Preview : Sony A7R IV พร้อมบรรยากาศเปิดตัวส่งตรงจากประเทศสิงคโปร์
Sony ได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด โดยทาง TechXcite ได้รับเกียรติเข้าร่วมงานซึ่งถือเป็นการเปิดตัวในภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิค ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งงานนี้มีชื่อว่า Sony Digital Imaging Exclusive Product Event เป็นงานแถลงข่าวพร้อมกับนำเอาผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดมาให้ได้ลอง Touch & Try ทั้ง Sony A7R IV กล้อง Mirrorless Full Frame รุ่นใหม่ล่าสุด รวมถึงกล้อง Sony RX100 Mark VII และเลนส์อีกสามตัวได้แก่ FE 35mm f1.8 , FE 200-600mm f5.6-6.3 GM และ FE 600mm f4 GM
บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยบรรดาสื่อฯจากประเทศต่างๆในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์เอง รวมถึงมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และของไทยด้วย ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้นก็มีจากหลายสำนักข่าวไปร่วมงาน ที่คุ้นหน้าคุ้นตาก็เช่น พี่หาวจาก 2HOW , The Peakfoto , Taklong.com , กล้องกล้วยกล้วย ฯลฯ
หลังจากที่เข้ามาในวานก็เจอกับภาพขนาดใหญ่ที่ทาง Sony นำมาโชว์ โดยภาพที่ติดผนังนั้นเป็นภาพที่ถ่ายจากกล้องรุ่นใหม่ทั้ง Sony A7R IV และ Sony RX100 VII ด้วย แต่ละภาพนั้นก็เรียกได้ว่าโชว์ศักยภาพของกล้องให้เห็นกันชัดๆไปเลย โดยเฉพาะภาพที่ถ่าายจากกล้อง Sony A7R IV กับไฟล์ภาพขนาด 61 ล้านพิกเซลนั้น ทำเอาทึ่งไปกับไฟล์ภาพที่ถ่ายทอดออกมาเป็นงานพิมพ์คุณภาพสูง อย่างเช่นตัวอย่างภาพด้านล่าง ลองถ่ายภาพเต็มๆที่เขาเอามโชว์ให้ดู และลองถ่ายภาพใกล้ๆมาเปรียบเทียบให้ดูว่า บนผืนผ้าใบนั้นให้รายละเอียดดีขนาดไหน
และนอกจากนี้เมื่อเข้ามาในวานก็จะเจอกับสินค้าของ Sony มาโชว์เรียงรายให้เห็น อย่างเช่นเลนส์ Sony FE 600mm f4 ที่ตั้งตระหง่านเป็นพระเอกของงานให้ได้ลองจับลองสัมผัสตัวเป็นๆ แน่นอนว่าสามารถทดสอบการใช้งานได้เลย โดยทาง Sony ได้จัดกิจกรรมแยกเป็นแต่ละฐาน เพื่อให้ได้ทดสอบประสิทธิภาพของกล้องและเลนส์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในครั้งนี้
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Sony ที่เปิดตัวในครั้งนี้มีอยู่ 5 รายการด้วยกันก็คือ Sony A7R IV กล้อง Mirrorless Full Frame รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ความละเอียด 61 ล้านพิกเซล , Sony RX100 VII สุดยอดกล้องคอมแพ็คประสิทธิภาพสูงที่ทาง Sony บอกว่าเป็น A9 ย่อส่วน , Sony FE 600mm f4 เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ รูรับแสงกว้าง, Sony FE 200-600mm f5.6-6.3 เลนส์ซูมเทเลที่มาพร้อมกับประสิทธิพาการทำงานที่คล่องตัว และ Sony FE 35mm f1.8 เลนส์ที่สาวก Sony รอคอยมาอย่างยาวนานว่าเมื่อไรจะทำออกมาขายสักที ตอนนี้มีให้ใช้แล้วนะ
แต่แล้วไหนๆก็ไหนๆมาถึงงานแล้ว ได้มีโอกาสหยิบจับเลนส์รุ่นใหม่ที่น่าสนใจอย่าง Sony FE 35mm f1.8 เลยขอเล่าถึงเลนส์ตัวนี้นิดหน่อยแบ้วกัน สำหรับเลนส์ Sony FE 35mm f1.8 เป็นเลนส์ที่เหมาะกับการใช้งานแนว Street ตัวเลนส์มีขนาดเล็ก เรียกได้ว่าพอๆกับเลนส์ Sony FE 55mm f1.8 ZEISS เลยก็ว่าได้ ซึ่งจากการทดลองถ่ายภาพด้วยเบนส์ตัวนี้ก็ต้องบอกเลยว่าโฟกัสได้ดีและให้ความคมที่เหลือกินเหลือใช้ ลองดูภาพตัวอย่างด้านล่างที่ถ่ายจากเลนส์ตัวนี้ได้เลย
