ASUS เปิดตัว VivoBook S14 และ S15
โน้ตบุ๊กแบบพกพาที่เพรียวบางทันสมัยพร้อมนวัตกรรม ASUS ScreenPad 2.0 มาพร้อมโฉมใหม่เน้นการออกแบบสีสันสดใส และจอแสดงผล NanoEdge ทั้งสี่ด้าน
เอซุสเปิดตัว VivoBook S14 (S431 / S432) และ VivoBook S15 (S531 / S532) แล็ปท็อปที่มีขนาดเล็กมากสามารถพกพาได้ มาพร้อมนวัตกรรมหน้าจอสัมผัส ASUS ScreenPad ™ 2.0 เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น และการออกแบบสีสันทีมีให้เลือกถึง 5 เฉดสี พกพาสะดวก เหมาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ โลหะที่เพรียวบาง สัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์และการออกแบบบานพับแบบ ErgoLift เพื่อการพิมพ์ที่สะดวกสบาย แล็ปท็อปทั้ง 2 รุ่นนี้ ออกแบบจอแสดงผล NanoEdge ไร้ขอบสี่ด้านซึ่งให้ขนาดที่เล็กลงและประสบการณ์การรับชมที่น่าประทับใจด้วยอัตราส่วนหน้าจอต่อเครื่องมากถึง 88% ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์Intel® Core ™ i7 และกราฟิกการ์ดแยก NVIDIA®GeForce® MX250 แล็ปท็อปเหล่านี้ยังมี PCIe® SSD ขนาด 1TB นี่เป็น VivoBook รุ่นแรกที่ มีคุณสมบัติกล้องอินฟราเรด (IR) และ Wi Fi 6 (802.11ax)
ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานด้วย ASUS ScreenPad 2.0
VivoBook S14 และ VivoBook S15 เป็นรุ่นแรกในซีรีส์ที่มาพร้อม ScreenPad 2.0 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของหน้าจอสัมผัสรองที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและอัพเกรดประสบการณ์การใช้งานแล็ปท็อป ขับเคลื่อนโดยซอฟต์แวร์ใหม่ ScreenXpert ScreenPad 2.0 มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ขึ้น 5.65 นิ้วที่มีคุณสมบัติและประโยชน์ใหม่ๆมากมาย หน้าจอรองแบบอินเทอร์แอคทีฟนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีชุดยูทิลิตี้ที่มีประโยชน์ของ ASUS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ได้แก่ Quick Key ช่วยให้การกดแป้นพิมพ์อัตโนมัติในลำดับที่ซับซ้อน การเขียนด้วยลายมือเพื่อป้อนข้อความ และปุ่มตัวเลขสำหรับป้อนข้อมูลอย่างรวดเร็ว อินเทอร์เฟซเหมือนสมาร์ทโฟนที่ปรับปรุงใหม่นั้นทำให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น นักพัฒนายังสามสามารถใช้ ASUS API เพื่อปรับแต่งซอฟต์แวร์และเพิ่มประสบการณ์การใช้งานให้แก่ผู้ใช้ สำหรับ ScreenPad ตอนนี้ฮาร์ดแวร์ประหยัดพลังงานมากกว่ารุ่นก่อนทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น 2.5 เท่าเมื่อใช้งานหน้าจอทัชแพด
การออกแบบที่ท้าทาย
VivoBook S14 และ VivoBook S15 ทั้งคู่มาพร้อมฝาเครื่องโลหะสี Moss Green, Punk Pink, Cobalt Blue, Silver ใส หรือ Gun Metal แต่ละสีนั้นเพิ่มความโดดเด่นให้แล็ปท็อป อย่างเช่นสี Moss Green ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติอย่าง Energetic Orange เพื่อแสดงถึงจิตวิญญาณในการออกสำรวจโลกภายนอกที่ยิ่งใหญ่ ในขณะที่สีแนวสตรีทไสตล์อย่าง Punk Pink ที่ตกแต่งขอบด้วยสี Moss Green นั้นแสดงให้เห็นถึงความไม่กลัว และยืนหยัดในสิ่งที่เชื่อของคนรุ่นใหม่ นี่เป็นครั้งแรกในแล็ปท็อปกลุ่ม VivoBook ที่มีโลโก้ VivoBook บนฝาและฝายังมีพื้นผิวสัมผัสที่สัมผัสได้เพื่อเน้นความแตกต่างของซีรีส์ต่อไป นอกจากนี้ยังมีการออกแบบที่ซับซ้อนเช่นช่องระบายอากาศที่ได้แรงบันดาลใจจากสิ่งทอลายทแยงและลำโพงที่ด้านล่างของตัวเครื่อง
