Review: หูฟัง Wireless Skullcandy Venue เบสแน่น ดุดัน
ตัดขาดทุกเสียงรบกวน!!
สวัสดีเพื่อนๆชาว TechXcite ทุกท่านวันนี้ กู๊ดดรีม TechXcite จะมารีวิวหูฟัง Wireless ที่ตัดเสียงรบกวนได้อย่างยอดเยี่ยมมาพร้อมดีไซน์เรียบเท่ทันสมัย วัสดุแข็งแรงทนทานอย่าง Skullcandy Venue ที่ตอบโจทย์คนรักการฟังเพลงโดยการมอบเสียงอันทรงพลัง พร้อมสร้างโลกแห่งการฟังเพลงให้เป็นพื้นที่ส่วนตัว ไร้ซึ่งเสียงรบกวนแต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเลือกสลับเพื่อฟังเสียงจากภายนอกได้เพียงแค่กดปุ่ม อย่ารอช้า...ตามลงมาแกะกล่องไปพร้อมๆกันเลย
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- หูฟัง Skullcandy Venue
- เคสแข็งใส่หูฟัง ทรงกลมดีไซน์เรียบๆแต่เท่
- สายชาร์จ USB
- สายแจ๊ค 3.5
- คู่มือการใช้งาน
- Tile Bluetooth tracker
ทางด้านซ้ายจะเห็นจุด 4 จุดคือไฟแสดงค่าแบตเตอรี่ ถัดลงมาเป็นปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง การเช็คแบตเตอรี่เพียงแค่กดปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง 1 ที ไฟสีฟ้าจะเปลี่ยนเป็นสีขาวเพื่อแสดงสถานะของแบตเตอรี่ และด้านล่างคือปุ่มเพื่อใช้ในการตัดเสียงรบกวน การทำงานของมันคือเมื่อเราต้องการฟังเพลงในระดับที่ต้องการตัดเสียงรบกวนออกก็กดปุ่ม ANC ได้เลยและในขณะเดียวกันเมื่อเราต้องการฟังเสียงจากรอบข้างก็กดปุ่มเดียวกัน ไมค์เพื่อดูดเสียงภายนอกจะอยู่ตรงกากบาทสองข้างคอยดึงเสียงจากภายนอกเข้ามาโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก ในกรณีนี้เหมาะสำหรับการฟังเพลงในระหว่างการเดินทาง คอยรับรู้สิ่งแวดล้อมรอบข้างเพื่อความปลอดภัยโดยไม่เสียอรรถรสในการฟังเพลง
ขยับมาทางด้านขวาจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง กดหนึ่งครั้งเพื่อคอนโทรลเสียงดังเบา แต่ถ้าหากเราต้องการจะเปลี่ยนเพลง เพียงแค่กดปุ่มบวกค้างไว้จะเป็นการเลื่อนเพลงไปด้านหน้า หรือถ้าอยากย้อนกลับไปฟังเพลงก่อนหน้าก็เพียงแค่กดปุ่มลบค้างไว้ โดยพอร์ท USB และพอร์ทสำหรับเสียบสายแจ๊คจะอยู่ทางด้านขวาล่าง สรีระการออกแบบวางปุ่มใช้งานง่ายในตำแหน่งถนัดของนิ้วโป้ง ส่วนไมค์ที่จะคอยดูดเสียงเวลาพูดเป็นรูเล็กๆอยู่ด้านหน้าฝั่งขวาเช่นกัน คุณภาพการดูดเสียงชัดเจนดี
สัญลักษณ์บอกซ้ายขวาอยู่ด้านในก้านหูฟัง สามารถปรับกางหูฟังได้ 4 ถึงระดับแถมปรับกระชับเข้ากับใบหูได้แนบสนิท ในเรื่องของ Battery ใช้เวลาในการชาร์จเต็ม 2 ชั่วโมงครึ่ง ใช้งานยาวนานได้ทั้งวัน อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จเร็ว Rapid charge ที่ชาร์จเพียง 10 นาที ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 4-5 ชั่วโมง!
