Ampere เปิดตัวที่ชาร์จไร้สาย “Unravel“ สุดล้ำไม่ต้องกลัวสายพันกันวุ่นวายอีกต่อไป

Ampere เปิดตัวที่ชาร์จไร้สาย “Unravel“ สุดล้ำไม่ต้องกลัวสายพันกันวุ่นวายอีกต่อไป

หลายคนคงเคยประสบปัญหากับสายชาร์จไม่ว่าสั้นไปก็เล่นไปชาร์จไปไม่ได้เพราะเทอะทะหรือถ้ายาวไปก็วุ่นวายตอนเก็บ แต่ปัญหานั้นจะหมดไปหลังจากทีม Ampere ได้คิดไอเดียที่จะทำที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สายที่ผู้คนต่างเห็นด้วยว่าเป็นประโยชน์อย่าง Kickstarter

Ampere ได้เปิดตัว Unravel ซึ่งเป็นตัวชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายเมื่องาน CES 2019 ซึ่งตอนนี้ทาง Ampere ก็ได้เริ่มส่งสินค้าให้กับ Backers แล้ว เรามาดูหน้าตาของ Unravel กันดีกว่าว่าเป็นแบบไหนและทำงานอย่างไร

ในส่วนของหน้าตา Unravel นั้น จะมาในรูปแบบแผ่นรองขนาดใหญ่โดยสามารถกางออกมาเป็นแผ่นที่สามารถรองรับผลิตภัณฑ์ได้ 3 อย่าง ซึ่งตอนนี้ยังจำกัดรุ่นที่ใช้งานได้ดีคือ Samsung กับ Apple ถ้าเป็นแบรนด์อาจเกิดปัญหาบางอย่างได้ ในส่วนของรุ่นที่ใช้งานได้นั้น ไม่เพียงแค่ตัวโทรศัพท์แต่ยังรวมถึง Apple watch อีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีการชาร์จแบบใหม่

โดยดีไซน์ของ Unravel ก็วางแผนออกมาได้ดี ด้วยรูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่สามารถนำมาวางในรูปร่างสามเหลี่ยมเป็นฐานให้โทรศัพท์นั้นวางทำมุมประมาณ 50-60 องศา ช่วยให้การใช้งานระหว่างชาร์จเป็นเรื่องสะดวกไม่ต้องก้มลงไปกด เรียกได้ว่าทำงานไป ดูโทรศัพท์ไปไม่ต้องก้มๆเงยๆ แล้วยังมีกระเป๋าบรรจุให้ด้วยเพื่อให้สามารถเดินทางได้สะดวกสบายกับขนาดกะทัดรัด จะพกไปทำงานหรือพกไปสำหรับการเดินทางก็สะดวกสบาย

ในส่วนของข้อสังเกตคือ การชาร์จแบบไร้สายยังคงไม่ค่อยมีความเสถียรด้วยหลายเหตุผลเช่นอายุการใช้งานของโทรศัพท์หรือผลิตภัณฑ์ และการวางให้ตรงกับตัวรับ แต่ถึงแม้ว่าจะมีการเปิดให้สั่งซื้ออย่างเป็นทางการแล้วใน Amazon แต่ก็ยังเป็นโครงการที่ได้การสนับสนุนจาก Kickstarter เท่านั้นยังไม่มีสปอนเซอร์รายอื่นให้การสนับสนุนจึงทำให้การจัดส่งสินค้ายังคงพบปัญหาเล็กๆบางอย่างอยู่ เช่นเรื่องของการจัดส่งที่คนฝั่ง SEA อย่างเราจะได้รับช้ามากเพราะยังไม่สามารถผลิตได้เยอะเท่าที่ควร หรือเรื่องของความปลอดภัยที่ไม่เหมือนสายชาร์จที่มาจากบริษัทแม่ของแต่ละแบรนด์

และนี่ก็เป็นหนึ่งใน Gadget ที่น่าสนใจและถูกจับตามองในปี 2019 นี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการพัฒนาหรือปรับปรุงนวัตกรรมอะไรเพิ่มเติม เราจะนำมาอัพเดทให้ได้ทราบกันต่อไป

ที่มา:thegadgetflow