ดีไซน์
Review: Vivo S1 สมาร์ทโฟนดีไซน์โดดเด่น กล้องหลังสามตัวสุดคุ้ม
พร้อมสแกนนิ้วใต้จอได้อีกด้วย!!
สวัสดีเพื่อนๆ ชาว TechXcite ทุกคนอีกครั้งนะคะ วันนี้ กู๊ดดรีม TechXcite นำรีวิวสมาร์ทโฟนสุดคุ้มค่ามาฝากทุกคนอีกเช่นเคย และวันนี้ดรีมก็อยู่กับ Vivo S1 สมาร์ทโฟนที่แว้บแรกเห็นก็เป็นปลื้มกับดีไซน์ฝาหลังสวยเก๋ มาพร้อมกล้อง AI Triple Camera เพิ่มเลนส์ Wide มาให้ นอกจากนี้ยังอัปเกรดให้สามารถสแกนนิ้วใต้หน้าจอได้อีกด้วย ลืมแถบสแกนลายนิ้วมือแบบเก่าๆไปได้เลย แค่เริ่มต้นแอบสปอยมาเยอะละ ไปแกะกล่องพร้อมกันเลยดีกว่า
แกะกล่องก่อนไม่รอละนะ
-
เครื่อง Vivo Y12
-
เคสใส
-
คู่มือการใช้งาน
-
หูฟัง Jack 3.5
-
สายชาร์จ Micro USB
-
Adaptor
-
เข็มจิ้มถาดซิม
สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องก็ค่อนข้างครบครันเลยทีเดียวตามสไตล์ Vivo ตัวเคสใสมีความยืดหยุ่นสูงแต่ก็แข็งแรงทนทาน สายชาร์จเป็นแบบ Micro USB และสายหูฟัง Jack 3.5 เพื่อการเสียบฟังเพลงผ่านพอร์ทได้เลย ไม่ต้องใช้สายแปลงอีกที
ดีไซน์
เริ่มที่ลักษณะภายนอก สีที่ดรีมได้มาคือสี Skyline Blue สีสันสดใส หวานมาก โทนพาสเทล ไล่ระดับเฉดสีม่วงตรงฐานเครื่องไปจนสีฟ้าที่ที่ด้านบนของตัวเครื่อง เล่นดีเทลแวววาวไล่เฉดเป็นตัว S สีสันสวยงาม มีให้เลือกสองสีด้วยกันคือ Diamond Black และ Skyline Blue
กล้องสามตัวหลัง AI Triple Camera วางเรียงกันในแนวดิ่ง ส่วนโลโกมีการปรับรูปแบบใหม่ วางพาดแนวนอนชิดมุมซ้าย
ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าฝาหลังมันโล่งแปลกๆ ใช่มะ นั่นก็เพราะแถบสแกนลายนิ้วมือหายไปแล้วจ้า โดยสามารถสแกนนิ้วภายใต้หน้าจอได้เลย
ด้านขวาเป็นปุ่ม เปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง วางในตำแหน่งที่สามารถควบคุมได้ง่ายด้วยนิ้วโป้ง
ด้านซ้าย เป็นถาดซิมแบบ Dual-Sim นาโนซิมใส่ได้สองซิมบวก microSD การ์ด เข็มจิ้มถาดซิมใส่เข้ามาให้ในกล่องแล้ว และอีกหนึ่งปุ่มพิเศษคือ ปุ่มเพื่อเรียกใช้งาน Google Assistance เพื่อเพิ่มความง่ายในการเรียกใช้งาน
ด้านบนเป็นขอบเรียบ ไม่มีพอร์ทการใช้งานอะไร ข้ามมาดูด้านล่าง บริเวณฐานเริ่มต้นจากพอร์ทเสียบหูฟัง Jack 3.5 พอร์ท Micro-USB และลำโพง 1 ข้าง
บริเวณด้านบนหน้าจอ เป็นแถบลำโพงสนทนาที่วางเป็นแถบบางๆ จนแทบจะกลืนไปบนขอบของจอ ส่วนติ่งซึ่งเป็นตำแหน่งของกล้องหน้า ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก เพื่อให้รบกวนการใช้งานบนหน้าจอน้อยที่สุด
