Review: Xiaomi Mi Smart band 4 สายรัดข้อมืออัจฉริยะ ใส่ครบทุกฟังก์ชั่น
ที่สุดแห่งความคุ้มค่า ในราคาเพียง 1,290 บาท!!
มาแล้วจ้าา มาแล้ว รีวิวที่หลายคนรอคอย ก่อนอื่นสวัสดีเพื่อนๆชาว TechXcite ทุกคนค่า วันนี้ กู๊ดดรีม TechXcite มาพร้อม Smart Band ยอดนิยมที่กำลังกระแสแรงอยู่ในตอนนี้อย่าง Xiaomi Mi Band 4 ซึ่งได้อัพเดทปรับปรุงรูปแบบจากรุ่นก่อนๆ ให้ดูดียิ่งขึ้น ฟังก์ชั่นหลากหลายยิ่งขึ้น ในราคาไม่ต่างจากเดิม!! ไม่รอช้า เราลงไปดูรีวิวพร้อมกันเลยดีกว่าว่า Xiaomi Mi Band 4 ที่เพิ่งมาสถิตอยู่ข้อมือดรีมตัวนี้จะทำอะไรได้บ้าง เจ๋งขึ้นอย่างไร มาเริ่ม!!
การเชื่อมต่อ
ก่อนอื่นโหลดแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Mi Fit แล้วทำการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธโลดด ซึ่งข้อมูลบนแบนด์ก็จะเชื่อมต่อผ่านทางสมาร์ทโฟน เพื่อปรับตั้งค่าต่างๆ ทั้งหน้าปัดแบนด์ หน้าต่างวิตเจ็ต การแจ้งเตือน หรือการแสดงผลการคำนวนทางร่างกายต่างๆ ตัวแอพใช้งานง่าย ตั้งค่าง่าย โหลดมาแล้วก็ลองเล่นกันดู
ดีไซน์
สำหรับดีไซน์อาจจะไม่ได้แตกต่างจากรุ่นก่อนมากเท่าไหร่นัก หน้าจอสีทัชสกรีน เป็นจอแบบ AMOLED ขนาด 0.95 นิ้ว ก็เกือบๆนิ้วนั่นแหละ ความแจ่มชัดของสีละเอียด สีสด คมชัดดีมาก สามารถปรับความสว่างของหน้าจอได้ มีโหมดล็อคหน้าจอ เรื่องระบบสัมผัสก็สามารถทำได้ไวและแม่นยำแม้จะเป็นหน้าจอขนาดไม่ถึงนิ้วก็ตาม
ตัวสายที่ดรีมได้มาเป็นสีดำ ตัวล็อคแน่นหนาไม่หลุดง่าย โดยรวมดีไซน์ก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไร สามารถใส่แฟชั่นได้เข้ากับหลายสไตล์ ผู้หญิงใส่ก็เก๋ ผู้ชายใส่ก็ดูเท่ดี นอกจากนี้ยังกันน้ำได้อีกด้วย ด้วยมาตรฐานการกันน้ำ 5 ATM ซึ่งสามารถกันน้ำได้ถึง 50 เมตร ใส่ว่ายน้ำได้ไม่เป็นปัญหาเลย โดยในโหมดการออกกำลังกายก็มีกิจกรรมสำหรับการใส่ว่ายน้ำด้วยเพื่อยืนยันถึงมาตรฐานว่าเอาอยู่ ทนทานจริงๆ
หน้าจอวิตเจ็ตรูปแบบหลากหลาย
ในส่วนนี้ดรีมจะชอบเป็นพิเศษ สาวๆก็น่าจะชอบ เพราะเขาออกแบบมาให้สามารถเลือกรูปแบบวิตเจ็ตได้หลากหลายมากๆ ทั้งลายเรียบๆ ทางการ ไปจนลายการ์ตูนมุ้งมิ้ง เป็นธีมน่ารักๆให้ได้เปลี่ยนกันให้สนุก ไม่จำเจ ชอบสไตล์ไหนก็เปลี่ยนใช้งานได้เลย หลากหลายแค่ไหนดูได้จากรูป
ควบคุมการเล่นเพลง
นี่ล่ะอีกหนึ่งความดีงามของ Xiaomi Mi Band 4 ที่ถูกอัพเดทขึ้นมาให้สามารถควบคุมการใช้งานในส่วนของโหมดเพลงได้ไม่ว่าจะเปิดจากเพลลิสท์ในเครื่อง หรือในแอปต่างๆก็สามารถควบคุมการเปิด-ปิด เพิ่ม-ลดเสียง และการกดเพื่อเริ่มเพลงถัดไปได้ โหมดนี้ดีมาก ช่วยให้เราไม่ต้องเปิดมือถือเพื่อเปลี่ยนเพลง เป็นอีกหนึ่งโหมดที่ใช้งานบ่อยมาก
คำนวนการเคลื่อนไหวร่างกาย
เป็นโหมดเบสิคที่จะคอยช่วยคำนวนการเคลื่อนไหวของการก้าวเดิน ทั้งจำนวนก้าว ระยะทางหน่วยเป็นเมตร ไปตลอดจนคำนวนการเผาผลาญแคลอรี่ได้อีกด้วย สาย Healthy ห้ามพลาด ต้องจัดแล้ว
วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
ก็เป็นอีกโหมดเบสิคที่สามารถเข้าไปปรับตั้งค่าในสมาร์ทโฟนถึงความถี่ในการวัดได้ มีหน่วยเป็น BPM โดยแนะนำว่าให้ยึดแบนด์ให้กระชับกับข้อมือระดับนึงเพื่อความแม่นยำในการตรวจวัด
กิจกรรมเพื่อการออกกำลังกาย