ต่อมา อีกหนึ่งจุดเด่นของ Skullcandy Venue คือมีการฝัง Tile Technology ไว้ภายในเพื่อใช้สำหรับระบุตำแหน่งและค้นหาได้ผ่าน Tile Application บนมือถือ ภายใต้ชื่อ feature ว่า Find With Tile ซึ่งเอาไว้ติดตามหากเราวางหูฟังลืมไว้ หรือใครมาหยิบไปก็สามารถเปิดแอพเพื่อดูตำแหน่งของหูฟังได้ผ่านสมาร์ทโฟน
เพียงโหลดแอพพลิเคชั่น Tile แล้วกดเลือกฟังก์ชั่น Skullcandy เพื่อตามหาหูฟังหากสูญหาย บนหน้าแอพพลิเคชั่นจะขึ้นเป็นโลเคชั่นแสดงพิกัดปัจจุบันของหูฟัง และอีกกรณีคือ หากเราเป็นคนขี้ลืมที่วางหูฟังไว้ตรงไหนสักที่บริเวณรอบๆ แต่นึกไม่ออก หาก็ไม่เจอว่ามันอยู่ตรงไหน อยากจะโทรหามันเหลือเกิน บนแอพก็มีฟังก์ชั่นที่เมื่อเรากดหาหูฟังปุ๊บ ระบบในสมาร์ทโฟนจะเชื่อมต่อไปยังหูฟัง เพื่อให้ตัวหูฟังส่งสัญญาณเป็นเสียงให้เราเดินตามหาได้อีกด้วย นึกอยากให้มีฟังก์ชั่นนี้ในของทุกสิ่งทุกอย่างเหลือเกิน ช่างเหมาะกับคนขี้ลืมเสียจริง
สรุปการใช้งาน
ในเรื่องของคุณภาพเสียง Skullcandy Venue ให้เสียงเบสที่แน่นดุดัน กระหึ่ม เนื้อเสียงหนักไปทางทุ้ม เก็บรายละเอียดของเสียงประกอบ เสียงดนตรีได้ดี เมื่อกดปุ่มเพื่อดูดเสียงรอบข้างออก เสียงเพลงจะเบาลง เสียงรอบข้างดังขึ้น ดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูเฉียบ มาพร้อมเคสแข็งรักษาสภาพอย่างดี จุดเด่นของตัวนี้เลยคือความสามารถในการตัดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวก ซึ่งตอบโจทย์ปัญหาของความยุ่งยากในการที่ต้องถอดหูฟังออกเพื่อรับฟังเสียงรอบข้าง มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ทนทานและระบบ Fast Charge ชาร์จเร็ว 10 นาที ใช้งานได้นานกว่า 4-5 ชั่วโมง เพียงพอต่อการใช้งานเวลานาน และอีกหนึ่งฟังก์ชั่นดีๆ อย่าง Tile Bluetooth tracker เพื่อการตามหาหูฟังในกรณีสูญหาย คนขี้ลืมสบายใจหายห่วง ในราคา 7,200 บาท!
**แถมฟรี** Tile Mate Bluetooth Tracker เฉพาะผู้สั่งจองจากร้าน Munkong gadget, Jaben Thailand และ Soundproof ในล็อตแรกเท่านั้น
คุณสมบัติเด่น
- หูฟัง Over-Ears แบบครอบหู กระชับเข้ากับศรีษะ
- เลือกตัดเสียงรบกวนหรือดูดเสียงจากภายนอกด้วย ANC
- ชาร์จเร็ว 10 นาที ใช้งานได้นานกว่า 4-5 ชั่วโมง
- มี Tile Bluetooth tracker เพื่อช่วยในการตามหาอุปกรณ์
- วัสดุแข็งแรงทนทาน มาพร้อมเคสแข็งที่ช่วยรักษาสภาพของหูฟัง
- เสียงเบสแน่นทุ้ม เนื้อเสียงละเอียด
ข้อสังเกต
- ตัวเลือกสีน้อย
- เมื่อกดปุ่มตัดเสียงรบกวนออก คนรอบข้างจะได้ยินเสียงเพลงจากหูฟังได้