คาดหวังอะไร? เมื่อ กพท.ประกาศเตรียมเปิดพื้นที่บินโดรนเสรี
นับเป็นข่าวดีๆ อีกหนึ่งเรื่อง หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีข้อจำกัดเรื่องของการบินโดรนที่มีมากมายเหลือเกิน จนหลายคนยอมแพ้และวางมือจากวงการนี้ไป ไหนจะเรื่องการจำกัดพื้นที่การบิน ไหนจะเรื่องการขอใบอนุญาติที่หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ายากเย็นเหลือเกิน จนทำให้วงการการบินโดรนเงียบหายไปช่วงใหญ่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆที่เปิดตัวมาต่างก็ยกธงขาวบินผ่านประเทศไทยไป ทำให้เราพลาดเทคโนโลยีดีๆ พลาดอุปกรณ์ที่จะช่วยเปลี่ยนมุมมองการถ่ายภาพไปอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วก็เหมือนมีเสียงระฆังดังฟาดบอกข่าวดีล่าสุดว่า กพท. หรือสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เตรียมเคาะแผนปรับปรุงแก้ไขประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องหลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานไร้นักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) พ.ศ.2558 เพื่อให้มีความเป็นสากล ซึ่งล่าสุดแว่วมาว่าไอเคไอจัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างประกาศใช้ โดยตั้งเป้าว่าจะพยายามปรับแก้ประกาศกระทรวงคมนาคมฯ ให้แล้วเสร็จ และมีผลบังคับใช้ภายในปี 62
ซึ่งหลังจากการประกาศเปิดพื้นที่การบินโดรนเสรีแล้ว ผู้บังคับโดรนสามารถทำการบินได้เลย โดยไม่ต้องยื่นคำขอใบอนุญาตมาที่ กพท. ที่ต้องผ่านขั้นตอนมากมาย ซึ่งในข้อนี้เป็นไปตามข้อกำหนดสากลที่ได้มีการกำหนดมาแล้วในหลายๆประเทศ คนที่ยังไม่มีใบอนุญาติก็สามารถบินขึ้นโดยไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องของข้อจำกัดทั้งในเรื่องของขนาด น้ำหนัก ความสูงในการบิน รวมไปถึงพื้นที่การบิน ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ก็ถือเป็นข่าวดีกับการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เป็นไปตามหลักสากล จะว่าใหม่ก็ไม่เชิง เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ออกมานานแล้ว เอาเป็นว่าเทคโนโลยีใหม่สำหรับคนไทยแล้วกัน
ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีโดรนในปัจจุบันนั้น มีความก้าวหน้าและพัฒนาขึ้นมาก มีการนำ AI เข้ามาทำงานเป็นส่วนหนึ่งเพื่อการวิเคราะห์ประมวลผลตามการใช้งานต่างๆมากมาย ไม่เพียงแต่ใช้เพื่อการถ่ายภาพเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ถ้าใครที่ได้ติดตามข่าวสารก็คงจะรู้จักโดรนเพื่อการใช้งานในเหตุฉุกเฉิน อย่างในงานอัคคีภัยเพื่อการตรวจสอบต้นเพลิงโดยลดความเสี่ยงของมนุษย์ลงและเพิ่มความแม่นยำในการทำงานมากยิ่งขึ้น โดยการทำงานของมันอธิบายแบบง่ายๆก็คือ เมื่อเกิดเหตุขึ้นมา โดรนตัวนี้สามารถบินขึ้นเพื่อตรวจสอบประเมินความเสียหายและพิกัดการลุกไหม้ของต้นเพลิงแล้วส่งภาพกลับมาที่ศูนย์ควบคุม โดยที่คนไม่ต้องลงพื้นที่ไปเองให้เกิดความเสี่ยง
หรือถ้าขยับมาในเรื่องที่ใกล้ตัวคนไทยมากยิ่งขึ้นอย่างประโยชน์ในการใช้งานด้านเกษตรกรรม เพื่อการลดต้นทุน ลดทรัพยากรแรงงาน และประหยัดเวลามากกว่าเดิม กับโดรนทีมีความสามารถในการให้น้ำ พ่นยา แทนการใช้ทรัพยากรมนุษย์ โดยการทำงานของมันเพียงแค่อัพโหลดพื้นที่ไร่ที่จะใช้ในการทำงาน เพื่อประมวลให้เห็นเป็นภาพกราฟฟิคประมวลขนาดพื้นที่ ระยะเวลาในการทำงาน แนวตารางการพ่นยา เพื่อความง่ายในความควบคุมโดรน หรือเทคโนโลยีใหม่ที่ล้ำไปกว่านั้น กับโดรนที่ฝัง AI เพื่อใช้ในการวิเคราะห์สภาพพืชผล เพื่อการแก้ปัญหาได้ตรงจุด โดย AI จะสามารถประมวลผลตรวจสอบพืชที่มีปัญหา ติดโรค และสามารถจัดการโดยการพ่นยาเป็นจุดๆ ในเฉพาะส่วนที่มีปัญหาได้โดยไม่ต้องหว่านพ่นยาให้ทั้งหมด ลดต้นทุนได้เป็นจำนวนมาก แล้วยังสามารถวิเคราะห์ออกมาได้อย่างแม่นยำ
นี่ก็เป็นตัวอย่างเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ที่ก้าวหน้ามีขีดความสามารถทดแทนทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหลายๆประเทศมีการนำมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันกันอย่างแพร่หลายแล้ว ซึ่งจากประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ก็ชี้ให้เห็นถึงสัญญาณที่ดีในการพัฒนาทางเทคโนโลยี เชื่อว่าหลายๆคนตอนนี้ก็คงคาดหวังว่าหลังจากการเปิดพื้นที่อย่างเสรีแล้วในปี 2562 นี้ จะได้เห็นความก้าวหน้าและสิ่งใหม่ๆ ตามมา และก็คาดหวังให้ข้อจำกัดที่กำลังจะร่างเป็นรูปธรรมนั้น ไม่ถูกจำกัดจนเกินไป และเป็นไปตามข้อกำหนดตามหลักสากลจริงๆ ไว้ถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับในเรื่องนี้ เราจะนำมาอัพเดทให้ได้ทันข่าวสารไปพร้อมๆกัน ใครมีโดรนอยู่ในมือตอนนี้แล้วมีความคิดที่กำลังจะขาย ก็อย่าเพิ่งรีบร้อนขายทิ้งกันล่ะ