เป็นโหมดที่ช่วยในการจับเวลา คำนวนแคลอรี่ และวัดอัตตราการเต้นของหัวใจ ในระหว่างการทำกิจกรรม เพื่อวิเคราะห์ถึงผลการออกกำลังกายซึ่งก็มีกิจกรรมให้เลือกมากมาย ทั้งเดิน วิ่ง ยกน้ำหนัก ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เป็นเสมือนเทรนเนอร์ประจำตัว ที่คอยช่วยเหลือให้เรามีเป้าหมายในการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น
วัดอุณหภูมิ ตรวจสอบสภาพอากาศ
ก่อนจะเดินทางไปออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่างๆนั้น เรื่องของการตรวจเช็คสภาพอากาศ ก็จะช่วยให้เราควบคุมเวลา ช่วยให้ไม่เฟลเมื่อออกไปข้างนอกแล้วเกิดฟ้าฝนไม่เป็นใจขึ้นมา โหมดนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ถูกเพิ่มขึ้นมา ซึ่งเราก็สามารถเข้าไปปรับตั้งค่าสถานที่เพื่อการตรวจสอบสภาพอากาศได้ในแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน
การแจ้งเตือน
ในโหมดนี้เข้าไปกดตั้งค่าเพื่อเลือกแอปหรือช่องทางติดต่อสื่อสารที่ต้องการให้ตั้งค่าบนตัวแบนด์ ไม่ว่าจะสายเรียกเข้า Messenger Facebook Line Instagram ก็สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนได้ตามต้องการ โดยสามารถตั้งค่ารูปแบบการสั่นของแบนด์ด้วยตัวเองได้อีกด้วย ส่วนข้อจำกัดที่น่าเสียดายก็จะเป็นเรื่องของการที่ยังไม่รองรับภาษาไทย ก็นับว่าเป็นปัญหาพอสมควรสำหรับโหมดการแจ้งเตือนข้อความ รอลุ้นให้มีการอัพเดทเฟิร์มแวร์แล้วกัน พลีสสส
ตามหา Device
อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโหมดที่ดรีมชอบมากกก เพราะดรีมเป็นคนขี้ลืม ซึ่งของที่มักถูกลืมบ่อยที่สุดก็คือมือถือนั่นแหละจ้าา โดยในโหมดนี้มีชื่อว่า Find My Device สไลด์ไปที่โหมด More บนแบนด์แล้วเลือก Find Device สัญญาณจากตัวแบนด์จะถูกส่งไปยังมือถือ ทำให้เกิดเสียงแจ้งเตือน เสียงดัง เสียมแหลมเสมือนสัญญาณไฟไหม้ เพื่อแจ้งพิกัดว่าฉันอยู่ตรงนี้นะ เดินตามหาฉันให้เจอสิ ความไกลของสัญญาณก็ตามความกว้างของสัญญาณบลูทูธ
โหมดอื่นๆ
นอกจากนี้ก็มีเรื่องของโหมดการใช้งานแจ้งเตือนทั่วไป อย่างการตั้งนาฬิกาปลุก จับเวลาต่าง ก็อยู่ในฟังก์ชั่นของ More สไลด์ไปบนตัวแบนด์ได้เลย
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ขนาด 135 mAh เวลาในการชาร์จประมาณ 2 ชั่วโมง สำหรับที่ชาร์จให้มาแบบแท่นชาร์จที่สามารถล็อคตัวแบนด์ให้ติดแน่นกับแถบแม่เหล็กได้ดียิ่งขึ้น ป้องกันการชาร์จแล้วหลุดเหมือนรุ่นก่อนๆ ก็ถือว่าพัฒนามาได้ดี ความอึดของแบตนั้นก็อัพเกรดขึ้นมาด้วยเช่นกัน ซึ่งทาง mi ได้ออกมาคอนเฟิร์มว่าแบตสามารถอยู่ได้นานถึง 20 วัน จากการใช้งานจริงดรีมว่าประมาณ 15 ถึง 18 วันก็เก่งแล้วนะ หนึ่งเดือนชาร์จแค่สองทีเอง
สรุปการใช้งาน
ก่อนอื่นขอบอกตรงข้อจำกัดของ Xiaomi Mi Band 4 ก่อนแล้วกันที่อาจจะน่าเสียดายไปสักนิด ตรงที่ยังไม่รองรับภาษาไทย เลยทำให้โหมดการแจ้งเตือนนั้นดูเสียประโยชน์ไปมากทีเดียว แต่ก็เชื่อแหละว่าในอนาคตจะต้องมีการอัพเดทภาษาไทยขึ้นมาเพื่อการใช้งานที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ นอกจากนั้นในการใช้งานอื่นๆ ทำออกมาได้ดี และครบถ้วนทุกฟังก์ชั่น เห็นได้ชัดถึงความใส่ใจในการปรับปรุงแบนด์แต่ละรุ่นให้พัฒนายิ่งขึ้น ยกให้เป็น Smart Band สุดคุ้มค่า ราคาย่อมเยาว์
โดยยังคงราคาที่ใครๆก็จับต้องได้ เพียง 1,290 บาทเท่านั้น มีวางจำหน่ายแล้วตอนนี้ที่ช้อปและตัวแทนจำหน่ายทุกสาขา ใครสนใจก็ไปหาซื้อกันได้ ใครมีข้อสงสัย อยากจะซักถามอะไรก็เข้ามาพูดคุยกันได้ ตอนนี้ดรีมขอตัวไปวิ่งใช้แบนด์ให้เป็นประโยชน์บ้างละ บ๊ายบายย