โดยรวมเรื่องของดีไซน์ สิ่งที่โดดเด่นนอกเหนือจากรูปแบบฝาหลัง ก็เห็นจะเป็นน้ำหนักที่เบาเกินคาดด้วยวัสดุฝาหลังที่ทำจากพลาสติก ข้อดีของพลาสติกคือให้น้ำหนักที่เบา และความยืดหยุ่นสูง เลยให้ความรู้สึกแบบว่าเบามาก เหน็บใส่กระเป๋ากางเกงกระเป๋าเสื้อได้สบาย พอร์ทการใช้งานต่างๆก็ใส่มาให้ครบครัน ถึงแม้ว่าช่องชาร์จจะยังคงเป็น Micro-USB อยู่ ข้อดีของมันก็คือสามารถหาสายชาร์จได้ง่ายดี แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น TypeC มันก็คงจะโอเคกว่าเนอะ
สเปคการใช้งานและฟีเจอร์
-
หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.38 นิ้ว
-
CPU MTK P65 Octa core ความเร็ว 2.0 GHz
-
ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 9 (based on Android 9.0)
-
RAM 6GB
-
ROM 128GB
-
รองรับ microSD
-
กล้องหลัง AI Triple Camera 16MP+8MP+2MP
-
กล้องหน้า 32MP
-
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
-
รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า
-
น้ำหนัก 179 กรัม
-
แบตเตอรี่ 4500mAh
-
รองรับ Fast Charging
-
รองรับ Micro USB 2.0
-
มีสองสีให้เลือกคือ Diamond Black, Skyline Blue
คะแนน Antutu
หลังจากเช็คคะแนน Antutu แล้ว ออกมาไม่น้อยเลยทีเดียว ได้ไปถึง 146981 คะแนนด้วยกัน โดยแบ่งคะแนนในส่วนต่างๆออมาได้ตามนี้
โดยรวมเรื่องของสเปคก็ให้มาครบครัน ความจุและหน่วยความจำที่ให้มาแบบไม่กั๊กกับ RAM 6GB และ ROM 128GB กล้องก็อัดแน่นมาให้ถึง 3 เลนส์ด้วยกัน และอีกหนึ่งจุดเด่นก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ที่จัดเต็มมาให้ถึง 4500 mAh แถมยังรองรับ Fast Charging ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ทนทาน พร้อมในทุกๆการใช้งานต่อวันจริงๆ
Gaming Mode
เป็นผู้ช่วยจัดการเกม เพื่อให้การเล่นเกมของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเราสามารถควบคุมเนื้อหาการแจ้งเตือน อันเป็นต้นเหตุทำให้เกิดสภาวะหัวร้อนขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนที่มักโผล่มาในจังหวะสำคัญและโดนปุ่มสำคัญ หรือแม้กระทั่งสายเข้าที่รบกวน จนอาจกำหนดชะตาของเกมในตานั้นไปเลยก็ได้ ในโหมดนี้เราสามารถเลือกปิดการแจ้งเตือน และจะมีการจัดการการทำงานเบื้องหลัง เพื่อดึงประสิทธิภาพในการเล่นเกมให้เสถียรมากยิ่งขึ้น
เมื่อจัดการตั้งค่าในส่วนของ Game Mode เรียบร้อยแล้วก็กดเข้าเกมกันเลย
มาเล่นเกมกันเถอะ
เริ่มที่เกม ROV ซึ่งเป็นเกมที่กราฟฟิกค่อนข้างจัดจ้าน ใช้การประมวลผลค่อนข้างสูง ก่อนเริ่มเกมทำการปรับตั้งค่าทุกอย่างสูงสุด ภาพ HD เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมแบบเต็มสตรีม ว่าภาพจะหน่วง กระตุก หลุดรึเปล่า ซึ่งจากการทดสอบ ถือว่าทำออกมาได้ดี เล่นได้ไหลลื่น ในจังหวะการบวกเฟรมเรทมีกระตุกเล็กน้อย แต่ก็ไม่ทำให้ภาพสั่นไหวเท่าไหร่นัก ความคมชัด สีสันของภาพและเอฟเฟกต์สวยงาม ภาพไม่สะดุด ข้อดีของ CPU MTK P65 คือความประหยัดแบตและการควบคุมไม่ให้เครื่องร้อน
