื่อการสำรองข้อมูลระหว่างการอัปเกรด ในกรณีที่ป้องกันข้อมูลเสียหาย เช่น Azure Reserved VM Instances, burstable B-series VMs และ Archive Storage. และยังสามารถใช้ Azure DMS ซึ่งรองรับฐานข้อมูลต้นทาง / ปลายทางที่หลากหลาย
• หลังการอัปเกรด ใช้ Azure Cost Management เพื่อช่วยในการกำหนดขนาดการใช้งานที่เหมาะสม และยังสามารถช่วยในการจัดการลบข้อมูลที่ที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อประหยัดพื้นที่การทำงาน แนะนำการสำรองข้อมูลแล้วยังสามารถติดตามการใช้จ่ายของ Cloud ตามหน่วยธุรกิจ และจะได้รับการแจ้งเตือนหากมีการใช้งานที่ผิดปกติอีกด้วย 

ทำไมต้อง Azure?

• รองรับการใช้งานที่มี scale ขนาดใหญ่ สามารถเชื่อมต่อได้อย่างไม่สะดุด เพราะมีเครือข่ายอยู่ทั่วทุกมุมโลก 
• รองรับ open source ได้หลากหลาย ฟรี โดยไม่ต้องแปลงไฟล์ให้ยุ่งยาก
• ประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อใช้ร่วมกับ Window Server SQL Server และ Linux เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการ Cloud เจ้าอื่นๆ หรือพูดง่ายๆก็คือถูกกว่าเจ้าอื่นนั่นเอง 
• เป็น Cloud ที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำมากมาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

• ลงทะเบียนเพื่อรับการติดต่อกลับ: https://aka.ms/AzureMigrationTH 
• สนทนากับฝ่ายขาย: https://aka.ms/AzureMigrationTH_Chat 

สำหรับในประเทศไทยนั้น มีผู้ให้บริการและให้คำปรึกษา Microsoft Azure หลักๆได้แก่

• Ingram Micro: 094-456-5197, Pornsit.Palilai@ingrammicro.com
• Rhipe: 02-087-9298, thailand@rhipe.com
• VST ECS: 092-694-5199, Pongjakr@vstecs.co.th

ข้อมูลเพิ่มเติม

https://docs.microsoft.com/en-us/learn/azure/