จะเห็นว่าภาพจากเลนส์ Sony FE 35mm f1.8 ตัวนี้ สามารถขุดรายละเอียดออดมาได้โหดมาก ใครที่เล็งๆเลนส์ระยะนี้อยู่ ตอนนี้บอกได้เลยว่า ตัดสินใจไม่ยากแน่นอน เพราะให้ความคมที่ใช้งานรองรับกับกล้องความละเอียดสูงได้ แถมยังมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา น่าใช้งานมากๆ
ส่วนตัวที่เป็นไฮไลต์ของงานเลยก็คือ Sony A7R IV กล้อง Full Frame Mirrrorless ที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงถึง 61 ล้านพิกเซลนั่นเอง สำหรับกล้อง Sony A7R IV นั้น จากการได้ลองสัมผัสในงานมาแล้วคร่าวๆถือว่าเป็นกล้องที่ออกแบบตอบโจทย์การทำงานสำหรับมืออาชีพที่เน้นเรื่องคุณภาพไฟล์ ต้องการไฟล์ภาพที่มีขนาดใหญ่สำหรับใช้งาน ซึ่งเดี๋ยวขอ Preview เล่าเกี่ยวกับกล้องตัวนี้ไปด้วยเลยแล้วกันว่าเป็นอย่างไร
สำหรับรูปร่างหน้าตาของเจ้า Sony A7R IV นั้น ดูคล้ายคลึงกับรุ่นก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีการปรับโฉมอะไรมากมายนัก มีแค่การปรับบางอย่างนิดๆหน่อยๆเพื่อลบจุดด้อยบางอย่าง เป็นการปรับปรุงตัวกล้องในจุดเล็กๆที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของเซ็นเซอร์เพียงอย่างเดียว
อย่างแรกเลยก็คือ การจับถือที่ดีขึ้น เพราะ Sony A7R IV นั้นมีการเพิ่มขนาดกริปให้ใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับ Sony A7R III ทำให้จับถือได้กระชับมากขึ้น ตรงจุดนี้ถือเป็นการปรับปรุงเรื่องของการจับถือที่หลายคนมองว่าด้วยตัวกล้องขนาดเล็กเลยทำให้นิ้วจิกเกาะตัวกล้องลำบาก มาคราวนี้ทาง Sony เลยขยายขนาดกริปให้ใหญ่ขึ้นซะเลย ซึ่งแน่นอนว่าก็ทำให้การจับถือนั้นดีขึ้น เรียกได้ว่าเต็มไม้เต็มมือขึ้นนั่นเอง ส่วนด้านบนตัวกล้องก็แปลกตาไป เพราะตัว Dial ที่นิ้วโป้งขวา เห็นชัดเจนเป็นแป้นหมุน และในส่วนของแป้นควบคุมการชดเชยแสงก็มีปุ่มกลางล็อคไม่ให้หมุนได้ ป้องกันมือมักไปโดนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ส่วนช่องใส่การ์ดนั้นยังคงมีสองช่องเหมือเดิม แต่ที่ปรับเข้ามาก็คือทั้งสองช่องนั้นรองรับ UHS-II แล้ว สามารถทำงานด้วยความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลได้เท่ากันทั้งสองช่อง เพราะแต่เดิมนั้นมีแค่ช่อวเดียวที่รองรับ UHS-II และยังมีการปรับตำแหน่วการ์ดช่องที่หนึ่งไปไว้ด้านบน และด้านล่างเป็นช่องที่สอง สลับกับของเดิมใน Mark III
ส่วนฝาปิดช่องใส่เม็มโมรี่การ์ดนั้นไม่มีตัวล็อคอีกต่อไป กลับไปใช้แบบสไลด์เลื่อนเอา ซึ่งจุดนี้มองว่าระยะยาวหากใช้งานไปนานๆจะเกิดหลวมหรือเปล่า แต่เหตุผลที่ทาง Sony ทำตัวล็อคช่องใส่การ์ดแบบนี้มา ส่วนหนึ่งเพราะได้มีการพัฒนาเรื่องขอวระบบซีลป้องกันละอองน้ำและฝุ่นละอองที่ขึ้น การใช้ตัวล็อคแบบดังกล่าวทำให้ซีลยางแนบสนิทได้ดีกว่าเดิม
ส่วนด้านหลังตัวกล้องยังคงมีความคล้ายคลึงกับรุ่นเดิม ไม่ได้เปบี่ยนแปลงอะไรมากนัก จะสังเกตเห็นได้ว่าตรงจอยสติ๊กนั้นมีผิวสัมผัสแบบใหม่ และวิวไฟน์เดอร์นั้นมีการพัฒนาให้มีความละเอียดมากขึ้นอยู่ที่ 5.78 ล้านพิกเซล ส่วนสเป็คตัวกล้องอื่นๆก็มีดังนี้
- ระบบกันสั่น 5 แกนภายในตัวบอดี้
- เมื่อใช้งานครอปโหมดขนาด APS-C สามารถให้ความละเอียดสูง 26 ล้านพิกเซล
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K HDR
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็ว 10 fps