มาต่อที่เกมที่สองกับ PubG
อีกหนึ่งเกมส์กราฟฟิคปราบเซียน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมที่ใช้การประมวลผลที่สูงมากๆ โดยรูปแบบการตั้งค่านั้นจะถูกปรับให้เหมาะสมตามความสามารถของ CPU และการประมวลผล เพื่อสมดุลในการเล่นเกมส์ที่ไหลลื่น แล้วยังเซฟแบตเตอรี่ ไม่ทำให้เครื่องร้อน จังหวะการเคลื่อนไหว หันซ้ายหันขวายังคงไหลลื่น ทำได้ดี มีช่วงหน่วงเล็กน้อยในจังหวะของการซูม แต่ก็ไม่ทำให้เสียอรรถรสในการเล่นเท่าไหร่นัก
เรื่องของแบตเตอรี่เมื่อปรับตั้งค่าในระดับที่เหมาะสม ก็ไม่กินแบตเท่าไหร่นัก ทดลองเล่นในหลายๆตา โดยปรับตั้งค่าตามคำแนะนำ แบตลดลงไปน้อยมาก ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ไว้ใจได้ว่าแบตไม่ไหล
สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของ Vivo S1 อย่างที่ดรีมบอกไปในช่วงของดีไซน์ ว่าแถบสแกนลายนิ้วมือด้านหลังถูกเอาออกไป แล้วปรับความสามารถโดยการเพิ่มเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ใต้หน้าจอ เพื่อความล้ำ และสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งเซ็นเซอร์ก็สามารถประมวลผลปลดล็อคหน้าจอได้ไวและแม่นยำ
สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ใน Setting การตั้งค่าลายนิ้วมือ และใบหน้า โดยทำการตั้งรหัสผ่านเพื่อความปลอดภัยก่อนการบันทึกลายนิ้วมือ
นอกจากนี้ที่ขาดไม่ได้ อย่างเรื่องของการสแกนใบหน้า ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำเช่นเดียวกัน
หน้าจอและระบบเสียง
มาเข้าเรื่องของการใช้งานเพื่อการดูหนังฟังเพลงกันบ้าง ด้วยหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.38 นิ้ว จึงให้สีสันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ จอใหญ่ ใช้งานได้จุใจดีอยู่นะ ถึงแม้จะมีติ่งเล็กๆอยู่บนหน้าจอ แต่ก็ออกแบบมาให้มีขนาดที่เล็กจนรบกวนการใช้งานได้น้อยมากๆ จากการใช้งานจริง และส่วนตัวที่เป็นคนค่อนข้างหงุดหงิดกับรอยบาก รอยติ่งได้ง่าย ทำให้เสียอรรถรสในการใช้งานดูหนัง ดูยูทูป แต่สำหรับ Vivo S1 พูดได้เลยว่าติ่งเล็กๆนั้น มันแทบไม่ส่งผลอะไรมากมายบนหน้าจอจริงๆ
แล้วลำโพงล่ะ? ด้วยความที่มีลำโพงเพียงข้างเดียว การเล่นเกมส์บางเกมส์ที่ต้องใช้ประสาทสัมผัสสูงอย่าง PUBG เพื่อการจับความเคลื่อนไหวของศัตรู อาจเสียอารมณ์นิดๆ แต่เมื่อเปิดฟังเพลง เปิดยูทูป เสียงมันดังเซอร์ราวน์มาก เนื้อเสียงละเอียด เด่นไปทางเสียงนักร้องมากกว่าเสียงดนตรี ก็ถือว่าโอเคนะสำหรับการเปิดใช้เพื่อดูหนัง ดูยูทูป เปิดฟังเพลงทั่วไป เสียงดังใช้ได้