การออกแบบจอแสดงผล NanoEdge นั้นส่งผลให้ VivoBook S14 และ VivoBook S15 มีขนาดตัวเครื่องที่กะทัดรัดกว่า ด้วยน้ำหนักเพียง 1.4 กก และ 1.8 กก ตามลำดับ สามารถใส่ในกระเป๋า หรือกระเป๋าเป้สะพายหลังได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่เดินทางอยู่ตลอดเวลา
คุณสมบัติที่เป็นมิตรกับผู้ใช้
จอแสดงผลไร้ขอบ NanoEdge ทั้งสี่ด้าน ทำให้ VivoBook S14 และ VivoBook S15 ที่มีความหนามากถึง 5.2 มม. และอัตราส่วนหน้าจอต่อเครื่อง 88% ให้ภาพที่สมจริงยิ่งขึ้นสำหรับการทำงานหรือการเล่น บานพับ ErgoLift ปรับคีย์บอร์ดให้เอียง 3.5 °เพื่อมอบประสบการณ์การพิมพ์ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ โครงสร้างชิ้นเดียวยังส่งผลให้บานพับมีความทนทานมากขึ้น
Intel-powered Wi-Fi 6 (802.11ax) มอบความเร็วเครือข่ายที่เร็วกว่าถึง 3X เร็วกว่า Wi-Fi 5 (802.11ac) และด้วย ความจุเครือข่าย 4X และความหน่วงแฝง 75% - ย่นระยะเวลาในการถ่ายโอนวิดีโอ 4K ขนาดใหญ่ มากถึง 70% กล้อง IR ในเครื่อง ทำงานร่วมกับ Windows Hello ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปลุกแล็ปท็อปและล็อกอินเข้าเครื่องได้อย่างง่ายดายเพียงแค่มอง นอกจากนี้ระบบเสียงที่ได้รับการรับรองจาก Harman Kardon ยังให้เสียงที่มีรายละเอียดคุณภาพสูงที่ไม่เป็นรองใคร
ฉลองเอกลักษณ์อันโดดเด่น
VivoBook S14 และ S15 ยังรวมถึงการออกแบบสติกเกอร์ที่มีเอกลักษณ์ และเข้ากันกับสีที่แตกต่างกัน ทั้ง 5 สี VivoBook ให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง VivoBook ของพวกเขาได้
ทั้งนี้ โน้ตบุ๊กใหม่ที่เปิดตัวครั้งนี้ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่ายในประเทศไทย ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/ASUSTHAILAND
เอซุสเปิดตัว VivoBook S14 (S431 / S432) และ VivoBook S15 (S531 / S532) แล็ปท็อปที่มีขนาดเล็กมากสามารถพกพาได้ มาพร้อมนวัตกรรมหน้าจอสัมผัส ASUS ScreenPad ™ 2.0 เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น และการออกแบบสีสันทีมีให้เลือกถึง 5 เฉดสี พกพาสะดวก เหมาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ โลหะที่เพรียวบาง สัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์และการออกแบบบานพับแบบ ErgoLift เพื่อการพิมพ์ที่สะดวกสบาย แล็ปท็อปทั้ง 2 รุ่นนี้ ออกแบบจอแสดงผล NanoEdge ไร้ขอบสี่ด้านซึ่งให้ขนาดที่เล็กลงและประสบการณ์การรับชมที่น่าประทับใจด้วยอัตราส่วนหน้าจอต่อเครื่องมากถึง 88% ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์Intel® Core ™ i7 และกราฟิกการ์ดแยก NVIDIA®GeForce® MX250 แล็ปท็อปเหล่านี้ยังมี PCIe® SSD ขนาด 1TB นี่เป็น VivoBook รุ่นแรกที่ มีคุณสมบัติกล้องอินฟราเรด (IR) และ Wi Fi 6 (802.11ax)
ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานด้วย ASUS ScreenPad 2.0