- ให้ไฟล์ภาพ 14 Bit Raw พร้อม Dynamic Range 15 Stops
- ขนาดบอดี้ใกล้เคียงกับ Sony A7RIII
- หน้าจอสัมระบบผัสขนาด 3 นิ้ว
- จุดโฟกัส 567 จุดแบบ Phase Detection พร้อมรองรับ Real-Time Eye AF ในวีดีโอด้วย
- มีโหมด Pixel Shift Multi Shooting สามารถทำได้ถึงความละเอียด 240 ล้านพิกเซล
- สามารถเลือกโฟกัสตาซ้ายขวาได้
สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อในตัวกล้องยังคงมีมาให้ครบครัน และแน่นอนว่ารองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ NFC ได้เหมือนเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของพอร์ตเชื่อมต่อนิดหน่อย
ที่น่าสนใจก็คือ พวกระบบ Interface ของกล้องที่เพิ่มในส่วนของภาพประกอบตรงการตั้งค่า Custom Key เพื่อระบุตำแหน่งของปุ่มให้เห็นชัดเจนว่าอยู่ตรงไหน เพราะบางคนอาจจะยังงงกับปุ่มต่างๆ ตัวนี้ก็ช่วยให้ตั้งค่าได้สะดวกขึ้น
และที่ดีงามไปกว่านั้นก็คือ ตำแหน่งจุดโฟกัสเปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว ทำให้มองเห็นจุดโฟกัสได้ชัดเจนขึ้น เพราะรุ่นเดิมเป็นสีดำ มองยากมาก แถมยังสามารถปรับเป็นสีแดงได้ด้วย ยิ่งทำให้สามารถมองหาจุดโฟกัสที่เราเลือกไว้ได้สะดวกมากขึ้นไปอีก
และการเพิ่มในส่วนของการเลือกจุดโฟกัสตาซ้ายหรือขวาได้ ช่วยให้ถ่ายภาพได้ในจุดที่ต้องการโฟกัสได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
มีสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาจาก A7R III อย่าง IPTC Information สามารถเพิ่มข้อมูล Metadata ได้ และยังมีในส่วน Write Serial Number สามารถระบุข้อมูลตัวเลขเครื่องลงไปในไฟล์ภาพได้เลย ช่วยให้จัดการไฟล์ได้ง่ายขึ้น
ส่วนไฟล์ภาพขนาด 61 ล้านพิกเซลก็เหลือกินเหลือใช้ หากใครที่ไม่ได้ใช้งานไฟล์ความละเอียดสูงอาจจะมองว่าเกินความจำเป็นไปด้วยซ้ำ แต่ข้อดีของไฟล์ขนาดใหญ่ก็คือ สามารถนำมาครอปภาพได้ง่ายและให้ความละเอียดที่สูงสำหรับการนำไปใช้งานต่อได้ นี่แหละเหตุผลหนึ่งที่หลายคนเลือกกล้องที่มีความละเอียดสูงไว้ใช้งาน (เช่น การถ่ายภาพสัตว์ป่าหรือมาโคร แต่องค์ประกอบภาพหลวมไป สามารถครอปภาพแล้วยังได้ความละเอียดของภาพที่ใหญ่อยู่)
ส่วนอีกตัวที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์กับ Sony RX100 VII กล้องคอมแพ็คขนาดเล็กที่มาพร้อมประสิทธิภาพการทำงานสูง โดยเฉพาะเรื่องความเร็วในการถ่ายภาพ โดยนำเอาเทคโนโลยีการถ่ายภาพจากใน Sony A9 มาใช้ในกล้องตัวนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบการคำนวณสภาพแสงและการโฟกัสที่ตัวกล้องประมวลผลที่ 60 เฟรมต่อวินาที หรือการถ่ายภาพต่อเนื่องที่ 20 ภาพต่วินาที พร้อมกับระบบ Single Burst Shooting ที่สามารถบันทึกภาพที่ความเร็ว 90 ต่อวินาที (แต่จะประมวลผลและบันทึกลงในการ์ดที่ 7 ภาพให้สามารถนำมาใช้งานได้
ตัวอย่างไฟล์ภาพจาก Sony RX100 VII
ทดสอบการถ่ายภาพต่อเนื่อง 20 ภาพต่อวินาที
ภาพจากการใช้งานระบบ Single Burst Shooting
และนี่ก็เป็นบรรยากาศบางส่วนที่เรานำมาให้ชมกัน สำหรับกล้องและเลนส์รุ่นใหม่ของ Sony ที่เปิดตัวในครั้งนี้ ก็มีแผนจะวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ใครที่กำลังรออยู่ก็อดใจรออีกนิด หากทราบราคาและวันวางจำหน่ายที่แน่นอนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทาง Sony Thai ที่เอื้อเฟื้อและอำนวยความสะดวกในการเดินทางครั้งนี้ด้วย