กล้อง
ประกอบด้วยกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera แบบจัดเต็ม ด้วยความละเอียด แบ่งเป็น
-
เลนส์หลัก 16MP f/1.78
-
เลนส์วัดระยะ 8MP f/2.2
-
เลนส์ถ่ายมุมกว้าง 2MP f/2.4
ซึ่งในโหมดการถ่ายภาพนั้นก็มีลูกเล่นมาให้เล่นมากมายเลยทีเดียว
-
หน้าชัด หลังเบลอ
-
ถ่ายภาพกว้าง
-
AI Beauty
-
HDR
-
Live Photo
-
เอฟเฟกต์แสงบุคคล
-
ฟิลเตอร์
-
ถ่ายภาพกว้างในมุมมองพิเศษ
หน้าชัด หลังเบลอ
ใช้เพื่อการถ่าย Portrait เพื่อการเบลอฉากหลังให้สวยงาม เน้นตัวแบบโดดเด่น โดยภายหลังจากการกดถ่ายแล้ว ยังสามารถเข้าไปเลือกปรับพื้นที่ที่ต้องการให้ชัดหรือเบลอได้อีกด้วย ในกรณีที่เราต้องการโฟกัสหลายอย่างในเฟรมเดียว ซึ่ง Vivo S1 ก็สามารถทำรูปแบบการละลายหลังออกมาได้ดี ดูเนียนเข้ากับบรรยากาศแบ็คกราวน์ด้านหลัง หรือจะใช้เพื่อการถ่ายภาพสิ่งของทั่วไป เพื่อโฟกัสให้สิ่งของนั้นดูโดดเด่นขึ้นมาได้ เช่นการถ่ายแก้วน้ำ ผลไม้
ถ่ายภาพกว้าง
สามารถเลือกกดใช้งานได้ที่โหมด Wide เพื่อการถ่ายภาพในมุมที่กว้างยิ่งขึ้น เก็บรายละเอียดได้ดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ Lanscape หรือจะถ่าย Portrait เพื่อหามุมมองภาพที่แตกต่างออกไป ก็แล้วแต่ครีเอทขึ้นมาเลย โดยดรีมจะใส่ภาพเปรียบเทียบระหว่างการถ่ายด้วยเลนส์ธรรมดาและเลนส์วายเพื่อที่จะได้เห็นรูปแบบการทำงานที่ชัดเจนขึ้น
AI Beauty
โหมดโปรดสำหรับสาวๆ ซึ่งในโหมด AI Beauty นั้นจะสามารถเลือกปรับความฟรุ้งฟริ้ง ความเป๊ะก่อนการกดชัตเตอร์ได้ ซึ่งความพิเศษของโหมดบิวตี้ใน Vivo S1 นั้นจะแตกต่างจากโหมกบิวตี้ทั่วไป ตรงที่มันมี AI โดยเราสามารถเลือกปรับในแต่ละจุดที่เราต้องการได้เลยในทันที อย่างเช่น ต้องการผิวเนียน ลบกราม ดึงสันจมูก AI Beauty ก็ทำได้จ้า ทำได้ไว ทำได้ฟรี จมูกสวยสั่งได้โดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอเลย สาวๆจะต้องปลื้ม ซึ่งหลังจากเสริมความงามบนใบหน้าไปแล้ว แต่หุ่นยังไม่พร้อม แล้วยังไงล่ะ AI Beauty เลือกปรับหุ่นให้ได้ด้วยจ้าา จะเอวคอน เสริมสะโพก ลดขาก็ทำได้ง่ายๆ สุดยอดมาก
HDR