VivoBook S14 และ VivoBook S15 เป็นรุ่นแรกในซีรีส์ที่มาพร้อม ScreenPad 2.0 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของหน้าจอสัมผัสรองที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและอัพเกรดประสบการณ์การใช้งานแล็ปท็อป ขับเคลื่อนโดยซอฟต์แวร์ใหม่ ScreenXpert ScreenPad 2.0 มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ขึ้น 5.65 นิ้วที่มีคุณสมบัติและประโยชน์ใหม่ๆมากมาย หน้าจอรองแบบอินเทอร์แอคทีฟนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีชุดยูทิลิตี้ที่มีประโยชน์ของ ASUS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ได้แก่ Quick Key ช่วยให้การกดแป้นพิมพ์อัตโนมัติในลำดับที่ซับซ้อน การเขียนด้วยลายมือเพื่อป้อนข้อความ และปุ่มตัวเลขสำหรับป้อนข้อมูลอย่างรวดเร็ว อินเทอร์เฟซเหมือนสมาร์ทโฟนที่ปรับปรุงใหม่นั้นทำให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น นักพัฒนายังสามสามารถใช้ ASUS API เพื่อปรับแต่งซอฟต์แวร์และเพิ่มประสบการณ์การใช้งานให้แก่ผู้ใช้ สำหรับ ScreenPad ตอนนี้ฮาร์ดแวร์ประหยัดพลังงานมากกว่ารุ่นก่อนทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น 2.5 เท่าเมื่อใช้งานหน้าจอทัชแพด
การออกแบบที่ท้าทาย
VivoBook S14 และ VivoBook S15 ทั้งคู่มาพร้อมฝาเครื่องโลหะสี Moss Green, Punk Pink, Cobalt Blue, Silver ใส หรือ Gun Metal แต่ละสีนั้นเพิ่มความโดดเด่นให้แล็ปท็อป อย่างเช่นสี Moss Green ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติอย่าง Energetic Orange เพื่อแสดงถึงจิตวิญญาณในการออกสำรวจโลกภายนอกที่ยิ่งใหญ่ ในขณะที่สีแนวสตรีทไสตล์อย่าง Punk Pink ที่ตกแต่งขอบด้วยสี Moss Green นั้นแสดงให้เห็นถึงความไม่กลัว และยืนหยัดในสิ่งที่เชื่อของคนรุ่นใหม่ นี่เป็นครั้งแรกในแล็ปท็อปกลุ่ม VivoBook ที่มีโลโก้ VivoBook บนฝาและฝายังมีพื้นผิวสัมผัสที่สัมผัสได้เพื่อเน้นความแตกต่างของซีรีส์ต่อไป นอกจากนี้ยังมีการออกแบบที่ซับซ้อนเช่นช่องระบายอากาศที่ได้แรงบันดาลใจจากสิ่งทอลายทแยงและลำโพงที่ด้านล่างของตัวเครื่อง
การออกแบบจอแสดงผล NanoEdge นั้นส่งผลให้ VivoBook S14 และ VivoBook S15 มีขนาดตัวเครื่องที่กะทัดรัดกว่า ด้วยน้ำหนักเพียง 1.4 กก และ 1.8 กก ตามลำดับ สามารถใส่ในกระเป๋า หรือกระเป๋าเป้สะพายหลังได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่เดินทางอยู่ตลอดเวลา
คุณสมบัติที่เป็นมิตรกับผู้ใช้
จอแสดงผลไร้ขอบ NanoEdge ทั้งสี่ด้าน ทำให้ VivoBook S14 และ VivoBook S15 ที่มีความหนามากถึง 5.2 มม. และอัตราส่วนหน้าจอต่อเครื่อง 88% ให้ภาพที่สมจริงยิ่งขึ้นสำหรับการทำงานหรือการเล่น บานพับ ErgoLift ปรับคีย์บอร์ดให้เอียง 3.5 °เพื่อมอบประสบการณ์การพิมพ์ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ โครงสร้างชิ้นเดียวยังส่งผลให้บานพับมีความทนทานมากขึ้น
Intel-powered Wi-Fi 6 (802.11ax) มอบความเร็วเครือข่ายที่เร็วกว่าถึง 3X เร็วกว่า Wi-Fi 5 (802.11ac) และด้วย ความจุเครือข่าย 4X และความหน่วงแฝง 75% - ย่นระยะเวลาในการถ่ายโอนวิดีโอ 4K ขนาดใหญ่ มากถึง 70% กล้อง IR ในเครื่อง ทำงานร่วมกับ Windows Hello ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปลุกแล็ปท็อปและล็อกอินเข้าเครื่องได้อย่างง่ายดายเพียงแค่มอง นอกจากนี้ระบบเสียงที่ได้รับการรับรองจาก Harman Kardon ยังให้เสียงที่มีรายละเอียดคุณภาพสูงที่ไม่เป็นรองใคร
ฉลองเอกลักษณ์อันโดดเด่น
VivoBook S14 และ S15 ยังรวมถึงการออกแบบสติกเกอร์ที่มีเอกลักษณ์ และเข้ากันกับสีที่แตกต่างกัน ทั้ง 5 สี VivoBook ให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง VivoBook ของพวกเขาได้
ทั้งนี้ โน้ตบุ๊กใหม่ที่เปิดตัวครั้งนี้ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่ายในประเทศไทย ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/ASUSTHAILAND