ในโหมด HDR สามารถกดเพิ่อปิดหรือเปิดการใช้งาน HDR ได้ด้านบนของโหมดถ่ายภาพ ซึ่งความแตกต่างของการถ่ายภาพแบบปิดและเปิด HDR มันต่างกันยังไง อธิบายไปก็อาจจะดูเข้าใจยาก ลองมาดูภาพเปรียบเทียบกันเลยดีกว่า จะเห็นได้ว่า เมื่อเปิด HDR กล้องจะสามารถเก็บรายละเอียดขององค์ประกอบรอบๆได้อย่างครบถ้วน แม้จะอยู่ในที่แสงจ้า อีกทั้งยังสามารถเกลี่ยแสงให้สมดุลกันทั้งรูปไม่ได้โฟกัสจุดไหนโดดเด่นเกินไป จะออกไปถ่ายภาพทั่วไป Lanscape หรือถ่ายสตรีทก็แนะนำให้เปิด HDR ถ่ายนะ ภาพออกมาสวยจริงแบบจบในกล้องเลย และเช่นเคยในโหมดนี้ ดรีมจะลงเป็นภาพเปรียบเทียบระหว่างก่อน หลังการเปิด HDR ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร บอกได้เลยว่าในโหมดนี้เห็นความชัดเจนค่อนข้างมากเลยทีเดียว
Live Photo
เป็นฟีเจอร์ที่สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้เป็นระยะเวลาประมาณ 3 วินาที การใช้งานสามารถเข้าไปกดเลือกเปิดโหมด Live Focus ได้ที่ด้านบนของโหมดถ่ายภาพ แล้วกดถ่ายเหมือนภาพถ่ายทั่วไป โดยเราสามารถเข้าไปกดดูภาพถ่าย Live Focus ที่กดถ่ายไว้ได้ในคลังภาพ โดยการกดภาพนั้นค้างไว้ก็จะขึ้นเป็นภาพเคลื่อนไหว เป็นระยะเวลาสามวินาที
เอฟเฟกต์แสงบุคคล
เป็นโหมดสำหรับการถ่าย Portrait โดยเราสามารถเลือกเอฟเฟกต์แสงเพื่อตกแต่งลงไปบนภาพถ่ายให้ภาพยิ่งดูสวยงาม มีชีวิตชีวา โดยรูปแบบของเอฟเฟกต์แสงบุคคลก็มีให้เลือกแบบครบครันเลย ทั้งไฟแสงสีรุ้ง ไปสตูดิโอ ไฟแสงแฟลจากดวงอาทิตย์ ก็เลือกมาตกแต่งได้อย่างเนียนเป็นธรรมชาติ ให้ภาพที่เก๋ไก๋ มีสไตล์มากยิ่งขึ้น
ฟิลเตอร์
เป็นโหมดย้อมสีภาพ ก่อนการกดชัตเตอร์ ก็มีรูปแบบฟิลเตอร์มาให้เลือกเยอะอยู่นะ แต่จากความรู้สึกคิดว่าฟิลเตอร์ที่ใส่มาให้มันดูแข็งไปนิด พอเอามาใส่ในภาพถ่ายแล้วมันดูไม่ค่อยเข้ากัน ถ้าไม่สว่างโล่ไปเลย ก็อาจจะสีเข้มไปนิด โหมดนี้ก็อำนวยความสะดวกขึ้นมาอีกขั้น แต่เสียเวลาไปปรับเองน่าจะได้ภาพที่ถูกใจกว่า
ถ่ายภาพกว้างในมุมมองพิเศษ
เป็นอีกหนึ่งมุมมองถ่ายภาพที่กว้างเป็นพิเศษ กว้างจนเหมือนถ่ายด้วยพาโนรามาที่สามารถประติดประต่อภาพได้อย่างแนบเนียน โดยมุมมองของกล้องอาจจะแคบลง แต่ให้ภาพที่กว้างขึ้น เหมาะกับการถ่ายวิวกว้างๆ หรือถ่ายรูปหมู่ที่ไม่เน้นรายละเอียดอะไรมากมายนัก ขอเน้นเก็บครบไว้ก่อน
โดยรวมเรื่องของลูกเล่นในโหมดถ่ายภาพ ก็ให้มามากมายครบครันเลย แต่เรื่องของการถ่ายภาพในพื้นที่แสงน้อยอาจจะทำได้ไม่ดีนัก คาดหวังให้มีการอัพเดทเพิ่มเติมก็จะเพอร์เฟคมากเลยล่ะ ลองไปดูตัวอย่างภาพถ่ายแบบรวมๆกัน
เซลฟี่สวยสั่งได้
สำหรับ Vivo S1 ให้ความละเอียดกล้องหน้ามาอยู่ที่ 32MP ซึ่งเป็นความละเอียดของกล้องหน้าที่ไม่ธรรมดาเลย จากการใช้งานจริงก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ใช้ควบคู่ไปกับโหมดบิวตี้เพื่อการปรับแต่งภาพให้ดูดีจบหลังกล้อง โดยสามารถเอาไปคุยต่อได้ว่ารูปนี้ถ่ายไม่ได้แต่งเพิ่มนะ (แค่ปรับก่อนการกดชัตเตอร์แบบครบทุกจุดมาแล้ว^O^)
แบตเตอรี่และสรุปการใช้งาน
แบตเตอรี่อึดสุดขั้ว!
และแล้วก็เดินทางมาถึงไฮไลท์ในช่วงสุดท้ายกันแล้ว กับแบตเตอรี่ที่เกริ่นแต่แรกไว้แล้วว่าแบตอึดสุดขั้ว เพราะเค้าให้ความจุมามากถึง 4500 mAh เลยทีเดียว!! เอาจริงๆ แบต 4000 mAh สำหรับดรีมต่อการใช้งานทั้งวันก็เหลือๆแล้วนะ นี่เขาให้มาถึง 4500 ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่จะหมดระหว่างวัน หรือพกที่ชาร์จสำรองให้หนักกระเป๋า ซึ่งจากการใช้งานจริง ถ้าไม่ได้ใช้งานหนักๆอย่างการดูหนัง ดูยูทูป ก็สามารถอยู่ได้วันกว่าๆเลยล่ะ และนอกจากจะแบตอึดแล้วยังรองรับ Fast Charging อีกด้วย เอาซี้ แบตก็อึด ชาร์จก็ไว ใครสายใช้งานเน้นแบตคงทน คุ้มค่า รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์มาก เวรี่กู้ด!
สรุปการใช้งาน
สำหรับ Vivo S1 จุดเด่นก็เห็นจะเป็นเรื่องของกล้องที่ให้มามากถึง 3 เลนส์ ทั้งกล้องเลนส์วาย เพื่อการเก็บภาพในมุมมองที่กว้างขึ้น เลนส์วัดระยะที่เพื่อการถ่าย Portrait ที่ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรื่องของโหมดลูกเล่นต่างๆก็เยอะแยะให้เล่นอีกเพียบ ใครชื่นชอบการถ่ายภาพ แต่งภาพน่าจะถูกใจ ส่วนแบตเตอรี่ก็ให้มามากถึง 4500 mAh สามารถใช้คำว่าสมาร์ทโฟนแบตอึดได้เลย แถมยังมาพร้อม Fast Charging เพื่อเพิ่มความเร็วในการชาร์จ เรื่องของการใช้งานต่อวันก็นับว่าเพียงพอ ใช้ได้นานทีเดียว
Vivo S1 เปิดราคามาที่ 8,999 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว โดยเริ่มเปิดให้ Pre - Order ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม - 31 กรกฎาคม 2562 ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือสั่งจองผ่านช่องทางออนไลน์ Lazada ได้ ที่นี่
จุดเด่น
-
ดีไซน์สวย น้ำหนักเบา
-
กล้อง AI Triple Camera
-
แบตเตอรี่ 4500 mAh
-
สแกนนิ้วใต้จอ
-
กล้องหน้า 32MP
จุดสังเกต
-
ยังเป็นช่องชาร์จแบบ micro-USB ถ้าเป็น USB-Type C จะแจ่มมาก
-
กรอบเลนส์นูน ทำให้ตัวกล้องอาจเป็นรอยง่าย